Saturday, June 4, 2011

อังกฤษ VS สวิสเซอร์แลนด์

อังกฤษ VS สวิสเซอร์แลนด์
 การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปหรือ ยูโร 2012 เดินทางมาถึงช่วงเวลาสำคัญในเดือน มิ.ย. ซึ่งถือว่าผ่านครึ่งทางในการคัดเลือกแชมป์กลุ่มและรองแชมป์กลุ่มที่มีคะแนน ดีที่สุด 1 ทีมเพื่อไปแข่งขันในรอบสุดท้ายที่ โปแลนด์กับยูเครนเป็นเจ้าภาพร่วมกันในปีหน้า



  โดยอันดับสองอีก 8 กลุ่มประกบคู่เพลย์ออฟเพื่อหา 4 ทีมบวกกับเจ้าภาพอีก 2 เป็น 16 ทีมสุดท้ายตามเงื่อนไขของสหพันธ์ฟุตบอลยุโรปหรือยูฟา
 สำหรับตารางคะแนนในกลุ่มอังกฤษคือกลุ่มจี ล่าสุดเมื่อผ่านไปครึ่งทางมีดังนี้

Group G
Team P W D L F A Pts
 England
4
3
1
0
9
1
10
 Montenegro
4
3
1
0
3
0
10
 Switzerland
4
1
1
2
5
5
4
 Bulgaria
4
1
1
2
1
5
4
 Wales
4
0
0
4
1
8
0

นัดนี้ยังเป็นสถานะการณ์ที่ไม่ง่ายสำหรับอังกฤษเมื่อสวิสเซอร์แลนด์เข้า ตาจนมาเยือนเวมบลีย์นัดนี้ พวกเขาต้องการอย่างน้อย 1 คะแนนในการต่อสู้กับ “สิงโตคำราม” เจ้าถิ่นหลังจากโดนถล่มคาบ้านในเกมเมื่อวันที่ 7 ก.ย. ปีที่แล้วถึง 3-1
ผลแข่งขันทั้ง 4 นัดอังกฤษ ; ชนะ บัลแกเรีย 4-0 (ฺห), ชนะสวิสเซอร์แลนด์ 3-1 (ย), เสมอมอนเตเนโกร 0-0 (ย), ชนะเวลส์ 2-0 (ห)
สวิสเซอร์แลนด์ ; แพ้อังกฤษ 1-3 (ห), แพ้มอนเตเนโกร 0-1 (ย), ชนะเวลส์ 4-1 (ห), เสมอบัลแกเรีย 0-0 (ย)

สถิติที่พบกัน

อังกฤษ
VS
สวิสเซอร์แลนด์
45
ชนะ
41
41
แพ้
45
24
เสมอ
24
 
ตัวเลขที่พบกัน110 ครั้งจัดว่าสูสีกันพอตัว ยกเว้นนัดล่าสุดที่พบกันณ สนาม เซนต์ จาคอบ ของบาเซิล ที่บ้านสวิสปรากฏว่าพวกเขาแพ้ไป 1-3 ขาดลอย มาเกมนี้ทีมเยือนจากแดนนาฬิกามาด้วยสถานะการณ์ที่ยากลำบากพอตัวถ้าแพ้เกมนี้ โอกาสตกรอบมากถึง 90 เปอร์เซนต์ เพราะอีกคู่หนึ่งคือมอนเตเนโกรพบกับบัลแกเรียซึ่งแข่งขันเวลา 01.30 น. หลังทราบผลคู่อังกฤษ-สวิสเซอร์แลนด์แล้วนั่นเอง

อังกฤษ VS สวิสเซอร์แลนด์ วันเสาร์ที่ 4 มิ.ย. เวลา 22.45  น.
 

