ร็อดเจอร์สเผยเตรียมจับซูโซ่ต่อสัญญาหลังฟอร์มแจ่ม

เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล เปิดเผยว่า ต้นสังกัดเตรียมยื่นสัญญาฉบับใหม่ให้กับ ซูโซ่ มิดฟิลด์ดาวรุ่งของทีม

ต้นสังกัดเตรียมยื่นสัญญาฉบับใหม่ให้กับ ซูโซ่ มิดฟิลด์ดาวรุ่งของทีม
ซูโซ่ ย้ายจาก กาดิซ สโมสรในสเปน มาร่วมถิ่นแอนฟิลด์ เมื่อปี 2010 และกำลังพูดคุยถึงเรื่องการขยายสัญญาที่จะหมดลงในช่วงซัมเมอร์หน้า โดยแข้งวัย 18 ปี ซึ่งเป็นสมาชิกทีมชาติสเปน ชุดคว้าแชมป์ยุโรปรุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี ที่เอสโตเนีย เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ลงเล่นนัดแรกให้ ลิเวอร์พูล ในเกมยูโรปา ลีก กับ ยังบอยส์ เบิร์น เดือนกันยายนนี้
แข้งชาวสเปน เล่นในพรีเมียร์ลีกนัดแรกในฐานะตัวสำรองในเกมฟาดแข้งกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่แอนฟิลด์ เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ก่อนจะเปิดบอลให้ นูริ ซาฮิน พังประตูในศึกแคปิตอล วัน คัพ ที่ชนะ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน 2-1 เมื่อวันพุธที่ผ่านมา
"สัญญาเป็นสิ่งที่เรากำลังพิจารณาอยู่ ซูโซ่ ทำให้มันเกิดขึ้น เขาเป็นนักเตะที่ยอดเยี่ยมทั้งในเรื่องแท็กติกและเทคนิคการครองบอล ผมชอบนักเตะอย่างนั้น คุณเห็นแล้วเมื่อเขาลงมาในเกมกับ เวสต์บรอม เขาครองบอลได้ในพื้นที่แคบๆ เขามีความสามารถในการหาพื้นที่และมีพรสวรรค์อย่างแท้จริง เขารู้ว่าเขายังต้องเรียนรู้อีกมาก แต่เขาก็เป็นเด็กดี" ร็อดเจอร์ส กล่าว
Read More

คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 29 ก.ย. 55 | แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2 - 3 สเปอร์ส

คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 29 ก.ย. 55 | แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2 - 3 สเปอร์ส
คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 29 ก.ย. 55 | แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2 - 3 สเปอร์ส
คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 29 ก.ย. 55 | แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2 - 3 สเปอร์ส

คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 29 ก.ย. 55 | แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2 - 3 สเปอร์ส
ประตู
0 - 1 แยน แฟร์ตองเกน น.2
0 - 2 แกเร็ธ เบลล์ น.32
1 - 2 หลุยส์ นานี น.51
1 - 3 คลินท์ เดมพ์ซีย์ น.52
2 - 3 ชินจิ คากาวะ น.54
Read More

ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 29 ก.ย. 55 | แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2 - 3 สเปอร์ส

ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 29 ก.ย. 55 | แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2 - 3 สเปอร์ส
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 29 ก.ย. 55 | แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2 - 3 สเปอร์ส
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 29 ก.ย. 55 | แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2 - 3 สเปอร์ส
ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ บุกมาทำช็อกเฉือนชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่พยายามเร่งเครื่องบุกอย่างหนักช่วงท้ายเกม 3-2 พ่ายต่อ "ไก้เดือยทอง" คาถิ่นโอลด์ แทร๊ฟฟอร์ด เป็นครั้งแรกในรอบ 23 ปี ในเกมพรีเมียร์ลีก คู่สุดท้ายประจำวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 29 ก.ย. 55
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2 - 3 สเปอร์ส

        เกมพรีเมียร์ลีก คู่สุดท้ายของ วันเสาร์ที่ 29 ก.ย. แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดโรงละครแห่งความฝันรับการมาเยือนของ สเปอร์ส ภายใต้การทำทีมของ อังเดร บียาส-โบอาส ที่เกมนี้วาง เจอร์เมน เดโฟ เป็นหอกเป้า และใช้ อาร์รอน เลนนอน กับ แกเร็ธ เบลล์ ทำเกมสองฝั่ง ขณะที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน พัก เวย์น ูนีย์ เป็นสำรอง และให้ ชินจิ คากาวะ เป็นเพลเมกเกอร์ อยู่หลัง โรบินฟาน เพอร์ซี
      
แฟร์ตองเกน ประเดิมประตูแรกให้ สเปอร์ส
         ออกสตาร์ทมาเพียง 2 นาที แยน แฟร์ตองเกน ทำช็อกแฟน "ปิศาจแดง" ด้วยการลากเดี่ยวแหวกแนวรับเจ้าถิ่น 3 คนเข้ามาก่อนเสียหลักยิงด้วยขวา แต่มีโชคบอลไปแฉลบ จอนนี อีแวนส์ เปลี่ยนทางเข้าไปทางเสาแรกให้ "ไก่เดือยทอง" ออกนำก่อน 1-0 หลังเสียประตูเจ้าถิ่นยังครองเกมมากกว่าแต่ก็เร่งเอาประตูกลับมาไม่ได้
      
        ผ่าน 20 นาที จังหวะสวนกลับของ "ไก่เดือนทอง" สร้างปัญหาให้ "ผีแดง" ได้ต่อเนื่อง แต่เกมส่วนใหญ่ยังสู้กันที่กลางสนาม กระทั้งนาที 31 เบลล์ ใช้ความเร็วลากหนี เฟอร์ดินานด์ ที่ช้าอยู่แล้วไปทางขวาก่อนยิงหักข้อกลับมาที่เสา 2 บอลผ่านมือ อันเดอร์ส ลินเดอร์การ์ด เข้าไปกระทบตาข่ายง่ายๆ ขยับหนีห่างเป็น 2-0 ชนิดที่แฟน ยูไนเต็ด ได้แต่อึ้งท้ายครึ่งแรกเจ้าบ้านเร่งเครื่องขึ้นมาอีกครั้งแต่ยังไม่มีประตู เพิ่มจบครึ่งต้องไปแก้เกมกลับมาใหม่
      
        กลับมาครึ่งหลัง "เฟอร์กี" ไม่ลังเลที่จะส่ง รูนีย์ ลงมาแทน กิ๊กส์ เพื่อเพิ่มสปีดเกมมากขึ้น และเห็นผลทันที เมื่อหัวหอกทีมชาติอังกฤษเปิดจากขวาเข้ามาหน้าประตู นานี พุ่งชาร์ตจ่อๆ เข้าประตูไปช่วยให้ เจ้าถิ่นเฮกันลั่น ไล่มา 1-2 ทว่า "ไก่เดือยทอง" ขยับหนีเป็น 3-1 เบลล์ หลุดมายิงเน้นๆ ลินเดอร์การ์ด ปัดมาเข้าทางปืน คลินท์ เดมพ์ซีย์ ซ้ำเข้าไปไม่มีเหลือ
      
        อย่างไรก็ดี ยูไนเต็ด ตอบโต้ทันควัน โรบินฟาน เพอร์ซี แทงทะลุให้ คากาวะ หลุดกับดักล้ำหน้า ก่อนแปสวนตัว ฟรีเดล เข้าไปทางเสาสองอย่างสวยงามขยับตามติดเป็น 2-3 แบบสุดมันส์ นาที 58 คากาวะ ลากบอลเข้าเขตโทษ ไคล์ วอลเกอร์ สกัดล้มลงไป แต่ คริส ฟอย ใจแข็งปล่อยให้เล่นต่อไป 2 นาที ถัดมา รูนีย์ บรรจงปั่นฟรีคิกข้ามกำแพงบอลพุ่งชนเต็มเสา กระดอนออกมาอย่างน่าเสียดาย
      
        ดำเนินถึงนาที 68 "ผีแดง" ที่กดดันหนักน่าจะได้ประตูตีเสมอ "อาร์วีพี" หลุกทางฝั่งซ้ายแต่ยิงบอลหลุดเสาสองออกไปไม่น่าเชื่อ จากนั้น นาที 81 แนวรับ สเปอร์ส เคลียไม่ขาดมาตกอยู่ที่หน้า สโคลส์ สับไกเต็มข้อบอลพุ่งน่ากลัวแต่ไม่ห่าง ฟรีเดล ทุบทิ้งออกมาได้ทัน ท้ายเกม คาร์ริก โหม่งลูกเตะมุมบอลย้อยชนคาน พลาดโอกาสตีเสมออีกครั้ง
      
       ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เจ้าถิ่นยังขึงเกมรุกไว้ต่อเนื่องแต่จังหวะสุดท้ายไม่คมกันเองยิงนกตกปลาไป หมด ทำให้พ่ายไปแบบหวุดหวิด 2-3 ทำให้ โบอาส พา สเปอร์ เก็บชัยชนะ 3 เกมรวด ส่วน ยูไนเต็ด แพ้เป็นเกมที่ 2 ในฤดูกาล
      
       รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
       แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : อันเดอร์ส ลินเดอร์การ์ด, ริโอเฟอร์ดินานด์, จอนนี อีแวนส์, ราฟาเอล, ปาทริช เอวรา, ไมเคิล คาร์ริก, พอล สโคลส์, ไรอัน กิ๊กส์, หลุยส์ นานี, โรบินฟาน เพอร์ซี, ชินจิ คากาวะ
       สเปอร์ส : แบรด ฟรีเดล, วิลเลียม กัลลาส, แยน แฟร์ตองเกน, ไคล์ วอลเกอร์, สตีเวน เคลาเกอร์, อาร์รอน เลนนอน, คลินท์ เดมพ์ซีย์, มุสซา เดมเบเล, แกเร็ธ เบลล์, ซานโดร, เจอร์เมน เดโฟ


Read More

คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 29 ก.ย. 55 | นอริช ซิตี้ 2 - 5 ลิเวอร์พูล

คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 29 ก.ย. 55 | นอริช ซิตี้ 2 - 5 ลิเวอร์พูล
คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 29 ก.ย. 55 | นอริช ซิตี้ 2 - 5 ลิเวอร์พูล
คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 29 ก.ย. 55 | นอริช ซิตี้ 2 - 5 ลิเวอร์พูล

คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 29 ก.ย. 55 | นอริช ซิตี้ 2 - 5 ลิเวอร์พูล

ประตู
0 - 1 หลุยส์ ซัวเรส น.2
0 - 2 หลุยส์ ซัวเรส น.38
0 - 3 นูริ ซาฮิน น.47
0 - 4 หลุยส์ ซัวเรส น.57
1 - 4 สตีฟ มอริสัน น.61
1 - 5 สตีเวน เจอร์ราร์ด น. 68
2 - 5 แกรนท์ โฮลท์ น.87
Read More

คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 29 ก.ย. 55 | เรดดิง 2 - 2 นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด

คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 29 ก.ย. 55 | เรดดิง 2 - 2 นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด
คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 29 ก.ย. 55 | เรดดิง 2 - 2 นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด
คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 29 ก.ย. 55 | เรดดิง 2 - 2 นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด

คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 29 ก.ย. 55 | เรดดิง 2 - 2 นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด
ประตู
1 - 0 จิมมี เคเบ น. 57
1 - 1 เดมบา บา น.59
2 - 1 โนเอล ฮันท์ น.62
2 - 2 เดมบา บา น.83
Read More

คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 29 ก.ย. 55 | ฟูแลม 1 - 2 แมนเชสเตอร์ ซิตี

คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 29 ก.ย. 55 | ฟูแลม 1 - 2 แมนเชสเตอร์ ซิตี
คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 29 ก.ย. 55 | ฟูแลม 1 - 2 แมนเชสเตอร์ ซิตี
คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 29 ก.ย. 55 | ฟูแลม 1 - 2 แมนเชสเตอร์ ซิตี

คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 29 ก.ย. 55 | ฟูแลม 1 - 2 แมนเชสเตอร์ ซิตี
ประตู
1 - 0 มลาเดน เพทริช น.10 (จุดโทษ)
1 - 1 เซร์คิโอ อกูเอโร น.44
1 - 2 เอดิน เชโก น.87
Read More

คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 29 ก.ย. 55 | อาร์เซนอล 1 - 2 เชลซี

คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 29 ก.ย. 55 | อาร์เซนอล 1 - 2 เชลซี
คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 29 ก.ย. 55 | อาร์เซนอล 1 - 2 เชลซี
คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 29 ก.ย. 55 | อาร์เซนอล 1 - 2 เชลซี
คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 29 ก.ย. 55 | อาร์เซนอล 1 - 2 เชลซี
ประตู
0 - 1 เฟร์นันโด ตอร์เรส น.20
1 - 1 แชร์วินโญ น.42
1 - 2 ฆวน มาตา น.53
Read More

ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 29 ก.ย. 55 | นอริช ซิตี้ 2 - 5 ลิเวอร์พูล

ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 29 ก.ย. 55 | นอริช ซิตี้ 2 - 5 ลิเวอร์พูล
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 29 ก.ย. 55 | นอริช ซิตี้ 2 - 5 ลิเวอร์พูล
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 29 ก.ย. 55 | นอริช ซิตี้ 2 - 5 ลิเวอร์พูล
หลุยส์ ซัวเรส หัวหอกอุรุกวัยระเบิดฟอร์มทำแฮตทริกช่วยให้ ลิเวอร์พูล ประเดิมชัยนักแรกในของฤดูกาลด้วยการบุกถล่ม นอริช ซิตี 5-2 ขณะที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี เอาตัวรอดพลิกแซงชนะ ฟูแล่ม 2-1 ในเกมพรีเมียร์ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 29 ก.ย. ที่ผ่านมา

ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 29 ก.ย. 55
นอริช ซิตี้ 2 - 5 ลิเวอร์พูล
 "นกขมิ้น" นอริช เปิดรังต้อนรับ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ที่ยังมองหาชัยชนะนัดแรกในลีก เกมนี้ คริส ฮิวจ์ตัน ส่ง สตีฟ มอร์ริสันจับคู่ ซิโมน แจ็คสัน ในตำแหน่งศูนย์หน้า ขณะที่ เบรนแดน ร็อดเจอร์ ให้โอกาส ซูโซ และ ราฮีม สเตอร์ลิง ลงเป็นตัวจริงต่อเนื่อง โดยมี สตีเว่น เจอร์ราด ทำหน้าที่จอมทัพคุมเกมตรงกลาง
     
       ออกสตาร์ทมานาทีแรกของเกม จอห์นสัน ลากตัดเข้าในจากฝั่งซ้ายพยายามจ่ายยัดเข้าเขตโทษบอลติดแนวรับเจ้าบ้านมาเข้า ทาง ซัวเรส ซัดเรียดด้วยขวาบอลพุ่งเข้ามุมประตูส่งให้ทีมออกนำ 1-0 อย่างรวดเร็ว ผ่าน 10 นาที แบรดลีย์ จอห์นสัน น่าจะตามตีเสมอให้ "นกขมิ้น" ได้ทันควันจากการหลุดขึ้นมายิงมุมแคบ ทว่า เปเป เรนา บีบออกมาปิดมุมช่วยเซฟไว้ได้หวุดหวิด
     
       ผ่านช่วง 20 นาทีแรก บอลกับพื้นของ ลิเวอร์พูล ยังทำเกมบุกได้ต่อเนื่องและหาจังหวะลุ้นยิงประตูได้บ่อยครั้ง กระทั้งนาที 22 ลีออน เบนเน็ตท์ เข้าปะทะ หลุยส์ ซัวเรส ด้านหลังก่อนดาวยิงอุรุกวัยล้มลงไปขอจุดโทษแต่ผู้ตัดสินยังเฉย ถัดมา 3 นาที บอลยาวของ นอริช ป่วนแนวรับ "หงส์แดง" ได้อีก โจนาธาน ฮอว์สันชงมาให้ แจ็คสัน วอลเลย์ เต็มเท้าบอลเหินคานไปไม่ไกล
     
       เข้าสู่นาที 30 เกมออกรสชาติมากขึ้นเป็นทีมเยือนนน่าจะหนีห่างออกไปก่อน จากลูกทิ้งตัวโหม่งของ เจอร์ราร์ด โชคยังดีมี จอห์น รัดดี ช่วยซูเปอร์เซฟเอาไว้ได้ จากนั้น "นกขมิ้น" โต้กลับเร็ว แบรดลีย์ จอห์นสัน ยิงไกลบอลถูกเปลี่ยนทางโดย แจ็คสัน เรนา พุ่งปัดทิ้งหวุดหวิดแต่กรรมการยกเป็นลูกล้ำหน้าก่อน และเป็น ซัวเรส มาพังประตูที่สองของตัวเองด้วยลูกยิงไซร์ก้อย จากจังหวะพลาดของ ไมเคิล เทอร์เนอร์ พร้อมปิดครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นำ 2-0
     
       กลับมาเล่นครึ่งหลัง นอริช น่าจะได้ประตูไล่มา บอลโยนข้ามมาเสาสอง อันดรูว เซอร์แมน ชาร์ตจ่อๆ บอลมาถูก โรเบิร์ต สน็อดกราสส์ ข้ามออกไป หลังไม่เสีย ลิเวอร์พูล มาได้ประตูหนีห่าง 3-0 ซัวเรส พาบอลข้ามเขตโทษล็อกหนึ่งจังหวะก่อนจ่ายใส่พานให้ นูริ ซาฮิน วิ่งมาแปเน้นๆ บอลซุกก้นตาข่ายง่ายๆ
     
ซัวเรส ซัดแฮตทริก
       นาที 56 ซัวเรส มาทำแฮตทริกแรกของตัวเองในฤดูกาลนี้ได้สำเร็จกลายเป็นประตูนำห่าง 4-0 จาก จังหวะเอียงตัวปั้นบอลผ่านตัว รัสเซลล์ มาร์ติน ที่ได้แต่ยืนมองบอลโค้งเข้าทางเสาร์ 2 อย่างสวยงามชนิดที่ จอห์น รัดดี ได้แต่ยืนมอง และ 4 นาทีถัดมา เรนา เซฟลูกยิงของ มาร์ติน มาเข้าทาง สตีฟ มอร์ริสัน กดซ้ำเข้าไปไม่มีเหลือไล่มาห่างๆ 1-4
     
       จังหวะขึ้นเกมริมเส้นในนาที 67 ของ สเตอร์ลิง ตบเข้ากลางเป็น เจอร์ราร์ด วิ่งมาแปบอลแฉลบ เบนเน็ตท์ บอลผ่าน รัดดี ที่หลงทางไปแล้วเข้าประตูไปง่ายๆ หนีห่างเป็น 5-1 โดยช่วงท้ายเกม แรนท์ โฮลท์ ตัวสำรองมาทำประตูปลอบใจไล่มาเป็น 2-5 ทว่า "หงส์แดง" ที่เหนือกว่าทุกทางเผาเวลาประเดิมชัยชนะเป็นนักแรกของฤดูกาลอย่างสวยหรู เก็บเพิ่มเป็น 5 แต้ม ขณะที่ นอริช ยังต้องรอชัยชนะต่อไป
     
       ขณะที่ผลอีกคู่ แมนเชสเตอร์ ซิตี ที่ถูก ฟูแลม ขึ้นนำก่อนจากจุดโทษของ มลาเดน เพทริช ในช่วงครึ่งแรก พลิกกลับมาคว้าชัย 2-1 ได้สำเร็จจาก 2 ประตูของ เซร์คิโอ อกูเอโร ช่วงท้ายครึ่งแรก และ เอดิน เชโก ในช่วงท้ายครึ่งหลังเอาตัวรอดเก็บชัยชนะเป็นเกมแรกใน 4 เกมหลังสุดในทุกรายการ
     
       รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
       นอริช ซิตี : จอห์น รัดดี, รัสเซลล์ มาร์ติน, ไมเคิล เทอร์เนอร์, ฮาร์เวีย การ์ริโด, ลีออน เบนเน็ตท์, แบรดลีย์ จอห์นสัน, โรเบิร์ต สน็อดกราสส์, โจนาธาน ฮอว์สัน, อันดรูว เซอร์แมน, ซิโมน แจ็คสัน, สตีฟ มอร์ริสัน
       ลิเวอร์พูล : เปเป เรนา, เกล็น จอห์นสัน, แดเนียล แอ๊กเกอร์, มาร์ติน สเคอร์เทล, อังเดร วิสดอม, นูริ ซาฮิน, สตีเว่น เจอร์ราด, โจ อัลเลน, หลุยส์ ซัวเรส, ซูโซ, ราฮีม สเตอร์ลิง
     
       สรุปผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำวันเสาร์ที่ 29 ก.ย.
     
อาร์เซนอล 1 - 2 เชลซี
0 - 1 เฟร์นันโด ตอร์เรส น.20
1 - 1 แชร์วินโญ น.42
1 - 2 ฆวน มาตา น.53
     
เอฟเวอร์ตัน 3 - 1 เซาแธมป์ตัน
0 - 1 แกสตัน รามิเรซ น.6
1 - 1 ลีออน ออสมัน น.25
2 - 1 นิกิกา เยลาวิช น.32
3 - 1 นิกิกา เยลาวิช น.38
      
ฟูแลม 1 - 2 แมนเชสเตอร์ ซิตี
1-0 มลาเดน เพทริช น.10 (จุดโทษ)
1-1 เซร์คิโอ อกูเอโร น.44
1-2 เอดิน เชโก น.87
      
นอริช ซิตี 2 - 5 ลิเวอร์พูล
0 - 1 หลุยส์ ซัวเรส น.2
0 - 2 หลุยส์ ซัวเรส น.38
0 - 3 นูริ ซาฮิน น.47
0 - 4 หลุยส์ ซัวเรส น.57
1 - 4 สตีฟ มอริสัน น.61
1 - 5 สตีเวน เจอร์ราร์ด น. 68
2 - 5 แกรนท์ โฮลท์ น.87
      
เรดดิง 2 - 2 นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด
1 - 0 จิมมี เคเบ น. 57
1 - 1 เดมบา บา น.59
2 - 1 โนเอล ฮันท์ น.62
2 - 2 เดมบา บา น.83
      
สโต๊ค ซิตี 2 - 0 สวอนซี ซิตี
1 - 0 ปีเตอร์ เคราช์ น.12
2 - 0 ปีเตอร์ เคราช์ น.36
      
ซันเดอร์แลนด์ 1 - 0 วีแกน
1 - 0 สตีเฟน เฟล็ทเชอร์ น.51
Read More

ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 29 ก.ย. 55 | อาร์เซนอล 1 - 2 เชลซี

ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 29 ก.ย. 55 | อาร์เซนอล 1 - 2 เชลซี
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 29 ก.ย. 55 | อาร์เซนอล 1 - 2 เชลซี
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 29 ก.ย. 55 | อาร์เซนอล 1 - 2 เชลซี
เชลซี อาศัยความเหนียวแน่นในเกมรับและใช้โอกาสไม่เปลือง บุกยัดเยียดความปราชัยหนแรกศึก พรีเมียร์ชิป อังกฤษ ฤดูกาลนี้ให้กับ อาร์เซนอล 2-1 เมื่อวันเสาร์ที่ 29 กันยายน 2555 โดยได้ประตูจาก เฟร์นานโด ตอร์เรส และ ฆวน มาตา ยึดตำแหน่งจ่าฝูงต่อไปอีกหนึ่งสัปดาห์

ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 29 ก.ย. 55
อาร์เซนอล 1 - 2 เชลซี

ดาร์บี แมตช์ กรุงลอนดอน "จ่าฝูง" เชลซี สตาร์ท 5 นัดเก็บไป 13 แต้มบุกรัง อาร์เซนอล ที่ตามหลัง 4 แต้ม ถือว่าทั้งสองทีมออกสตาร์ทได้ยอดเยี่ยม แถมเพิ่งควงกันเข้ารอบ 4 ศึก แคปิตอล วัน คัพ ด้วยการถล่มคู่ต่อสู้ด้วยสกอร์ครึ่งโหลมาเช่นกัน เจ้าถิ่นยังใช้ วิโต มานโนเน เฝ้าเสาเพราะผู้รักษาประตูมือ 1 และ 2 ยังเจ็บ แถมปรับกระบวนทัพเซนเตอร์แบ็กพัก แพร์ แมร์เตซัคเกอร์ ด้านทีมเยือนส่ง จอห์น เทอร์รี กองหลังที่กลายเป็นประเด็นร้อนถูก สมาคมฟุตบอลอังกฤษ ลงโทษแบน 4 นัดและปรับเงิน 220,000 ปอนด์ (ประมาณ 11 ล้านบาท) กรณีเหยียดผิวตั้งแต่ซีซันที่แล้ว
      
      
ตอร์เรส (ที่ 2 จากขวา) ยิงให้ทีมเยือนนำเร็ว
ช่วงต้นเกมทั้งสองทีมเปิดบอลเร็วโจมตีแต่ยังทันกันทั้งรุกและรับ จนกระทั่งนาที 17 อาร์เซนอล เจอเหตุสุดวิสัยต้องปรับแท็กติกถอด อาบู ดิอาบี กองกลางที่บาดเจ็บแล้วส่ง อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ลงมาแทน จากนั้น 3 นาทีเจ้าถิ่นก็ตกเป็นรอง 0-1 เมื่อ ฆวน มาตา เปิดฟรีคิกจากระยะ 30 หลาเยื้องไปทางกราบขวาเลยไปถึงเสาสอง โลร็องต์ กอสเซียลนีย์ ประกบพลาดปล่อยให้ เฟร์นานโด ตอร์เรส ที่อยู่ด้านหลังแท้ๆ ยื่นเท้ามาแปบอลปาดหน้าเข้าประตูไป
      
