อังกฤษ VS สวิสเซอร์แลนด์
อังกฤษ VS สวิสเซอร์แลนด์ |
โดยอันดับสองอีก 8 กลุ่มประกบคู่เพลย์ออฟเพื่อหา 4 ทีมบวกกับเจ้าภาพอีก 2 เป็น 16 ทีมสุดท้ายตามเงื่อนไขของสหพันธ์ฟุตบอลยุโรปหรือยูฟา
สำหรับตารางคะแนนในกลุ่มอังกฤษคือกลุ่มจี ล่าสุดเมื่อผ่านไปครึ่งทางมีดังนี้
Group G | |||||||
Team | P | W | D | L | F | A | Pts |
England | 4 | 3 | 1 | 0 | 9 | 1 | 10 |
Montenegro | 4 | 3 | 1 | 0 | 3 | 0 | 10 |
Switzerland | 4 | 1 | 1 | 2 | 5 | 5 | 4 |
Bulgaria | 4 | 1 | 1 | 2 | 1 | 5 | 4 |
Wales | 4 | 0 | 0 | 4 | 1 | 8 | 0 |
นัดนี้ยังเป็นสถานะการณ์ที่ไม่ง่ายสำหรับอังกฤษเมื่อสวิสเซอร์แลนด์เข้า ตาจนมาเยือนเวมบลีย์นัดนี้ พวกเขาต้องการอย่างน้อย 1 คะแนนในการต่อสู้กับ “สิงโตคำราม” เจ้าถิ่นหลังจากโดนถล่มคาบ้านในเกมเมื่อวันที่ 7 ก.ย. ปีที่แล้วถึง 3-1
ผลแข่งขันทั้ง 4 นัดอังกฤษ ; ชนะ บัลแกเรีย 4-0 (ฺห), ชนะสวิสเซอร์แลนด์ 3-1 (ย), เสมอมอนเตเนโกร 0-0 (ย), ชนะเวลส์ 2-0 (ห)
สวิสเซอร์แลนด์ ; แพ้อังกฤษ 1-3 (ห), แพ้มอนเตเนโกร 0-1 (ย), ชนะเวลส์ 4-1 (ห), เสมอบัลแกเรีย 0-0 (ย)
สถิติที่พบกัน
อังกฤษ | VS | สวิสเซอร์แลนด์ |
45 | ชนะ | 41 |
41 | แพ้ | 45 |
24 | เสมอ | 24 |
ตัวเลขที่พบกัน110 ครั้งจัดว่าสูสีกันพอตัว ยกเว้นนัดล่าสุดที่พบกันณ สนาม เซนต์ จาคอบ ของบาเซิล ที่บ้านสวิสปรากฏว่าพวกเขาแพ้ไป 1-3 ขาดลอย มาเกมนี้ทีมเยือนจากแดนนาฬิกามาด้วยสถานะการณ์ที่ยากลำบากพอตัวถ้าแพ้เกมนี้ โอกาสตกรอบมากถึง 90 เปอร์เซนต์ เพราะอีกคู่หนึ่งคือมอนเตเนโกรพบกับบัลแกเรียซึ่งแข่งขันเวลา 01.30 น. หลังทราบผลคู่อังกฤษ-สวิสเซอร์แลนด์แล้วนั่นเอง
อังกฤษ VS สวิสเซอร์แลนด์ วันเสาร์ที่ 4 มิ.ย. เวลา 22.45 น.
สนาม ; เวมบลีย์ ช่อง 7 สีถ่ายทอดสด
สภาพทีม อังกฤษ - ประกาศตัวออกมาชุดนี้มีถอนออกไปสองคนคือ เดวิด สตอตเดล นายประตูจากฟูแลม ซึ่งมีปัญหาส่วนตัว ขณะที่ ไมเคิล คาร์ริค กองกลางของแมนฯยูไนเต็ด ซ้อมได้ 1 วันก็ต้องถอนตัวเพราะเจ็บ ส่วนทางด้าน แจค วิลเชียร์ นั้นถูกส่งไปเป็นกำลังสำคัญให้ทีมชุด 21 ปีเพื่อทำศึกยูโรอายุต่ำกว่า 21 ปี
แดนกลางคงต้องปรับในตำแหน่งนี้หลังจาก วิลเชียร์ เริ่มปักหลักในแดนกลางได้ดีเยี่ยมกับทีมชาติชุดใหญ่แล้ว ขณะที่แดนหน้าปัญหาเยอะเพราะ เวย์น รูนีย์ ติดโทษพักแข้ง ที่เหลือ ปีเตอร์ เคราช์ ร่างกายไม่ร้อยเปอร์เซนต์ เจอร์เมน เดโฟ ถอนตัวไปก่อนหน้านี้ ส่วน บอบบี ซาโมรา ที่แรงเชียร์จากสื่ออังกฤษเยอะก็ไม่สมบูรณ์และเกมระดับทีมชาตินั้นมี ประสบการณ์น้อย