สนาม ; เวมบลีย์ ช่อง 7 สีถ่ายทอดสด
สภาพทีม อังกฤษ - ประกาศตัวออกมาชุดนี้มีถอนออกไปสองคนคือ เดวิด สตอตเดล นายประตูจากฟูแลม ซึ่งมีปัญหาส่วนตัว ขณะที่ ไมเคิล คาร์ริค กองกลางของแมนฯยูไนเต็ด ซ้อมได้ 1 วันก็ต้องถอนตัวเพราะเจ็บ ส่วนทางด้าน แจค วิลเชียร์ นั้นถูกส่งไปเป็นกำลังสำคัญให้ทีมชุด 21 ปีเพื่อทำศึกยูโรอายุต่ำกว่า 21 ปี
 แดนกลางคงต้องปรับในตำแหน่งนี้หลังจาก วิลเชียร์ เริ่มปักหลักในแดนกลางได้ดีเยี่ยมกับทีมชาติชุดใหญ่แล้ว ขณะที่แดนหน้าปัญหาเยอะเพราะ เวย์น รูนีย์ ติดโทษพักแข้ง ที่เหลือ ปีเตอร์ เคราช์ ร่างกายไม่ร้อยเปอร์เซนต์ เจอร์เมน เดโฟ ถอนตัวไปก่อนหน้านี้ ส่วน บอบบี ซาโมรา ที่แรงเชียร์จากสื่ออังกฤษเยอะก็ไม่สมบูรณ์และเกมระดับทีมชาตินั้นมี ประสบการณ์น้อย
 สวิสเซอร์แลนด์ - น่าจะหนักกว่าอังกฤษเมื่อสองนักเตะแกนนำของทีมที่เล่นมาตลอด 10 ปีนี้อย่าง อเลกซานเดอร์ ฟราย กับ มาร์โก สเตรลเลอร์ ประกาศเลิกเล่นทีมชาติแล้ว ทำให้ ออตมาร์ ฮิทช์เฟลด์ ที่ใกล้จะโดนปลดออกจากตำแหน่งนั้นเจองานหนักหนาสาหัสกว่าเดิม  คาดกันว่านัดนี้หากแพ้อังกฤษน่าจะโดนปลดจากทีมชาติสวิสเซอร์แลนด์
 ส่วนตัวผู้เล่นที่มาแทน ฟราย และ สเตรลเลอร์ นั้นยังมองไม่เห็นเท่าที่มีอยู่ในทีมเวลานี้ก็ เอเรน เดอร์ดิยอค ดาวยิงวัย 22 ปีที่ผ่านศึกฟุตบอลโลกมาแล้ว จะตองรับบทบาทนี้ ขณะที่ ฮาคาน ยาคิน ไม่ติดทีมชุดนี้ หลังจากไม่สร้างความประทับใจในเกมเสมอบัลแกเรีย 0-0