       หลังตกเป็นรอง อาร์เซนอล พาบอลบุกโจมตีได้ทั้งซ้ายและขวาแต่ยังเปิดบอลไม่เข้าเป้าผิดกับ เชลซี ที่สวนกลับนาที 23 เกือบได้ประตูที่ 2 ตอร์เรส หลุดเดี่ยวแต่จังหวะยิงตัดสินใจช้าเกินไปเลยเสียหลักจั่วลมล้มลง ทว่าก่อนหมดครึ่งแรก 3 นาทีเจ้าถิ่นมาได้ประตูตีเสมอ 1-1 จาก อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ที่เลื้อยพาบอลขึ้นมาทางขวาและจ่ายเรียดเข้ากลาง แชร์วินโญ ถอนลงมารับบอลจับหนึ่งจังหวะและยิงด้วยขวาเสยเพดานตาข่ายเข้าไป ก่อนจะปิดฉาก 45 นาทีแรกไปด้วยสกอร์นี้
      
       เปิดฉากครึ่งหลัง อาร์เซนอล ทำเกมบุกได้วูบวาบกว่าทว่านาที 53 เสียฟรีคิกใกล้เคียงกับที่โดนยิงประตูแรก มาตา รับหน้าที่เปิดด้วยซ้ายโค้งไปเสาสอง กอสเซียลนีย์ พยายามพุ่งเข้ามาสกัดโดนถากๆ บริเวณหน้าแข้ง ส่วน มานโนเน ก็เสียจังหวะแถมพุ่งไม่ถึงบอลเข้าประตูไป เชลซี นำอีกครั้งเป็น 2-1 เจ้าถิ่นตั้งหน้าตั้งตาบุกต่อนาที 59 มีลุ้นตีเสมอ กิ๊บบ์ส เปิดจากซ้ายไปเข้าหัว ลูคัส โพดอลสกี เช็ดเล่นทางบอลไม่แรงกำลังเลี้ยวหนีไปเสาสองแต่ไม่เหลือบ่ากว่าแรง ปีเตอร์ เช็ก เหยียดปัดเอาไว้ได้
      
       นาที 66 อาร์เซนอล เปลี่ยนตัวหมดหน้าตักส่ง ธีโอ วัลค็อตต์ ลงมาแทน อารอน แรมซีย์ และ โอลิวิเยร์ ชิรูด์ กองหน้าทีมชาติฝรั่งเศสที่เพิ่งประเดิมประตูแรกในถ้วย แคปิตอล วัน คัพ แทน โพดอลสกี และสัมผัสแรกของ ชิรูด์ เกือบทำประตูตีเสมอได้เมื่อก้มหน้ายิงด้วยซ้ายบอลแฉลบ ดาวิด ลุยซ์ ที่เข้าไปบล็อกเปลี่ยนทางเข้ากรอบ แต่ เช็ก ที่ถลำไปแล้วยังเอี้ยวตัวเซฟไว้ได้ ทีมเยือนมีการแก้เกมเปลี่ยนตัวคนแรกไม่ยอมให้เจ้าถิ่นกดอยู่ข้างเดียวด้วย การส่ง วิคเตอร์ โมเซส ปีกความเร็วสูงมาแทน ออสการ์
      
       เชลซี ทยอยเปลี่ยนตัวส่ง แกรี เคฮิลล์ มาแทน ลุยซ์ ที่มีอาการบาดเจ็บ รวมถึงเน้นรับด้วยการถอด มาตา และส่ง ไรอัน เบอร์ทรานด์ ลงมา นาทีสุดท้าย อาร์เซนอล มีจังหวะลุ้นประตูจาก แชร์วินโญ เปิดเรียดจากซ้ายเข้ากลางให้ กาซอร์ลา ยิงด้วยซ้ายไม่จับหลุดเสาแรกไป ซึ่งวันนี้กองกลางทีมชาติสเปนใช้โอกาสค่อนข้างเปลือง
      
       ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ 4 นาที อาร์เซนอล ต่อบอลขึ้นมาทางซ้ายได้สวย กาซอร์ลา แทงเข้ากลางให้ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน เบิ้ลเร็วให้ ชิรูด์ หลุดเข้าเขตโทษด้านซ้ายแตะหนี เช็ก เปิดช่องแล้วแต่ยิงด้วยซ้ายหักข้อไม่พอบอลเลยไม่เข้ากรอบ จบเกม เชลซี บุกชนะ อาร์เซนอล 2-1 เก็บเพิ่มเป็น 16 แต้มจาก 6 นัดนำเป็นจ่าฝูงต่อไป ส่วนเจ้าถิ่นแพ้ในลีกเป็นเกมแรก
      
       รายชื่อผู้เล่น 11 คนแรกของทั้งสองทีม
       อาร์เซนอล-วิ โต มานโนเน, โทมัส เฟอร์มาเลน, โลร็องต์ กอสเซียลนีย์, คาร์ล เจนกินสัน, คีแรน กิ๊บบ์ส, อาบู ดิอาบี, มิเกล อาร์เตตา, ลูคัส โพดอลสกี, อารอน แรมซีย์, ซานติ กาซอร์ลา, แชร์วินโญ
       เชลซี-ปี เตอร์ เช็ก, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, แอชลีย์ โคล, จอห์น เทอร์รี, ดาวิด ลุยซ์, รามิเรส, ฆวน มาตา, จอห์น โอบิ มิเกล, เอเดน ฮาซาร์ด, เฟร์นานโด ตอร์เรส, ออสการ์
Read More

ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 23 ก.ย. 55 | แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1 - 1 อาร์เซนอล

ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 23 ก.ย. 55 | แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1 - 1 อาร์เซนอล
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 23 ก.ย. 55 | แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1 - 1 อาร์เซนอล

ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 23 ก.ย. 55 | แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1 - 1 อาร์เซนอล

เกมพรีเมียร์ลีก คู่บิ๊กแมตช์ ช่วงดึกของวันอาทิตย์ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี แชมป์ก่าพลาดท่าถูก "ปืนใหญ่" อาร์เซนอล บุกมาไล่ตามตีเสมอ 1-1 ช่วงท้ายเกมถึงถิ่น เอติฮัดส์ สเตเดียม ต้องแบ่งกันไปทีมละแต้ม

ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 23 ก.ย. 55
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1 - 1 อาร์เซนอล

ศึกพรีเมียร์ลีก คู่ดึก ประจำวันอาทิตย์ที่ 23 ก.ย. ที่สยาม เอติฮัดส์ สเตเดียม "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี "แชมป์เก่า" เปิดบ้านรับการมาเยือนของ อาร์เซนอล เกมนี้ โรแบร์โต มันชินี ยังคงไม่ส่ง มาริโอ บาโลเตลลี หัวหอกเจ้าปัญหาลงเป็นตัวจริง โดยใช้ เอดิน เชโก และ เซร์คิโอ อกูเอโร เป็นกองหน้า ส่วน "ปืนใหญ่" วาง ซานติ การ์ซอลา, แชร์วินโญ และ ลูคัส โพดอลสกี เป็นสามประสานในเกมรุก ขาดเพียง โอลิวิเยร์ ชิรูด์ ที่เป็นสำรอง

ช่วงต้นเกมเป็นลูกทีมของ อาร์แซน เวนเกอร์ ออกสตาร์ท ได้น่ากลัวกว่า แต่ ซิตี เป็นฝ่านยได้ลุ้นประตูก่อน อกูเอโร ลากตัดเข้ามาจากฝั่งซ้ายและซัดด้วยขวาเต็มข้อบอลพุ่งตรงกรอบ แต่ก็ไปตรงตัว มาโนเน ผงาปัดทิ้งได้ทัน นาที 24 คาร์ล เจนกินสัน สลัดหนีการประกบของ โจลีออน เลสคอตต์ ขึ้นมาทางขวาก่อนตบกลับมาให้ ลูคัส โพดอลสกี วิ่งขึ้นมายิงด้วยขวา บอลเหินข้ามคานไปไกล

นาที 33 "ปืนใหญ่" มาได้ลุ้นจากลูกฟรีคิก การ์ซอลา ปั้นโค้งอ้อมกำแพง แต่ โจ ฮาร์ท ที่ปิดเสาอยู่แล้ว ล้มตัวรับไว้ไม่มีปัญหาโอกาสถัดมานาที 36 แชร์วินโญ ได้โอกาสพริ้วหลบมาทางซ้ายล็อกบอลหนี ปาโบล ซาบาเลตา กดด้วยซ้ายที่เสาแรกบอลพุ่งเข้าแค่หน้าต่างเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม ช่วงนาที 40 จากลูกเตะมุม เจ้าถิ่นมาได้ประตูขึ้นนำ จากลูกทีม มาโนเน ออกมาตัดลูกโยนพลาด บอลเลยมาถึง เลสคอตต์ โถมโขกเข้าประตูไปง่ายๆ ช่วยให้แฟน "เรือใบ" ได้เฮกันลั่นสนาม จากนั้นนาทีถัดมา เชโก เกือบบวกประตูที่สองให้ทีมจากจังหวะเอียงตัวยิงตามน้ำบอลมุดไม่พอ มาโนเน ลอยตัวปัดข้ามคานออกไป ทำให้จบครึ่งแรกนำอยู่ 1-0

กลับมาเล่นครึ่งหลัง เจ้าถิ่นครองบอลบุกต่อเนื่อง บอลเลยมาที่เสาสอง อกูเอโร จับบอลลงเอียงตัววอลเลย์แบบไม่มีตัวประกบบอลเสยคานออกไปแบบได้เสียว เกมผ่าน 60 นาที "เรือใบสีฟ้า" เริ่มถอนลงมารับปล่อยให้ "ปืนใหญ่" ตั้งเกมรุกบุกเข้าใส่ และอาศัยจังหวะสวนกลับขึ้นมาเล่นงานได้น่ากลัวหลายครั้ง

เกมสวนกลับของเจ้าถิ่นเล่นงาน อาร์เซนอล ได้อีกครั้ง นาที 80 ยายา ตูเร ลากบอลขึ้นมาคนเดียวจากกลางสนาม ก่อนถ่ายออกขวาให้ อกูเอโร ล้มตัวยิงด้วยขวา มาโนเน ที่ปิดเสาแรกอยู่ไม่พลาดทุบออกหลังได้หวุดหวิด นาทีถัดมา การ์ซอลา แตะหนี กอมปานี ก่อนซัดเต็มเท้า แต่ ฮาร์ท ซูเปอร์เซฟได้อย่างเหลือเชื่อ แต่จากลูกเตะมุม "ปืนใหญ่" ตีเสมอสำเร็จ ซิตี เคลียกันไม่ขาด กอสเซียลนีย์ เก็บส้มหล่นยิงบอลหายเข้าไปในตาข่ายเป็น 1-1

แมนฯ ซิตี น่าจะได้ประตูออกนำอีกครั้ง กอมปานี จักรยานออกกาศบอลไปติดเซฟของ มาโนเน เป็น กอสเซียลนีย์ เตะทิ้งไปเข้าทาง "กุน" เอียงตัวยิงเน้นๆ บอลกลิ้งออกเสาไกลไปอย่างน่าเสียดาย ท้ายเกม "เรือใบสีฟ้า" ต้องมาเร่งเครื่องกันอีกครั้ง ทว่าสุดท้ายก็ไม่ทันเวลา จบเกมเสมอกันไป 1-1 แบ่งกันไปทีมละแต้ม ชนิดที่ โรแบร์โต มันชินี ต้องโทษตัวเอง

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ซิตี : โจ ฮาร์ท, แวงซอง กอมปานี, ปาโบล ซาบาเลตา, โจลีออน เลสคอตต์, กาแอล กลิชีย์, สกอตต์ ซินแคลร์, ฆาร์บี การ์เซีย, ยายา ตูเร, เอดิน เชโก, เซร์คิโอ อกูเอโร, ดาบิด ซิลบา
อาร์เซนอล : วิโต มาโนเน, แพร์ เมอร์เตซัคเกอร์, โลรองต์ กอสเซียลนีย์, คาร์ล เจนกินสัน, ตีแรน กิบส์ ,อาบู ดิยาบี, มิเกล อาร์เตตา, อาร์รอน แรมซีย์, ซานติ การ์ซอลา, แชร์วินโญ, ลูคัส โพดอลสกี

ผลฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำวันอาทิตย์ที่ 23 ก.ย. 2555

ลิเวอร์พูล 1 - 2 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
1 - 0 สตีเวน เจอร์ราร์ด น.46
1 - 1 ราฟาเอล ดา ซิลวา น.51
1 - 2 โรบิน ฟาน เพอร์ซี น.81

นิวคาสเซิล 1 - 0 นอริช ซิตี
1 - 0 เดมบา บา น.19

แมนเชสเตอร์ ซิตี 1 - 1 อาร์เซนอล
1 - 0 โจลีออน เลสคอตต์ น.40
1 - 1 โลรองต์ กอสเซียลนีย์ น.82

ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ส 2 - 1 ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส
0 - 1 บอบบี ซาโมรา น.32
1 - 1 เลอานโดร ฟูอาลิน น.59 (ทำเข้าประตูตัวเอง)
2 - 1 เจอร์เมน เดโฟ น.61
Read More

คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 23 ก.ย. 55 | ลิเวอร์พูล 1 - 2 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 23 ก.ย. 55 | ลิเวอร์พูล 1 - 2 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 23 ก.ย. 55 | ลิเวอร์พูล 1 - 2 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 23 ก.ย. 55 | ลิเวอร์พูล 1 - 2 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด


คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 23 ก.ย. 55 | ลิเวอร์พูล 1 - 2 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ประตู
1 - 0 Gerrard 46'
1 - 1 Rafael 51'
1 - 2 van Persie (PG) 81'
Read More

ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 23 ก.ย. 55 | ลิเวอร์พูล 1 - 2 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 22 ก.ย. 55 | ลิเวอร์พูล 1 - 2 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 22 ก.ย. 55 | ลิเวอร์พูล 1 - 2 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 22 ก.ย. 55 | ลิเวอร์พูล 1 - 2 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บุกแซงชนะ ลิเวอร์พูล ที่เหลือ 10 คน ตั้งแต่ครึ่งแรก 2-1 พร้อมขยับขึ้นเป็นรองจ่าฝูง ในเกมพรีเมียร์ลีกนัด “แดงเดือด” ที่ “เดอะค็อป” ต้องสังเวยใบแดง และจุดโทษจาก มาร์ก ฮัลซีย์ แบบค้านสายตา เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 22 ก.ย. 55
ลิเวอร์พูล 1 - 2 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 

เกมพรีเมียร์ลีก “แดงเดือด” ซูเปอร์บิ๊กแมตช์ ประจำวันอาทิตย์ที่ 23 ก.ย.ลิเวอร์พูล เปิดรังแอนฟิลด์ รับคู่อริ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยก่อนเกมมีพิธีไว้อาลัยให้กับผู้เสียชีวิตในโศกนาฏกรรมฮิลส์โบโร และหนึ่งไฮไลต์สำคัญเรื่องลืมความบาดหมางระหว่าง หลุยส์ ซัวเรซ และ ปาทริซ เอวรา ยอมจับมือกันตามที่หลายฝ่ายคาดกันไว้

ออกสตาร์ท 6 นาที ทีมเยือนได้โอกาสทักทายก่อนจากจังหวะยิงนอกกรอบของ ไรอัน กิ๊กส์ บอลพุ่งถากเสาออกไปแบบได้เสียว แต่แล้วหลังจากนั้นเกมตกเป็นของ “หงส์แดง” ครองบอลพับสนามบุกเข้าใส่ฝ่ายเดียว กดให้ “ปิศาจแดง” ต้องลงมาตั้งรับชนิดที่ไม่มีโอกาสได้บุก นาทีที่ 9 การขึ้นเกมทางริมเส้นของ ลิเวอร์พูล เกือบได้ประตูขึ้นนำ สเตอร์ลิง เปิดยัดเข้ามาถึง เจอร์ราร์ด ตวัดยิงเร็วบอลพุ่งเข้าหน้าต่างเสาแรก

จอนโจ เชลวีย์ เข้าบอลจังหวะ 50-50 กับ จอห์นนี อีแวนส์
ท้ายครึ่งแรกมาเกิดจุดเปลี่ยนสำคัญ เมื่อ จอนโจ เชลวีย์ เข้าบอลจังหวะ 50-50 กับ จอห์นนี อีแวนส์ ผู้ตัดสิน มาร์ก ฮัลซีย์ เดินมาควักใบแดงแบบไม่ลังเล ชนิดค้านสายตาเหล่า “เดอะค็อป” ทั้งสนาม แต่แม้เหลือเพียง 10 คน แต่ ลิเวอร์พูล ยังครองเกมดีกว่า และเกือบได้ประตูขึ้นนำก่อนจากลูกฟรีคิกระยะ 25 หลา ซัวเรซ ปั่นบอลโค้งข้ามกำแพง ทว่า อันเดอร์ส ลินเดอร์การ์ด บินไปปัดทิ้งหวุดหวิด จบครึ่งแรก เสมอกันอยู่ 0-0

กลับมาเล่นครึ่งหลังผู้จัดการทีมทั้ง 2 ฝ่ายแก้เกมอย่างรวดเร็ว เฟอร์กูสัน ส่ง พอล สโคลส์ ลงมาคุมเกมแดนกลางแทน นานี ขณะที่ เบรนเดน ร็อดเจอร์ส ส่ง เจซุส เฟร์นันเดซ ซาเอซ หรือ “ซูโซ” ลงมาแทน บอรินี และไม่เพียง 1 นาที การทำเกมของเจ้าหนูชาวสเปนทางซ้ายก่อนเปิดเข้ากลาง แนวรับ ยูไนเต็ด เคลียร์ไม่ขาด มาเข้าทาง “สตีวีจี” พักอดวอลเลย์ด้วยซ้ายบอลเสียบเสาสองอย่างสวยงาม ลิเวอร์พูล ออกนำ 1-0

หลังเสียประตูไม่ถึง 5 นาที “ผีแดง” มาได้ประตูตีเสมอทันควัน วาเลนเซีย โยนจากกราบขวาให้ คากาวะ แตะอกต่อถึง ราฟาเอล บรรจงปั้นโค้งด้วยซ้ายบอลเลี้ยวเช็ดเสาสองเข้าไปไล่ตามมาเป็น 1-1 ผ่าน 1 ชั่วโมงของเกม ลิเวอร์พูล ตั้งเกมขึ้นมาทางขวา ซัวเรซ ลากตัดเข้าในก่อนซัดด้วยซ้ายเต็มข้อบอลพุ่งหาเสาสอง แต่ ลินเดอร์การ์ด ยังไม่หลับทิ้งตัวปัดออกมาไปอีกหน

เกมยังเป็นของเจ้าถิ่นหาจังหวะจบสกอร์ได้มากกว่า นาที 64 ซัวเรซ ย้ายมาป่วนทางซ้าย ก่อนไหลกลับมาให้ ซูโซ แปไปแฉลบ เฟอร์ดินานด์ แต่นายประตูผีแดงโชว์ซูเปอร์เซฟได้ตามเคย กระทั่งนาที 75 วาเลนเซีย หลุดเดี่ยวเข้าเขตโทษ จอห์นสัน ตามมาสกัดจากด้านหลัง ซึ่งเมื่อดูภาพช้าไม่โดนตัว วาเลนเซีย แบบชัดเจน ทว่า มาร์ก ฮัลซีย์ เจ้าเก่าเป่าเป็นจุดโทษและเป็น “อาร์วีพี” รับหน้าที่สังหารเต็มเท้า ส่งให้ “ผีแดง” แซงนำ 2-1

นาที 82 จอห์นสัน โยนเข้ามาให้ เคลลีย์ เบียดโหม่งทางเสาสองเพื่อลุ้นตีเสมอ แต่บอลหลุดเสาสองไปไม่ไกล ช่วงท้ายเกมเป็นลูกทีมของ เฟอร์กูสัน ที่คุมเกมเอาไว้ได้ทั้งหมด ทำให้ไม่มีประตูเพิ่ม จบ 90 นาที แมนฯ ยูไนเต็ด บุกมาเก็บ 3 แต้ม เพิ่มเป็น 12 คะแนนขึ้นเป็นรองจ่าฝูง ขณะที่ ลิเวอร์พูล ผู้โชคร้ายในเกมนี้ ยังจมอยู่ท้ายตารางต้องรอชัยชนะนัดแรกในลีกต่อไป

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม 
ลิเวอร์พูล : เปเป เรนา, เกล็น จอห์นสัน, แดเนียล แอ็กเกอร์, มาร์ติน เคลลีย์, มาร์ติน สเคลเทล, สตีเวน เจอร์ราร์ด, โจ อัลเลน, จอนโจ เชลวีย์, หลุยส์ ซัวเรซ, ฟาบิโอ บอรินี, ราฮีม สเตอร์ลิง
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : อันเดอร์ส ลินเดอร์การ์ด, ราฟาเอล ดา ซิลวา, ปาทริช เอวรา, ริโอ เฟอร์ดินานด์, จอห์นนี อีแวนส์, อันโตนิโอ วาเลนเซีย, ไรอัน กิ๊กส์, ไมเคิล คาร์ริก, หลุยส์ นานี, โรบิน ฟาน เพอร์ซี, ชินจิ คากาวะ
Read More

คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 22 ก.ย. 55 | เวสบรอมวิช 1 - 0 เรดดิง

คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 22 ก.ย. 55 | เวสบรอมวิช 1 - 0 เรดดิง
คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 22 ก.ย. 55 | เวสบรอมวิช 1 - 0 เรดดิง


คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 22 ก.ย. 55 | เวสบรอมวิช 1 - 0 เรดดิง
ประตู
1 - 0 โรเมลู ลูคาคู น.71
Read More

คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 22 ก.ย. 55 | เชลซี 1 - 0 สโต๊ค ซิตี

คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 22 ก.ย. 55 | เชลซี 1 - 0 สโต๊ค ซิตี
คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 22 ก.ย. 55 | เชลซี 1 - 0 สโต๊ค ซิตี


คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 22 ก.ย. 55 | เชลซี 1 - 0 สโต๊ค ซิตี
ประตู
1 - 0 แอชลีย์ โคล น.85
Read More

ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 22 ก.ย. 55 | เชลซี 1 - 0 สโต๊ค ซิตี

ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 22 ก.ย. 55 | เชลซี 1 - 0 สโต๊ค ซิตี
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 22 ก.ย. 55 | เชลซี 1 - 0 สโต๊ค ซิตี
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 22 ก.ย. 55 | เชลซี 1 - 0 สโต๊ค ซิตี

แอชลีย์ โคล แบ็กจอมบุกทีมชาติอังกฤษ เป็นฮีโร่ซัดประตูชัยช่วงท้ายเกม ให้ เชลซี เปิดบ้านเฉือนเอาชนะ สโต๊ค ซิตี แบบหืดขึ้นคอ 1-0 เก็บ 3 แต้มสำคัญพร้อมรักษาตำแหน่งจ่าฝูงต่อไปอีกหนึ่งสัปดาห์ ในเกมพรีเมียร์ลีก วันเสาร์ที่ผ่านมา

ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 22 ก.ย. 55
เชลซี 1 - 0 สโต๊ค ซิตี

สโต๊ค ซิตี "สิงห์บลูส์" ที่เพิ่งพลาดท่าถูก ยูเวนตุส ไล่ตีเสมอในเกมฟุตบอลยุโรป จัดแนวรุกชุดใหญ่อย่าง เอเดน ฮาซาร์ด, ออสการ์, ฆวน มาตา และ เฟร์นันโด ตอร์เรส ลงสนามครบถว้น แต่ยังดรอป จอห์น เทอร์รี และ แฟรงค์ แลมพาร์ด สองผู้เล่นตัวเก๋าไว้ข้างสนาม ขณะที่ โทนี พูลิส ใช้ ปีเตอร์ เคราช์ และ โจนาธาน วอลเตอร์ ยืนเป็นหอกเป้า โดยมี ไมเคิล โอเวน นั่งอยู่ข้างสนาม

 เริ่มเกมช่วง 20 นาทีแรก เชลซี อาศัยบอลสั้นตามช่องพยายามเจาะเข้าทำตามสไตล์ถนัด แต่ก็ยังเจาะแนวรับของ "ช่างปั้นหมอ" เข้าไปลุ้นประตูไม่สำเร็จ กระทั้งนาที 19 กลายเป็นทีมเยือนที่ได้เสียวก่อน จากลูกฟรีคิก เกลน วีแลน เปิดมาให้ วอลเตอร์ โถมมาโขกบอลพุ่งชนคานเต็มๆ ชนิดที่แฟนเจ้าถิ่นเงียบกันทั้งสนาม

 โอกาสแรกที่ได้ลุ้นของ "สิงห์บลูส์" ต้องรอถึงนาที 28 จากลูกฟรีคิกระยะไกล ดาวิด ลุยส์ รับหน้าที่ตะบันเต็มเท้าบอลลอยข้ามกำแพงแต่พุ่งไปตรงตัวของ แอชเมียร์ เบโกวิช ยืนรับไว้ไม่มีปัญหา นาที 36 สโต๊ค มาได้ลุ้นจากลูกยิงไกลของ มาร์ก วิลสัน แต่ก็ยังไม่ผ่านมือ เช็ก จังหวะถัดมาบอลเปิดจากริมเส้นมาที่ ไมเคิล ไคท์ลีย์ โหม่งไม่เต็ม เช็กปัดอีกครั้ง บอลอยู่หน้าประตู ยังดีที่ เคฮิลล์ ตามมาเตะทิ้งได้หวุดหวิดก่อนหมด 45 นาทีแรกยังไม่มีสกอร์

กลับมาเล่นครึ่งหลัง เชลซี เดิมเกมรุกใส่ไม่ต่างจากครึ่งแรก นาที 50 ออสการ์ ได้ยิงหักข้อแถวๆ หัวกระโหลกด้วยซ้าย แต่ เบโกวิช ยังล้มตัวตะครุบไว้ได้เยี่ยม ผ่าน 1 ชั่วโมงของเกมเกมยังไม่ดีขึ้น โรแบร์โต ดิ มัตเตโอ ต้องเปลี่ยนเอา วิคเตอร์ โมเซส ลงมาแทน ฮาซาร์ด ที่เล่นไม่ออกในเกมนี้

จากนั้นเกมรุกของ เจ้าบ้านดีขึ้นทันตาเห็น ออสการ์ รับบอลจาก รามิเรส พลิกหลบมาก่อนกดเรียดด้วยขวา บอลพุ่งถากเสาออกไปไม่ไกล นาที 76 มิเกล ได้หลุดขึ้นทางขวา พยายามแปเน้นๆ แต่ยังไปติดบล็อก ชอว์ครอสส์ บอลลอยโด่ง เบโกวิช พุ่งออกมาคว้าได้สบาย