สวิสเซอร์แลนด์ - น่าจะหนักกว่าอังกฤษเมื่อสองนักเตะแกนนำของทีมที่เล่นมาตลอด 10 ปีนี้อย่าง อเลกซานเดอร์ ฟราย กับ มาร์โก สเตรลเลอร์ ประกาศเลิกเล่นทีมชาติแล้ว ทำให้ ออตมาร์ ฮิทช์เฟลด์ ที่ใกล้จะโดนปลดออกจากตำแหน่งนั้นเจองานหนักหนาสาหัสกว่าเดิม คาดกันว่านัดนี้หากแพ้อังกฤษน่าจะโดนปลดจากทีมชาติสวิสเซอร์แลนด์
ส่วนตัวผู้เล่นที่มาแทน ฟราย และ สเตรลเลอร์ นั้นยังมองไม่เห็นเท่าที่มีอยู่ในทีมเวลานี้ก็ เอเรน เดอร์ดิยอค ดาวยิงวัย 22 ปีที่ผ่านศึกฟุตบอลโลกมาแล้ว จะตองรับบทบาทนี้ ขณะที่ ฮาคาน ยาคิน ไม่ติดทีมชุดนี้ หลังจากไม่สร้างความประทับใจในเกมเสมอบัลแกเรีย 0-0
กลยุทธ์และผลที่คาด ฟาบิโอ คาเปลโล – คาดหวังกับชัยชนะเพื่อรักษาตำแหน่งจ่าฝูงต่อไปนัดนี้จะเน้นการเล่นระบบ 4-5-1 ผู้รักษาประตูกับกองหลังคงไม่มีปัญหาอะไร โจ ฮาร์ท, จอห์น เทอร์รี นำทีม แดนกลางน่าจะใช้ถึง 3 คน สกอต พาร์เกอร์ กับ เจมส์มิลเนอร์ เล่นคู่กันเพื่อดัน แฟร้งค์ แลมพาร์ด คุมเกมรุกเชื่อมกับ วัลคอต และ ยัง ปีกสองฝั่ง โดยกองหน้านั้นต้องเลือกหนึ่งคนคาดว่าจะเป็น ปีเตอร์ เคราช์ ได้สิทธิ์นี้ก่อน ดาร์เรน เบนต์
ออตมาร์ ฮิทช์เฟลด์ – จะต้องฝ่าวิกฤตของสวิสเซอร์แลนด์เที่ยวนี้ให้ได้แม้ว่าผลเสมออาจไม่เพียงพอ ต่อการลุ้นเข้ารอบ หากมอนเตเนโกรชนะบัลแกเรียในช่วง 2 ชั่วโมงต่อจากที่พวกเขาลงสนาม และแม้กระทั่งว่าแต้มเดียวอาจจะไม่ช่วยให้ ฮิทช์เฟลด์ อยู่ในตำแหน่งต่อไปแต่มันอาจทำให้สถานะการณ์คลี่คลายไปบ้าง
นัดนี้ระบบการเล่นและแผนการเล่นอาจออกมาแบบ 4-5-1 รับแล้วรอโต้เหมือนที่พวกเขาเคยหยุดสเปนได้ในฟุตบอลโลก 2010 โดยจะใช้ เดอร์ดิยอค ค้ำข้างหน้าคนเดียวกลาง 5 คนนำโดยกัปตันทีม กอคคาน อินเลอร์ จากอูดิเนเซ มี เกลสัน แฟร์นองเดซ และ เบห์รามี ช่วยงานด้านริมเส้น แนวรับมีกริชติ้ง และ ซีกเลอร์ ที่เคยเล่นกับสเปอร์ส เป็นหัวใจในการคุมกองหลัง
นัดนี้ขึ้นกับว่าอังกฤษที่เน้นบุกเข้าหาจะสบโอกาสเข้าทำได้มากน้อยขนาด ไหน เพราะสวิสเซอร์แลนด์ มารับอย่างเหนียวแน่น รอโต้กลับอย่างเดียว เพียงแต่ว่าทีมเยือนเวลานี้ไม่มีทีเด็ดในแนวรุกและกำลังใจถดถอยไปเยอะ โอกาสลุ้นเข้ารอบมีอย่างเดียวคือชนะอังกฤษ แต่ศักยภาพเวลานี้ไม่เต็มทีม และปัญหาเยอะแยะไปหมดดีที่สุดของพวกเขาคือยันเสมอได้ ส่วนอังกฤษนั้นเล่นเพื่อชนะ
เพียงแต่การขาด รูนีย์ ไปทำให้แนวรุกมีผลเหมือนกัน ถ้าชนะคงหืดจับน่าดูสำหรับสิงโตคำรามเที่ยวนี้
บทความโดย "แจ็คกี้" อดิสรณ์ พึ่งยา
ข้อมูลจาก : MSN ฟุตบอล วันที่ : 6/3/2011 11:52:09 AM