กลยุทธ์และผลที่คาด ฟาบิโอ คาเปลโล – คาดหวังกับชัยชนะเพื่อรักษาตำแหน่งจ่าฝูงต่อไปนัดนี้จะเน้นการเล่นระบบ 4-5-1 ผู้รักษาประตูกับกองหลังคงไม่มีปัญหาอะไร โจ ฮาร์ท, จอห์น เทอร์รี นำทีม แดนกลางน่าจะใช้ถึง 3 คน สกอต พาร์เกอร์ กับ เจมส์มิลเนอร์ เล่นคู่กันเพื่อดัน แฟร้งค์ แลมพาร์ด คุมเกมรุกเชื่อมกับ วัลคอต และ ยัง ปีกสองฝั่ง โดยกองหน้านั้นต้องเลือกหนึ่งคนคาดว่าจะเป็น ปีเตอร์ เคราช์ ได้สิทธิ์นี้ก่อน ดาร์เรน เบนต์
 ออตมาร์ ฮิทช์เฟลด์ –  จะต้องฝ่าวิกฤตของสวิสเซอร์แลนด์เที่ยวนี้ให้ได้แม้ว่าผลเสมออาจไม่เพียงพอ ต่อการลุ้นเข้ารอบ หากมอนเตเนโกรชนะบัลแกเรียในช่วง 2 ชั่วโมงต่อจากที่พวกเขาลงสนาม และแม้กระทั่งว่าแต้มเดียวอาจจะไม่ช่วยให้ ฮิทช์เฟลด์ อยู่ในตำแหน่งต่อไปแต่มันอาจทำให้สถานะการณ์คลี่คลายไปบ้าง
 นัดนี้ระบบการเล่นและแผนการเล่นอาจออกมาแบบ 4-5-1 รับแล้วรอโต้เหมือนที่พวกเขาเคยหยุดสเปนได้ในฟุตบอลโลก 2010 โดยจะใช้ เดอร์ดิยอค ค้ำข้างหน้าคนเดียวกลาง 5 คนนำโดยกัปตันทีม กอคคาน อินเลอร์ จากอูดิเนเซ มี เกลสัน แฟร์นองเดซ และ เบห์รามี ช่วยงานด้านริมเส้น แนวรับมีกริชติ้ง และ ซีกเลอร์ ที่เคยเล่นกับสเปอร์ส เป็นหัวใจในการคุมกองหลัง
 นัดนี้ขึ้นกับว่าอังกฤษที่เน้นบุกเข้าหาจะสบโอกาสเข้าทำได้มากน้อยขนาด ไหน เพราะสวิสเซอร์แลนด์ มารับอย่างเหนียวแน่น รอโต้กลับอย่างเดียว  เพียงแต่ว่าทีมเยือนเวลานี้ไม่มีทีเด็ดในแนวรุกและกำลังใจถดถอยไปเยอะ โอกาสลุ้นเข้ารอบมีอย่างเดียวคือชนะอังกฤษ แต่ศักยภาพเวลานี้ไม่เต็มทีม และปัญหาเยอะแยะไปหมดดีที่สุดของพวกเขาคือยันเสมอได้ ส่วนอังกฤษนั้นเล่นเพื่อชนะ
 เพียงแต่การขาด รูนีย์ ไปทำให้แนวรุกมีผลเหมือนกัน ถ้าชนะคงหืดจับน่าดูสำหรับสิงโตคำรามเที่ยวนี้

บทความโดย "แจ็คกี้" อดิสรณ์ พึ่งยา


ข้อมูลจาก : MSN ฟุตบอล วันที่ : 6/3/2011 11:52:09 AM

ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ

คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ

ข่าวฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ

อย่าลืมกด Like ให้ด้วยนะครับ

Blog Archive

7m, ผลบอลพรีเมียร์, วิเคราะห์บอลพรีเมียร์, ข่าวฟุตบอลพรีเมียร์, ตารางคะแนนบอลพรีเมียร์, โปรแกรมฟุตบอลพรีเมียร์, โปรแกรมถ่ายทอดสดบอลพรีเมียร์, ตารางบอล, คลิปฟุตบอล, คลิปไฮไลท์, คลิปไฮไลท์บอลพรีเมียร์, สยามกีฬา, บ้านผลบอล, เซียนสเต็ป, ล้มโต๊ะ, Goal, ดูบอลพรีเมียร์ออนไลน์, ผลบอลสด, ฟุตบอล, ผลบอลวันนี้, บอลวันนี้, ผลบอลเมื่อคืน, ผลฟุตบอล, ฟุตบอลวันนี้, โปรแกรมฟุตบอล, บอล, ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก, ตารางบอล, ข่าวฟุตบอล, คลิบฟุตบอล, เกมส์ุฟุตบอล, ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีก, ผลฟุตบอลสด, football, soccer

ข่าวสโมสรพรีเมียร์ลีกอังกฤษทั้งหมด

Man Utd (151) Liverpool (148) Chelsea (62) Tottenham (61) Arsenal (60) Man City (51) Aston Villa (45) Newcastle (45) Stoke (42) Fulham (40) Sunderland (35) Everton (33) West Brom (31) Wigan (29) Swansea (25) Bolton (24) Blackburn (23) Norwich (22) QPR (22) West Ham (18) Birmingham (10) Blackpool (10) Reading (10) Southampton (10) Cardiff City (3) Crystal Palace (2) Hull City (2)