ท้ายเกม "ช่างปั้นหมอ" เปลี่ยนเอา เควิน โจนส์ ลงมากดดันต่อและได้ลุ้นโหม่งที่เสาสอง ทว่าบอลยังไปตรงตัว เช็ก รับไว้ได้ แต่แล้วนาที 85 แฟน เชลซี มาได้เฮกันทั้งสนาม โมเซส เปิดยัยดดมาให้ มาตา บอลทะลุมาถึง โคล ชิพ ข้ามตัว เบโกวิช เข้าไปซุกก้นตาข่าวให้ "สิงห์บลูส์" ออกนำ 1-0 และประคองตัวเก็บ 3 แต้มได้สำเร็จขึ้นนำเป็นจ่าฝูงต่อไปอีกหนึ่งสัปดาห์

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก, แอชลีย์ โคล, ดาวิด ลุยซ์, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, แกรี เคฮิลล์, จอห์น โอบี มิเกล, รามิเรส, เอเดน ฮาซาร์ด, ออสการ์, ฆวน มาตา, เฟร์นันโด ตอร์เรส

สโต๊ค ซิตี : แอชเมียร์ เบโกวิช, โรเบิร์ต ฮุต, ไรอัน ชอร์ครอสส์, เจฟฟ์ คาเมรอน, ชาลีย์ อดัม, มาร์ติน ไคท์ลีย์, เกลน วีแลน, สตีเฟน เอ็นซองซี, ปีเตอร์ เคราช์, โจนาธาน วอลเตอร์, มาร์ก วิลสัน

ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 22 ก.ย. 55

สวอนซี ซิตี 0 - 3 เอฟเวอร์ตัน
0 - 1 วิคเตอร์ อนิเชบี น.22
0 - 2 เควิน มิรัลลาส น.43
0 - 3 มารูอาน เฟลไลนี น.82

เชลซี 1 - 0 สโต๊ค ซิตี
1 - 0 แอชลีย์ โคล น.85

เซาแธมป์ตัน 4 - 1 แอสตัน วิลลา
0 - 1 ดาร์เรน เบนท์ น.36
1 - 1 ริคกี แลมเบิร์ต น.58
2 - 1 นาธาน ไคลน์ น.63
3 - 1 เจสัน พันเชียนส์ น.72
4 - 1 ริคกี แลมเบิร์ต น.90 (จุดโทษ)]

เวสบรอมวิช 1-0 เรดดิง
1 - 0 โรเมลู ลูคาคู น.71

เวสต์แฮม 1-1 ซันเดอร์แลนด์
0 - 1 สตีเฟน เฟล็ตเชอร์ น.10
1 - 1 เควิน โนแลน น.90

วีแกน แอตเลติก 1-2 ฟูแลม
0 - 1 ฮูโก โรดาเยลกา ย.31
0 - 2 เดเมียน ดัฟฟ์ น.68
1 - 2 อารูนา โคเน น.90
Read More

คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 22 ก.ย. 55 | สวอนซี ซิตี 0 - 3 เอฟเวอร์ตัน

คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 22 ก.ย. 55 | สวอนซี ซิตี 0 - 3 เอฟเวอร์ตัน
คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 22 ก.ย. 55 | สวอนซี ซิตี 0 - 3 เอฟเวอร์ตัน
คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 22 ก.ย. 55 | สวอนซี ซิตี 0 - 3 เอฟเวอร์ตัน


คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 22 ก.ย. 55 | สวอนซี ซิตี 0 - 3 เอฟเวอร์ตัน
ประตู
0 - 1 Anichebe 21'
0 - 2 Mirallas 43'
0 - 3 Fellaini 82'
Read More

ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 22 ก.ย. 55 | สวอนซี ซิตี 0 - 3 เอฟเวอร์ตัน

ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 22 ก.ย. 55 | สวอนซี ซิตี 0 - 3 เอฟเวอร์ตัน
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 22 ก.ย. 55 | สวอนซี ซิตี 0 - 3 เอฟเวอร์ตัน

ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 22 ก.ย. 55 | สวอนซี ซิตี 0 - 3 เอฟเวอร์ตัน
"ท๊อฟฟี่" เอฟเวอร์ตัน บุกมาปราบฟอร์มสุดร้อนแรงของ "เดอะ สวอน" สวอนซี ซิตี ที่เหลือต้อง 10 คนด้วยการถล่มยับ 3-0 ถึงถิ่น ลิเบอร์ตี สเตเดียม ในเกมพรีเมียร์ ลีก คู่หัวค่ำของคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา เก็บเพิ่มเป็น 10 แต้มจากการออกสตาร์ท 5 เกม  

ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 22 ก.ย. 55
สวอนซี ซิตี 0 - 3 เอฟเวอร์ตัน 

เกมพรีเมียร์ ลีก คู่แรกประจำวันเสาร์ที่ 22 ก.ย. สวอนซี เปิดรัง ลิเบอร์ตี สเตเดียม รับการมาเยือนของ เอฟเวอร์ตัน เปิดฉากมาเป็นทีมเยือนของ เดวิด มอย ครองบอลได้เหนือกว่า และมีลุ้นทำประตูจาก วิคเตอร์ อนิเชบี แต่ซัดเข้าไปตรงตัวของ มิเชล ฟอร์ม ที่ยืนปิดมุมอยู่พอดี

ดำเนินถึงนาที 20 หลังบุกอยู่นาน "ท๊อฟฟี่" มาได้ประตูขึ้นนำสำเร็จ จากบอลยาวมาที่ มารูอาน เฟลไลนี พักบอลลงเหมือนจะเป็นลูกแฮนด์บอล กรรมการให้เล่นต่อบอลไปถึง อนิเชบี ยิงระยะเผาขนเข้าไปไม่มีเหลือส่งให้ทีมขึ้นนำก่อน 1-0 และยังเป็นฝ่ายคุมเกมเอาไว้ได้ทั้งหมด

"หัวฟู" เฟลไลนี ช่วยทำ 1 ประตู
จากนั้นเกมมาสนุกเอาช่วงท้ายครึ่งแรก "หงส์ขาว" เดินหน้าบุกหนักหวังตีเสมอ ทว่าไม่คมกันเอง อังเกล รานเกล เติมขึ้นสูงมาแต่ก็ยิงไม่ผ่านมือ ทิม ฮาเวิร์ด เช่นกันสุดท้ายมาโดนนำห่างเป็น 2-0 สตีเฟน พีร์นา เปิดเข้ากลางมาถึง เควิน มิรัลลาส ซัดเต็มเท้า ฟอร์ม รับไม่อยู่บอลไปชนคานและกระดอนอยู่หน้าประตูก่อนหัวหอกเบลเยี่ยมจะตามมาโขกจ่อๆ เข้าไม่ไปเหลือพร้อมปิดครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้

เปิดฉากขึ้นหลังมาได้ 6 นาที เอฟเวอร์ตัน เกือบได้ประตูหนีห่างไปอีก จากจังหวะสวนกลับ เฟลไลนี จ่ายให้ มิรัลลาส จิ้มด้วยหัวเกือกบอลไปชนคานเหลี่ยมนอกกระดอนออกมาที่ อนิเชบี แต่งบอลหนึ่งที่ก่อนยิงซ้ำทว่าก็ไปตรงตัว ฟอร์มที่ผงาออกมาปิดมุมได้ทัน

นาที 57 สถานการณ์ของ สวอนซี ย่ำแย่ลงไปอีก เมื่อ เนธาน ดายเออร์ ตัวสำรองที่เพิ่งลงมาครึ่งหลังมาโดนใบเหลือที่ 2 ไล่ออกไปอีก หลังจากนั้น "ท๊อฟฟี่เมน" ที่ตัวมากกว่ามีลุ้นบวกประตูเพิ่มต่อเนื่อง จากลูกเตะมุม เฟลไลนี โขกจ่อๆ ที่กรอบ 6 หลา ยังดีมีแนวรับเจ้าบ้านยืนคุมเส้นเคลียออกมาได้หวุดหวิด

 เข้าสู่นาที 82 เอฟเวอร์ตันมาได้ประตูปิดฝาโรงหนีห่าง 3-0 จากลูกฟรีคิก เบนส์ โยนไปเข้าหัว เฟลไลนี ปักหลักอยู่ทางเสาแรกโขกเช็กบอลไปแฉลบ แอชลีย์ วิลเลียมส์ เข้าไปตุงตาข่ายไม่มีเหลือ ช่วงที่เหลือ ลูกทีมของ มอย ครองเก็บบอลไว้จบหมดเวลา เอาชนะไปแบบไม่ยากเย็น มี 10 แต้มจากการออกสตาร์ท 5 เกมพรีเมียร์ลีก

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
สวอนซี ซิตี : มิเชล ฟอร์ม, อลัน เทต, แอชลีย์ วิลเลียมส์, อังเกล รานเกล, เบน เดวิส, พลาโบล เอนานเดซ, เวย์น เราท์เรตจ์ท, โจนาธาน เด กุซมัน, คี ซุงยอง, มิชู, แดนนี เกรแฮม
เอฟเวอร์ตัน : ทิม ฮาเวิร์ด, เลจ์ทตัน เบนส์, จอห์น ไฮตินกา, ฟิล จาจีลกา, เซมุส โคลแมน, เควิน มิรัลลาส, ลีออน ออสมัน, สตีเฟน พีร์นา, มารูอาน เฟลไลนี, วิคเตอร์ อนิเชบี, ฟิลส์ เนวิลด์
Read More

บิ๊กหงส์แดงหวังเห็น "ซัวเรซ-เอวรา" ปรองดอง

ซัวเรซ เคยถูกแบนกรณีเหยียดผิว เอวรา
เอียน อายร์ ผู้อำนวยการทีม ลิเวอร์พูล ออกมาเปรยอยากเห็น หลุยส์ ซัวเรส และ ปาทริช เอวรา กลับมาคืนดีกันในเกมพรีเมียร์ ลีก ที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ ลิเวอร์พูล มีคิวฟาดแข้งกันในวันอาทิตย์นี้ เนื่องจากจะมีพิธีการที่สำคัญกว่าความบาดหมางของทั้งคู่แน่นอน
      
        ประเด็นร้อนของ ซัวเรส กองหน้าตัวจี๊ดของ ลิเวอร์พูล ที่ไปเหยียดผิวใส่ เอวรา แนวรับของ "ปิศาจแดง" ตั้งแต่เดือนตุลาคมปีก่อน จนถูกตัดสินลงโทษแบนยาวยังไม่จบลงง่ายๆ โดย แบ็กชาวฝรั่งเศส ปฏิเสธการจับมือกับคู่กรณีในการเจอกันอีกครั้งที่สนาม โอลด์ แทร๊ฟฟอร์ด เมื่อช่วงเดือนกุนภาพันธ์
      
        อย่างไรก็ดี การกลับมาพบกันอีกครั้งในวันอาทิตย์ที่ 23 ก.ย. นี้ จะมีพิธีร่วมไว้อาลัยแก่ผู้เสียชีวิตทั้ง 96 คน ในโศกนาฏกรรมฮิลส์โบโร เมื่อ 23 ปี ก่อน โดย เอียน อายร์ ผู้อำนวยการของ "หงส์แดง" หวังว่านักเตะทั้ง 2 จะไม่ทำให้พิธีดังกล่าวต้องมีเรื่องวุ่น และหันหน้าเข้ามากันจับมือก่อนเริ่มต้นเกมตามปกติ
      
        "พวกเราจะจับมือกันเหมือนอย่างที่เคย และ ซัวเรส กับ เอวรา จะทำอย่างนั้นด้วย หลุยส์ โตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น และผมมั่นใจว่า ปาตริช ก็เช่นกัน ทั้งคู่จะทำเหมือนกันนักเตะคนอื่นๆ ในสนาม และทุกๆ รู้ดีว่าในวันนั้นไม่ใช่เรื่องที่จะต้องมาพูดกันว่าใครจะไม่จับมือกับใคร" อายร์ กล่าวกับ "ทอล์ค สปอร์ต" สื่อกีฬาชั้นนำ
      
        สำหรับเกม "แดงเดือด" ระหว่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ ลิเวอร์พูล ที่สนาม แอนด์ฟิลด์ ในวันอาทิตย์นี้ นักเตะของทั้งสองทีมและแฟนฟุตบอลจะร่วมไว้อาลัยก่อนเกมให้กับผู้เสียชีวิต 96 รายในโศกนาฏกรรมฮิลส์โบโร ที่เพิ่งถูกพิสูจน์หาความจริงว่าไม่ใช่ความผิดของเหล่า "เดอะค็อปส์" ทั้งที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นคนผิดมาตลอด
Read More

"เฟอร์กี" ยัน "รูนีย์" ชวดบู๊แดงเดือด

เวย์น รูนีย์
เวย์น รูนีย์
เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน บรมกุนซือชาวสกอตต์ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยืนยัน เวย์น รูนีย์ กองหน้าตัวเก่งจะไม่ฟิตทันลงสนามในเกมกับ ลิเวอร์พูล วันอาทิตย์นี้แน่นอน ส่วน แอชลีย์ ยัง ปีกตัวจี๊ด ก็จะต้องพักต้องไปอีก 2-3 สัปดาห์
    
        เวย์น รูนีย์ ศูนย์หน้าทีมชาติอังกฤษที่ได้รับบาดเจ็บเป็นแผลลึกบริเวณต้นขาในเกมเอาชนะ วีเแกน 3-2 เมื่อปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา และมีข่าวว่าอาจจะกลับมาลงสนามได้ในเกมกับ ลิเวอร์พูล ทว่าก็ต้องพลาดโอกาสลงทำศึกบิ๊กแมตช์ "แดงเดือด" ในวันอาทิตย์ที่ 23 ก.ย. นี้แน่นอนแล้ว ตามการยืนยันของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์ กูสัน ซึ่งคาดว่าน่าจะฟิตเต็มที่อีกครั้งในช่วงสุดสัปดาห์หน้า
    
        พร้อมกันยี้ "เฟอร์กี" ได้เผยถึงอาการบาดเจ็บของ แอชลีย์ ยัง อีกหนึ่งแข้งที่มีอาการบาดเจ็บรบกวนว่ายังต้องพักยาวอีก 2-3 อาทิตย์ด้วยกันเพื่อไม่ให้อาการดังกล่าวกำเริบและหลับมาเจ็บซ้ำอีกครั้ง "มันไม่เป็นความจริงเลยที่ รูนีย์ จะได้เล่นในวันอาทิตย์นี้ แต่เขาก็ใกล้ฟิตเต็มถีงอีกครั้ง พยายามฝึกซ้อมอย่างหนัก ซึ่งน่าจะได้กลับมาช่วยทีมในช่วงสัปดาห์หน้านี้"
    
        "สำหรับ แอชลีย์ ยังไม่หายจากอาการเจ็บ และจะต้องพักเพิ่มราว 2 หรืออาจจะ 3 สัปดาห์ เราต้องแน่ใจว่าเขาหายดีแล้ว ผมเคยมีนักเตะเจ็บแบบนี้และก็เจ็บซ้ำขึ้นมาอีก ซึ่งแน่นอนว่าไม่ต้องการให้เป็นแบบนั้น" ผู้จัดการทีมชาวสกอตต์ กล่าว
Read More

ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 17 ก.ย. 55 | เอฟเวอร์ตัน 2 - 2 นิวคาสเซิล

ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 17 ก.ย. 55 | เอฟเวอร์ตัน 2 - 2 นิวคาสเซิล
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 17 ก.ย. 55 | เอฟเวอร์ตัน 2 - 2 นิวคาสเซิล
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 17 ก.ย. 55 | เอฟเวอร์ตัน 2 - 2 นิวคาสเซิล
เดมบา บา ศูนย์หน้าตัวเก่งของ นิวคาสเซิล รับบทฮีโร่ เมื่อลงมาซัดคนเดียว 2 ประตู ช่วยให้ต้นสังกัดบุกมาแบ่งแต่มจาก เอฟเวอร์ตัน ด้วยสกอร์ 2-2 ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันจันทร์ที่ 17 ก.ย.ที่ผ่านมา

ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 17 ก.ย. 55
เอฟเวอร์ตัน 2 - 2 นิวคาสเซิล 

สนาม กูดิสัน ปาร์ค : เดวิด มอยส์ กุนซือของ เอฟเวอร์ตัน ยังคงไว้วางใจให้ มารูยาน เฟลไลนี ลงเป็น 11 ตัวจริง แม้จะมีข่าวว่าอาจจะอำลาทีมไป ด้าน นิวคาสเซิล ซึ่งประสบปัญหาผู้เล่นคนสำคัญในแนวรับอย่าง ทิม ครูล ผู้รักษาประตู และ ฟาบริซิโอ โคลอชชินี ทว่าในแนวรุกยังคงมี ฮาเต็ม เบน อาร์ฟา และ ปาปิส เดมบา ซิสเซ เป็นตัวทีเด็ด
ก่อนทำการแข่งขัน เอฟเวอร์ตัน ได้มีการจัดพิธีรำลึกถึงผู้เสียชีวิต 96 ศพ จากโศกนาฏกรรมที่ ฮิลล์สโบโร ซึ่งเรียกเสียงปรบมือจากแฟนบอลที่เข้ามาชมเกมนี้อย่างกึกก้อง ทั่วทั้งสนามกูดิสัน ปาร์ค และเป็นการแสดงถึงไมตรีจิตต่อสโมสรคู่ปรับร่วมเมืองอย่าง ลิเวอร์พูล
เริ่มเกม เอฟเวอร์ตัน ครองบอลได้เหนือกว่า และเป็นฝ่ายขึ้นนำไปก่อน ในนาทีที่ 15 เมื่อ เลห์ตัน ทำชิ่งกับ สตีเวน ปีนาร์ และเป็นแบ็กซ้ายทีมชาติอังกฤษ ที่หลุดเข้าไปซัดเต็มหลังเท้า ผ่านมือ สตีฟ ฮาร์เปอร์ เสียบมุมเสาไกลอย่างสวยงาม จากนั้นลูกทีมของ เดวิด มอยส์ ยังทำเกมรุกอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ นิวคาสเซิล มีโอกาสตอบโต้เป็นระยะๆ แต่กลับปิดสกอร์ไม่เฉียบขาด จนกระทั่งนาทีที่ 42 “ทอฟฟีสีน้ำเงิน” ต้องมาเสีย นิคิกา เยลาวิช ศูนย์หน้าตัวเก่ง ซึ่งบาดเจ็บจากการปะทะกับเสาประตู ตั้งแต่นาทีแรก และฝืนเล่นต่อไม่ไหว ก่อนจบครึ่งแรกด้วยสกอร์ 1-0
ครึ่งหลัง เอฟเวอร์ตัน เร่งเกมหวังทำประตูเพิ่ม แต่กลับเป็น นิวคาสเซิล ที่มาได้ประตูตีเสมอ ในนาทีที่ 49 เมื่อ โยฮัน คาบาย ตัดบอลจาก ลีออน ออสแมน ก่อนจะผ่านให้ เดมบา บา หลุดมาทางกรอบเขตโทษด้านซ้าย และซัดผ่านมือ ทิม ฮาเวิร์ด เสียบมุมเสาไกล จากนั้นรูปเกมเริ่มสูสี และมีโอกาสลุ้นประตูด้วยกันทั้งสองฝ่าย จนกระทั่งนาทีที่ 78 วิคเตอร์ อนิเชบี ได้โอกาสโขกจ่อๆ บอลไปติดเซฟของ สตีฟ ฮาร์เปอร์ และกระดอนคาน ข้ามเส้นไปแล้ว แต่ผู้ตัดสินกลับปฏิเสธที่จะให้เป็นประตูขึ้นนำของเจ้าถิ่น อย่างไรก็ตาม นาทีที่ 88 เอฟเวอร์ตัน ก็มาได้ประตูนำอีกครั้ง เมื่อ สตีเวน ปีนาร์ ผ่านบอลเข้ามาบริเวณหัวกะโหลกให้ วิคเตอร์ อนิเชบี พลิกเข้ากรอบเขตโทษ ก่อนตะบันด้วยซ้าย เสียบเสาไกลอย่างสวยงาม ทว่า นาทีที่ 90 สาวก “เดอะ แม็คพาย” ก็เป็นฝ่ายได้เฮ จากจังหวะทิ้งบอลยาวมาหน้าประตู โชลา อเมโอบี พักอกให้ เดมบา บา หลุดเข้าไปแตะบอลผ่าน ทิม ฮาเวิร์ด ตุงตาข่าย จบเกมทั้งคู่เสมอกัน 2-2

รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริง
เอฟเวอร์ตัน : ทิม ฮาเวิร์ด , โทนี ฮิบเบิร์ต , เลห์ตัน เบนส์ , ฟิล จากิลกา , ซิลแว็ง ดิสแต็ง , เควิน มิรัลลาส , ฟิล เนวิลล์ , ลีออน ออสแมน , สตีเวน ปีนาร์ , นิคิกา เยลาวิช , มารูยาน เฟลไลนี
นิวคาสเซิล : สตีฟ ฮาร์เปอร์ , ดาวิเด ซานตัน , ไมเคิล วิลเลียมสัน , เจมส์ เพิร์ช , สตีเวน เทย์เลอร์ , เวอร์นอน อนิตา , ฮาเต็ม เบน อาร์ฟา , โฮนาส กูเตัยร์เรซ , ซิลแว็ง มาร์โวซ์ , โยฮัน คาบาย , ปาปิสส์ เดมบา , ซิลเซ
Read More

ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 16 ก.ย. 55 | เรดดิ้ง 1 - 3 สเปอร์ส

ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 16 ก.ย. 55 | เรดดิ้ง 1 - 3 สเปอร์ส
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 16 ก.ย. 55 | เรดดิ้ง 1 - 3 สเปอร์ส
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 16 ก.ย. 55 | เรดดิ้ง 1 - 3 สเปอร์ส
ท็อตแนม ฮ็ตสเปอร์ส บุกมาเอาชนะ เรดดิง แบบไร้ปัญหา 3-1 จากฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมของ เจอร์เมน เดโฟ ดาวยิงตัวเก่ง คว้าชัยชนะเป็นเกมแรก ภายใต้การคุมทีมของ อังเดร วียาส โบอาส ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ เมื่อคินวันอาทิตย์ที่ 16 ก.ย. ที่ผ่านมา

ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 16 ก.ย. 55 | เรดดิ้ง 1 - 3 สเปอร์ส
ที่สนาม มาเดจสกี สเตเดียม : ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ส ยกพลมาเยือนรังของ เรดดิง เกมนี้ อังเดร วียาส โบอาส หวังว่าจะพา "ไก่เดือยทอง" คว้าชัยชนะเป็นนัดแรก เนื่องจากเป็นการดวลแข้งกับ ทีมน้องใหม่ของ พรีเมียร์ชิป ซึ่ง อดีตกุนซือของเชลซี ขนผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนาม โดยมี แกเร็ธ เบล กับ อารอน เลนนอน ทำเกมทางริมเส้น และส่ง เจอร์เมน เดโฟ ลงยืนเป็นศูนย์หน้าตัวเป้า เริ่มเกม ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ส เปิดเกมรุกเข้าใส่ทันที และเป็นฝ่ายขึ้นนำในนาทีที่ 18 1-0 เมื่อ กิลฟี ซิกูร์ดสัน ไหลบอลทะลุช่องให้ อารอน เลนนอน หลุดขึ้นไปทางกรอบโทษด้านขวา ก่อนจะหักเข้ากลางให้ เจอร์เมน เดโฟ กดลูกเรียดเสียบเสาสองอย่างสวยงาม จากนั้น "ไก่เดือยทอง" ยังคงเดินหน้าบุกอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ เรดดิง ยังไม่มีจังหวะปิดกอร์มากนัก และจบครึ่งแรกด้วยสกอร์ดังกล่าว ครึ่งหลัง สเปอร์ส ยังคงเดินเกมรุกอย่างต่อเนื่อง และมาได้ประตูที่สองในนาทีที่ 71 เมื่อ ไคล์ วอล์คเกอร์ กระชากบอลขึ้นมาทางริมเส้นด้านขวา แล้วผ่านบอลเรียดมาหน้าให้ แกเร็ธ เบล ซัดด้วยเท้าขวา จากบริเวณจุดโทษ ตุงตาข่าย จากนั้นอีก 3 นาทีต่อมา ลูกทีมของ "เอวีบี" นำห่าง 3-0 เมื่อ เจอร์เมน เดโฟ ลากเดี่ยวจากกลางสนามเข้าไปทางกรอบโทษด้านซ้าย และตะบันด้วยเท้าซ้าย บอลเสียบมุมเสาสองอย่างสวยงาม ช่วงนาทีสุดท้ายของการแข่งขัน เรดดิง มาได้ประตูตีไข่แตก เมื่อ อดัม เล ฟอนเดร ตักบอลโด่งมาทางเสาสอง ให้ ฮัล ร็อบสัน-คานู กระโดดชาร์จระยะเผาขน ครบ 90 นาที สเปอร์ส บุกมาเก็บชัยชนะ ด้วยสกอร์ 3-1

รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริง
เรดดิง : อเล็กซ์ แม็คคาร์ธีย์ , คริส กุนเทอร์ , อเล็กซ์ เพียร์ซ , คาสปาร์ส กอร์คสส์ , เอียน ฮาร์ท , เจม คาราชาน , มิเคเล ลีเกิร์ตวูด , แกเร็ธ แม็คอานัฟฟ์ , แกเร็ธ แม็คเคลียรี , พาเวล โปรเกรบเนียค , แดนนี กัทธรี
สเปอร์ส : แบร็ด ฟรีเดล , แยน แฟร์ตองเกน , วิลเลียม กัลลาส , ไคล์ นอจตัน , ไคล์ วอล์คเกอร์ , อารอน เลนนอน , แกเร็ธ เบล , มุสซา เดมเบเล , ซานโดร , กิลฟี ซิกูร์ดสสัน , เจอร์เมน เดโฟ
Read More

ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 15 ก.ย. 55 | ซันเดอร์แลนด์ 1 - 1 ลิเวอร์พูล

ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 15 ก.ย. 55 | ซันเดอร์แลนด์ 1 - 1 ลิเวอร์พูล
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 15 ก.ย. 55 | ซันเดอร์แลนด์ 1 - 1 ลิเวอร์พูล
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 15 ก.ย. 55 | ซันเดอร์แลนด์ 1 - 1 ลิเวอร์พูล
ลิเวอร์พูล บุกมาเสมอกับ ซันเดอร์แลนด์ แบบหืดขึ้นคอ 1-1 จากการทำประตูตีเสมอของ หลุยส์ ซัวเรซ ในนาทีที่ 71 เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 15 ก.ค. ที่ผ่านมา ส่งผลให้ "หงส์แดง" ยังต้องรอชัยชนะนัดแรก ใน ศึกฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2012-13 ต่อไป หลังจากลงเตะไปแล้ว 4 นัด
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 15 ก.ย. 55
ซันเดอร์แลนด์ 1 - 1 ลิเวอร์พูล
ที่สนาม สเตเดียม ออฟ ไลท์ : ลิเวอร์พูล บุกมาเยือน ซันเดอร์แลนด์ ด้วยสถิติออกสตาร์ทฤดูกาลที่ย่ำแย่ที่สุด นับตั้งแต่ฤดูกาล 1962-63 โดยเกมนี้ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส หวังหยุดสถิติดังกล่าว
ด้วยการขนผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนาม นำโดย สตีเวน เจอร์ราร์ด และ หลุยส์ ซัวเรซ สองหัวใจสำคัญในแนวรุก ขณะที่ ซันเดอร์แลนด์ ส่ง สตีเวน เฟล็ทเชอร์ จับคู่กับ สเตฟาน แซสซิยอง ลงล่าตาข่าย

เริ่มเกม 20 นาทีแรก ทั้งสองฝ่ายยังไม่มีลุ้นประตูมากนัก แต่หลังจากนั้น ลิเวอร์พูล เริ่มครองเกมได้เหนือกว่าเล็กน้อย ทว่ากลับเป็น ซันเดอร์แลนด์ ที่ขึ้นนำ 1-0 ในนาทีที่ 29 จากการลุยของ เคร็ก การ์ดเนอร์ มาทางริมเส้นด้านขวา ก่อนจะผ่านเรียดมาให้ สตีเวน เฟล็ทเชอร์ ชาร์จจ่อๆ หลังจากนั้น ลูกทีมของ มาร์ติน โอ' นีล เล่นด้วยความมั่นใจ ขณะที่เกมรุกของ "หงส์แดง" กลับขาดๆ เกินๆ หมดครึ่งแรก "แมวดำ" นำอยู่ 1-0

ครึ่งหลัง ลิเวอร์พูล ครองบอลได้มากกว่า แต่กลับไม่สามารถฝ่าแนวรับของ "แมวดำ" ได้ จนกระทั่งนาทีที่ 71 หลุยส์ ซัวเรซ ซัดระยะเผาขน จากการเก็บตกจังหวะสกัดบอลพลาดของ ไดดัส แบรมเบิล ตีเสมอเป็น 1-1 จากนั้นช่วง 10 นาทีสุดท้าย ลูกทีมของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส เริ่มได้ใจ และพยายามเปิดเกมรุก หวังทำประตูเพิ่ม แต่ก็ทำไม่ได้ จบเกมทั้งคู่เสมอกัน 1-1

รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริง

ซันเดอร์แลนด์ : ซิมง มืโยเลต์ , แดนนี โรส , เคร็ก การ์ดเนอร์ , จอน โอ เชีย , คาร์ลอส คูเอลยาร์ , ลี แคตเทิลโม , เซบาสเตียน ลาร์สสัน , แจ็ค โคลแบ็ค , เจมส์ แม็คคลีน , สตีเวน เฟล็ทเชอร์ , สเตฟาน แซสซิยอง ,

ลิเวอร์พูล : โฆเซ เรนา , เกล็น จอห์นสัน , แดเนียล แอ็กเกอร์ , มาร์ติน สเคอร์เทล , มาร์ติน เคลลี , สตีเวน เจอร์ราร์ด , โจ อัลเลน , จอนโจ เชลวีย์ , หลุยส์ ซัวเรซ , ฟาบิโอ บอรินี , ราฮีม สเตอร์ลิง
Read More

ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 15 ก.ย. 55 | แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 4 - 0 วีแกน แอธเลติก

ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 15 ก.ย. 55 | แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 4 - 0 วีแกน แอธเลติก
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 15 ก.ย. 55 | แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 4 - 0 วีแกน แอธเลติก
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 15 ก.ย. 55 | แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 4 - 0 วีแกน แอธเลติก
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านไล่ถล่ม วีแกน แอธเลติก ไปแบบขาดลอย 4-0 จากการยิงประตูของ พอล สโคลส์ , ฮาเวียร์ เฮอร์นานเดซ พร้อมกับ 2 นักเตะใหม่อย่าง อเล็กซานเดอร์ บุตต์เนอร์ และ นิค พาวล์ ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 15 ก.ย. ที่ผ่านมา

ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 15 ก.ย. 55
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 4 - 0 วีแกน แอธเลติก

ที่สนาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านรับการมาเยือนของ วีแกน แอธเลติก โดยเกมนี้ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ดร็อป โรบิน ฟาน เพอร์ซี และ ชินจิ คากาวะ 2 นักเตะซึ่งได้รับบาดเจ็บจากการลงเล่นให้ทีมชาติ โดยจัด แดนนี เวลเบ็ค และ ฮาเวียร์ เฮอร์นานเดซ ลงยืนเป็นคู่หัวหอก พร้อมทั้งส่ง อเล็กซานเดอร์ บุตต์เนอร์ ลงประเดิมสนาม

ครึ่งแรก เปิดฉากได้ 4 นาที แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาได้ลูกจุดโทษ เมื่อ อาลี อัล ฮับซี ทำฟาวล์ แดนนี เวลเบ็ค ทว่า ฮาเวียร์ เฮอร์นานเดซ กลับสังหารพลาด จากนั้น "ปิศาจแดง" เป็นฝ่ายครองเกมได้ดีกว่า แต่แนวรับของ วีแกน แอธเลติก ยังทำหน้าที่ได้ดี และมีลุ้นจากจังหวะสวนกลับ แต่ทั้งคู่ยังทำอะไรกันไม่ได้ ครบ 45 นาที จึงเสมอกัน 0-0

ครึ่งหลังผ่านไป 5 นาที สาวก "เร้ด เดวิลส์" ได้เฮลั่น เมื่อ นานี ได้จังหวะซัดจากกรอบเขตโทษด้านขวา แต่ถูก อาลี อัล ฮับซี เซฟไว้ได้ และเป็น พอล สโคลส์ ที่เก็บตกไม่พลาด แมนฯ ยูไนเต็ด นำ 1-0 จากนั้น ลูกทีมของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ยังเดินหน้าบุกอย่างต่อเนื่อง และทิ้งห่างเป็น 2-0 ในนาทีที่ 63 เมื่อ อเล็กซานเดอร์ บุตต์เนอร์ ได้จังหวะสับไกด้วยซ้ายใกรอบ 18 หลา บอลมาเข้าทาง "ชิชาร์ริโต" สะกิดบอลเข้าประตู นับเป็นการแก้ตัวจากการพลาดจุดโทษ

ต่อมา แบ็กซ้ายป้ายแดงชาวดัตช์ แหวกผู้เล่นของ "เดอะ ลาติกส์" เข้าไปซัดมุมแคบให้ แชมป์ลีก 19 สมัย ทิ้งห่าง 3-0 และนาทีที่ 82 นิค พาวล์ ก็มาประเดิมประตูแรก จากการยิงไกลเสียบเสาแรกอย่างสุดสวย จากนั้นไม่มีฝ่ายใดทำประตูเพิ่มได้ จบเกม แมนฯ ยูไนเต็ด ถล่ม วีแกนไป 4-0

รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริง

แมนฯ ยูไนเต็ด : อันเดรส ลินเดการ์ด , ราฟาเอล , ริโอ เฟอร์ดินานด์ . เนมันยา วีดิช , อเล็กซานเดอร์ บุตต์เนอร์ , ไมเคิล คาร์ริค , พอล สโคลส์ , นานี , ไรอัน กิ๊กส์ , ฮาเวียร์ เฮอร์นานเดซ , แดนนี เวลเบ็ค

วีแกน แอธเลติก
: อาลี อัล ฮับซี , อิบัน รามิส , แกรี คัลด์เวลล์ , ไมเนอร์ ฟิเกรัว , อีเมอร์สัน บอยซ์ , แม็คคาร์ธี , แม็คอาร์เธอร์ , ชอน มาโลนี , ฌอง โบเซจูร์ , ฟรังโก ดิ ซานโต , อารูนา โคเน

ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 15 ก.ย. 55 คู่อื่นๆ มีดังนี้

อาร์เซนอล 6 - 1 เซาท์แธมป์ตัน
แอสตัน วิลล่า 2 - 0 ชนะ สวอนซี ซิตี้
ฟูแลม 3 - 0 เวสต์บรอมฯ
ควีนส์ปาร์ก เรนเจอร์ส 0 - 0 เชลซี
สโต๊ค ซิตี้ 1 - 1 แมนฯ ซิตี
Read More

ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 15 ก.ย. 55 | นอริช ซิตี้ 0 - 0 เวสต์แฮม ยูไนเต็ด

ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 15 ก.ย. 55 | นอริช ซิตี้ 0 - 0  เวสต์แฮม ยูไนเต็ด
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 15 ก.ย. 55 | นอริช ซิตี้ 0 - 0  เวสต์แฮม ยูไนเต็ด
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 15 ก.ย. 55 | นอริช ซิตี้ 0 - 0 เวสต์แฮม ยูไนเต็ด
นอริช ซิตี เปิดบ้านเจ๊ากับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด แบบไร้สกอร์ ส่งผลให้ "นกขมิ้นเหลืองอ่อน" ยังต้องรอคอยชันชนะเกมแรก ในศึกฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ 2012-13 เมื่อช่วงค่ำวันเสาร์ที่ 15 ก.ย. ที่ผ่านมา

ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 15 ก.ย. 55
นอริช ซิตี้ 0 - 0 เวสต์แฮม ยูไนเต็ด
แซม อัลลาไดซ์ กุนซือของ "ขุนค้อน" ยกพลมาเยือนรัง คาร์โรว์ โรด โดยปราศจาก แอนดี คาร์โรลล์ ศูนย์หน้าที่ยืมตัวมาจาก ลิเวอร์พูล ซึ่งมีปัญหาบาดเจ็บกล้ามเนื้อต้นขาด้านหลัง และต้องพักนานราว 6 สัปดาห์ จึงต้องฝากความหวังการทำประตูไว้กับ คาร์ตัน โคล และ เควิน โนแลน ในแนวรุก ขณะที่ นอริช ซิตี ต้องการเก็บชัยชนะนัดแรกในพรีเมียร์ชิป

เริ่มเกม ทั้งสองฝ่ายเปิดเกมแลกกันอย่าสนุกสนาน และมีโอกาสลุ้นประตูใกล้เคียงกัน แต่ยังไม่มีทีมใดจบสกอร์ได้อย่างเฉียบขาด ครบ 45 นาที จึงเสมอกันไป 0-0

ครึ่งหลัง นอริช ซิตี ครองเกมได้เหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัดในช่วงแรก ขณะที่ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด เน้นการตั้งรับและรอจังหวะสวนกลับ ช่วง 10 นาทีสุดท้าย เจ้าถิ่น เร่งเครื่องหมายทำประตูชัย แต่กลับปิดสกอร์ไม่ได้ จบเกมจึงเสมอกันไปแบบไร้สกอร์

รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริง

นอริช ซิตี : จอห์น รัดดี , รัสเซลล์ มาร์ติน , ลีออน บาร์เน็ตต์ , เซบาสเตียน บาสซง , ฆาเบียร์ การ์ริโด , จอนนี โฮว์สัน , แบรดลีย์ จอห์นสัน , โรเบิร์ต สน็อดกราส , แจ็คสัน , เซอร์แมน , แกรนท์ โฮลท์

เวสต์แฮม ยูไนเต็ด : จูสซี จัสเคไลเนน , กีย์ เดเมล , เจมส์ คอลลินส์ , วินส์ตัน รีด , โจอี โอ ไบรอัน , มาร์ค โนเบิล , โมฮัมเหม็ด ดิยาเม , ริคาร์โด วาซเท , เควิน โนแลน , คาร์ลตัน โคล
Read More

ผีเฮ "RVP-คากาวะ" อาจฟิตทันฉะวีแกน

"RVP" อาจลงล่าตาข่าย วีแกนฯ
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรชื่อดังแห่งเกาะอังกฤษ อาจได้รับข่าวดี เมื่อ โรบิน ฟาน เพอร์ซี และ ชินจิ คากาวะ 2 นักเตะใหม่ อาจกลับมาช่วยต้นสังกัด ในศึกพรีเมียร์ ลีก กับ วีแกน แอธเลติก วันเสาร์ที่ 15 ก.ย. นี้ แม้ว่าจะได้รับบาดเจ็บจากการรับใช้ชาติ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

"RVP" ถูกเปลี่ยนตัวออก หลังจบครึ่งแรกในแมตช์ ฟุตบอลโลก 2014 รอบคัดเลือก ระหว่าง เนเธอร์แลนด์ส กับ ฮังการี เนื่องจากการบาดเจ็บต้นขา ขณะที่ เพลย์เมคเกอร์แดนซามูไร ก็มีอาการบาดเจ็บจากเกมที่ ญี่ปุ่น เอาชนะ อิรัก แบบหวุดหวิด 1-0

เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผู้จัดการทีม "ปิศาจแดง" เผยว่า ตนไม่มีปัญหาเกี่ยวกับอาการบาดเจ็บของผู้เล่น จากการลงสนามให้ประเทศบ้านเกิด และพร้อมต้อนรับการกลับมาของ ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ ซึ่งป่วยจากการติดเชื้อในลำไส้ และหายหน้าหายตาไปนานร่วม 10 เดือน

กุนซือชาวสกอตต์ กล่าวว่า "จากรายงานเกี่ยวกับการบาดเจ็บ ทุกคนล้วนอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ ยกเว้น โจนส์ ซึ่งได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรง ระหว่างการฝึกซ้อม เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และอาจจะต้องพักประมาณ 8-10 สัปดาห์ ส่วน สมอลลิง อาจกลับมาภายใน 1 เดือน และ จอห์นนี อีแวนส์ ตอนนี้เขากลับมาสมบูรณ์กว่า 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา"

อดีตกัปตันทีมอาร์เซนอล อาจกลับมาล่าตาข่ายอีกครั้ง หลังตะบันแฮตทริคในการพบกับ เซาท์แธมป์ตัน ที่สนาม เซนต์ แมรี เมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้ว และช่วยให้ "เรด เดวิลส์" เก็บ 3 คะแนน แบบหืดจับด้วยสกอร์ 3-2 ก่อนที่จะร่วมทัพ นักเตะจากแดนกังหันลม ในช่วงเบรคทีมชาติ

ขณะที่ กัปตันทีมสก็อตแลนด์ ซึ่งห่างหายจากการโชว์เพลงแข้งไปนานกว่า 10 เดือน นับตั้งแต่ป่วยจากการติดเชื้อในลำไส้ ก็พร้อมจะลงสนามเช่นกัน ทว่า "เฟอร์กี" ยังไม่เร่งให้แข้งวัย 28 ปี คืนสู่ทีมชุดใหญ่

ตำนานโค้ชแห่งถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด กล่าวว่า "ดาร์เรน อาจกลับมาอยู่ในทีมวันพรุ่งนี้ เพราะผมคิดว่า มันจะทำให้เขามีแรงกระตุ้น มันเป็นโอกาสสำหรับเขาที่จะเรียกความฟิต ณ เวลานี้ ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี สำหรับเขา"

นอกจากนี้ 2 ผู้เล่นทีมชาติอังกฤษอย่าง เวย์น รูนีย์ อยู่ระหว่างการรักษาแผลที่ต้นขา เนื่องจากถูกปุ่มสตั๊ดของ ฮูโก โรดาลเยกา บาดในเกมพรีเมียร์ชิป กับ ฟูแลม และ แอชลีย์ ยัง มีอาการบาดเจ็บที่หัวเข่า
Read More

ผลฟุตบอลโลก 2014 รอบคัดเลือก กลุ่มเอช 11 ก.ย. 55 | อังกฤษ 1 - 1 ยูเครน

ผลฟุตบอลโลก 2014 รอบคัดเลือก กลุ่มเอช 11 ก.ย. 55 | อังกฤษ 1 - 1 ยูเครน
ผลฟุตบอลโลก 2014 รอบคัดเลือก กลุ่มเอช 11 ก.ย. 55 | อังกฤษ 1 - 1 ยูเครน
ผลฟุตบอลโลก 2014 รอบคัดเลือก กลุ่มเอช 11 ก.ย. 55 | อังกฤษ 1 - 1 ยูเครน
"สิงโตคำราม" อังกฤษ เกือบแพ้คารังตัวเอง โดยได้ แฟรงค์ แลมพาร์ด มิดฟิลด์จอมเก๋าซัดจุดโทษไล่ตีเสมอ ยูเครน 1-1 ต้องแบ่งกันไปทีมละแต้ม ในเกมฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกนัดที่ 2 ที่สนามเวมบลีย์ เมื่อคืนวันอังคารที่ 11 ก.ย. ที่ผ่านมา

ผลฟุตบอลโลก 2014 รอบคัดเลือก กลุ่มเอช 11 ก.ย. 55
อังกฤษ 1 - 1 ยูเครน

พลพรรค "สิงโตคำราม" ลงสนามคัดเลือก ฟุตบอลโลก 2014 เกมที่ 2 กลับมาเปิดรังเวมบลีย์ ต้อนรับการมาเยือนของ ยูเครน เกมนี้ รอย ฮ็อดจ์สัน เปลี่ยนผู้เล่นตำแหน่งเดียวโดยไม่มี จอห์น เทอร์รี ที่มีอาการเจ็บ ในแนวรุกใช้ เจอร์เมน เดโฟ เป็นหัวหอกตัวเเป้า แดนกลางมี สตีเฟน เจอร์ราร์ด และ แฟรงค์ แลมพ์พาร์ด คุมเกม ขณะที่ ทีมเยือนของ โอเลก บล็อกคิน เน้นผู้เล่นอายุน้อยเป็นหลัก

เปิดฉากมา 10 นาที เดโฟ ใช้ความสามารถเฉพาะตัวลากแหวกแนวรับ 2 คน และซัดบอลบอลเข้าประตูไปก่อน ทว่ากรรมการเป่าเป็นลูกฟาล์ว โดยมองว่าไปทำฟาว์ลก่อน ถัดมา 3 นาที รัสลาน โรตาน เก็บตกบอลหน้าเขตโทษ แปด้วยขวายังดีที่ เจอร์ราร์ด สกัดออกมาจากหน้าปากประตูได้ทัน ยูเครน บุกได้ต่อเนื่อง เยฟกิน เซลิน เปิดโค้งมาให้ เดนิช กามาช จิ้มบอลแต่เหินข้ามคานไปนิดเดียว

ลูกยิงสุดท้ายของ โคนอฟปลิยานกา
นาที 35 อังกฤษน่าจะได้เฮก่อนเมื่อ เจอร์ราร์ด เปิดข้ามไปให้ เดโฟ โขกตั้งมาถึง ทอม เคลเวอร์รีย์ ตั้งเท้ารอแปเน้นๆ บอลไปตรงตัวของ อังเดร พิยาตอฟ อย่างน่าเสียดาย แต่แล้ว 5 นาทีถัดมา ความผิดพลาดของแนวรับอังกฤษเสียบอลกลางสนามมาถึง เยฟกินี โคนอฟปลิยานกา ลากตัดซัดด้วยขวาบอลโค้งเสียบสามเหลี่ยมบนอย่างสวยงาม ช่วยให้ทีมเยือนขยับนำ 1-0 และจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้

กลับมาเล่นในครึ่งหลังเจ้าถิ่นครอบอลเดินเกมรุกเข้าใส่ได้มากกว่าชัดเจน ทว่ากลับโดนประตูที่สอง โคนอฟปลิยานกา กระชากหนี ฟิล จาจีลกา ก่อนเปิดมาหน้าประตู เลท์ตัน เบนส์ สกัดทิ้งหวุดหวิด จากลูกเตะมุม กามาช โขกไปโดนหัวไหล่บอลเข้าซอง ฮาร์ท รับไว้ได้

นาที 68 อังกฤษเร่งเกมเร็วขึ้น เกล็น จอห์นสัน ลากตัดจากกราบขวาเข้าในก่อนซัดด้วยซ้าย บอลพุ่งลอดขา ยาโรสลาฟ ราติชสกี แต่ พิยาตอฟ ยังไม่หลับพุ่งปัดทิ้งออกหลังไม่ได้อย่างเหลือเชื่อ ช่วง 10 นาทีสุดท้าย 2 ตัวสำรอง เกือบช่วยให้ทีมได้ประตูตีเสมอ แดเนียล สเตอร์ริดจ์ เปิดเข้ามาให้ แดนนี เวลเบ็ค จิ้มด้วยขวาที่กรอบ 6 หลา บอลพุ่งชนเสาออกไปแบบไม่มีโชค

อย่างไรก็ดีช่วง 5 นาทีสุดท้าย "สิงโตคำราม" มาได้จุดโทษจากจังหวะทำแฮนบอลในเขตโทษของ ราติชสกี และเป็น แลมพ์พาร์ด เพชรฆาตมือ 1 สังหารเข้าไปไม่มีเหลือไล่มาเป็น 1-1 จากนั้นไม่ถึง 2 นาที เจ้าถิ่นเหลือ 10 คน เจอร์ราร์ด ถูกใบเหลืองที่ 2 จากการเข้าด้านหลัง และเวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม อังกฤษ ที่ลงในบ้านตัวเองต้องไล่ตามแบ่งแต้มแบบหืดจับ

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
อังกฤษ : โจ ฮาร์ท, เกล็น จอห์นสัน, เลท์ตัน เบนส์, โจลีออน เลสคอตต์, ฟิล จาจีลกา, สตีเฟน เจอร์ราร์ด, เจมส์ มิลเนอร์, แฟรงค์ แลมพ์พาร์ด, ทอม เคลเวอร์รีย์, อเล็กซ์ อ็อกเลดจ์-เชมเบอร์เลน, เจอร์เมน เดโฟ
ยูเครน : อังเดร พิยาตอฟ, เยฟกิน เซลิน, เยฟเคน คาเชอร์ริดี, ยาโรสลาฟ ราติชสกี, อนาโตลี ธีมอสชุค, เดนิช กามาช, โรมัน โซซุลยา, โอเลก กูเซฟ, เยฟกินี โคนอฟปลิยานกา, อันเดร ยาร์โมเลยโก, รัสลาน โรตาน

ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนยุโรป ประจำวันอังคารที่ 11 ก.ย. 2555

กลุ่ม เอ
เบลเยียม 1-1 โครเอเชีย
เซอร์เบีย 6-1 เวลส์
สกอตแลนด์ 1-1 มาซิโดเนีย

กลุ่ม บี
บัลแกเรีย 1-0 อาร์เมนีย
อิตาลี 2-0 มอลต้า

กลุ่ม ซี
สวีเดน 2-0 คาซัคสถาน
ออสเตรีย 1-2 เยอรมัน

กลุ่ม ดี
โรมาเนีย 4-0 อันดอร์ร่า
ตุรกี 3-0 เอสโตเนีย
ฮังการี 1-4 ฮอลแลนด์

กลุ่ม อี
ไซปรัส 1-0 ไอซ์แลนด์
นอร์เวย์ 2-1 สโลวีเนีย
สวิตเซอร์แลนด์ 2-0 แอลเบเนีย

กลุ่ม เอฟ
อิสราเอล 0-4 รัสเซีย
ไอร์แลนด์เหนือ 1-1 ลักเซมเบิร์ก
โปรตุเกส 3-0 อาเซอร์ไบจาน

กลุ่ม จี
บอสเนียฯ 4-1 ลัตเวีย
สโลวาเกีย 2-0 ลิคเตนสไตน์
กรีซ 2-0 ลิทัวเนีย

กลุ่ม เอช
ซาน มาริโน่ 0-6 มอนเตเนโกร
โปแลนด์ 2-0 มอลโดวา
อังกฤษ 1-1 ยูเครน

กลุ่ม ไอ
จอร์เจีย 0-1 สเปน
ฝรั่งเศส 3-1 เบลารุส
Read More

ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ

คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ

ข่าวฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ

อย่าลืมกด Like ให้ด้วยนะครับ

Blog Archive

7m, ผลบอลพรีเมียร์, วิเคราะห์บอลพรีเมียร์, ข่าวฟุตบอลพรีเมียร์, ตารางคะแนนบอลพรีเมียร์, โปรแกรมฟุตบอลพรีเมียร์, โปรแกรมถ่ายทอดสดบอลพรีเมียร์, ตารางบอล, คลิปฟุตบอล, คลิปไฮไลท์, คลิปไฮไลท์บอลพรีเมียร์, สยามกีฬา, บ้านผลบอล, เซียนสเต็ป, ล้มโต๊ะ, Goal, ดูบอลพรีเมียร์ออนไลน์, ผลบอลสด, ฟุตบอล, ผลบอลวันนี้, บอลวันนี้, ผลบอลเมื่อคืน, ผลฟุตบอล, ฟุตบอลวันนี้, โปรแกรมฟุตบอล, บอล, ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก, ตารางบอล, ข่าวฟุตบอล, คลิบฟุตบอล, เกมส์ุฟุตบอล, ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีก, ผลฟุตบอลสด, football, soccer

ข่าวสโมสรพรีเมียร์ลีกอังกฤษทั้งหมด

Man Utd (151) Liverpool (148) Chelsea (62) Tottenham (61) Arsenal (60) Man City (51) Aston Villa (45) Newcastle (45) Stoke (42) Fulham (40) Sunderland (35) Everton (33) West Brom (31) Wigan (29) Swansea (25) Bolton (24) Blackburn (23) Norwich (22) QPR (22) West Ham (18) Birmingham (10) Blackpool (10) Reading (10) Southampton (10) Cardiff City (3) Crystal Palace (2) Hull City (2)