Monday, June 6, 2011

ยอดนักเตะผู้จงรักภักดีกับสโมสร

ตอนนี้คอลูกหนังอาจจะรู้สึกเหมือนชีวิตขาดอะไรไปสักอย่าง หลังจากที่ฟุตบอลลีกดังในยุโรปฤดูกาล 2010-11 ได้รูดม่านปิดฉากกันไปหมดแล้ว



ทว่าเรายังคงไม่หยุดสรรหาเรื่องราวที่น่าสนใจในวงการฟุตบอลมาฝากกัน และครั้งนี้ก็เป็นเรื่องของนักเตะที่ลงเล่นให้กับสโมสรเดียวอย่างยาวนานจน กลายเป็นตำนานของกองเชียร์ (One-Club Man)


ไรอัน กิ๊กส์
ไรอัน กิ๊กส์
(แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, 1987 - ปัจจุบัน)

แม้จะอายุปาเข้าไป 37 ปีแล้ว แต่ปีกพ่อมดก็ยังคงโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมและมีส่วนสำคัญที่ช่วยให้ "ปีศาจแดง" คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกในฤดูกาลนี้ไปครอง
ซูเปอร์สตาร์ชาวเวลส์ ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดตลอดกาลของยูไนเต็ด และเมื่อวันที่ 6 มี.ค. 2011 เขาก็ทำลายสถิติผู้เล่นที่ลงเล่นในลีกมากที่สุดให้กับสโมสรของเซอร์บ็อบบี้ ชาร์ลตัน ด้วยการลงเล่นนัดที่ 607 ในเกมที่พบกับลิเวอร์พูล
กิ๊กส์ ถือเป็นผู้เล่นที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในวงการลูกหนังอังกฤษ หลังจากคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 12 สมัย, แชมเปี้ยนส์ ลีก 2 สมัย, เอฟเอ คัพ 4 สมัย และลีก คัพ อีก 3 สมัยด้วย

แมทธิว เลอ ทิสซิเอร์
แมทธิว เลอ ทิสซิเอร์
(เซาแธมป์ตัน, 1986 - 2002)

ถึงจะไม่เคยประสบความสำเร็จในการคว้าแชมป์ใดๆ กับสโมสร แต่ เลอ ทิสซิเอร์ ก็ถือเป็นหนึ่งในมิดฟิลด์ตัวรุกที่ดีที่สุดในโลก และเขาก็เป็นผู้เล่นขวัญใจของ ชาบี เอร์นานเดซ เพลย์เมกเกอร์บาร์เซโลน่าด้วย
อดีตกัปตันทีมนักบุญรายนี้ มีทักษะในเชิงลูกหนังที่เป็นเลิศและเคยได้รับความสนใจจากหลายทีมรวมถึง ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ และ เชลซีด้วย แต่เขาก็ไม่เคยคิดตีจากสโมสร จนได้รับการยกย่องจากแฟนบอลเซาแธมป์ตันว่าเป็นเหมือนพระเจ้าของทีมเลยที เดียว และนั่นก็เป็นที่มาของสมญานาม "Le God"
เลอ ทิสซิเออร์ เป็นมิดฟิลด์ที่ทำประตูในพรีเมียร์ลีกได้เกิน 100 ลูกเป็นคนแรก (ส่วนใหญ่จะมาจากฟรีคิกสุดสวยและลูกจุดโทษที่เขายิงพลาดหนเดียวจาก 49 ครั้ง) ก่อนที่จะแขวนสตั๊ดด้วยสถิติลงเล่น 540 นัดและทำไป 210 ประตูให้ทีมนักบุญ (รวมทุกถ้วย)

เปาโล มัลดินี่
เปาโล มัลดินี่
(มิลาน, 1985 - 2009)เจ้าของเหรียญแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 5 สมัย เป็นเครื่องการันตีความยิ่งใหญ่ของยอดกองหลัง "รอสโซเนรี่" รายนี้ได้เป็นอย่างดี
มัลดินี่ ถือเป็นฮีโร่ของกองเชียร์มิลานมาอย่างยาวนานและสถาปนาตัวเองเป็นหนึ่งในผู้ เล่นที่ดีที่สุดของสโมสร จากการลงสนามในทีมชุดใหญ่ไปกว่า 900 นัดตลอดช่วงเวลา 25 ปีที่อยู่ในถิ่นซาน ซิโร่ (ไม่นับช่วงที่เล่นให้ทีมเยาวชนอีก 7 ปี)
"Il Cappitano" หรือยอดกัปตัน เป็นนิคเนมที่สาวกปีศาจแดง-ดำ พร้อมใจกันยกย่องมัลดินี่ ที่ยืนตำแหน่งได้ดีทั้งเซนเตอร์ฮาล์ฟและแบ็กซ้าย และเมื่อเขาตัดสินใจรีไทร์ในปี 2009 มิลาน ก็ได้ยกเลิกเสื้อหมายเลข 3 เพื่อเป็นการให้เกียรติต่อ มัลดินี่ ด้วย

ฟรานเชสโก้ ต๊อตติ
ฟรานเชสโก้ ต๊อตติ
(โรม่า, 1992 - ปัจจุบัน)"เจ้าชายหมาป่า" เป็นหัวใจสำคัญของโรม่ามาร่วม 2 ทศวรรษ และ ต๊อตติ ก็ยังคงยืนหยัดที่จะรับใช้สโมสรบ้านเกิดต่อไป แม้ว่าจะพลาดโอกาสย้ายไปเล่นให้ทีมยักษ์ใหญ่ของยุโรปที่เคยตามเกี้ยวมานานอ ย่างเรอัล มาดริด ก็ตาม
ต๊อตติ คือกัปตันทีมผู้พา "หมาป่าเหลือง-แดง" คว้าสคูเด็ตโต้มาครองได้เป็นครั้งแรกในรอบ 18 ปี เมื่อปี 2001 ซึ่งเวลานั้นมี ฟาบิโอ คาเปลโล่ เป็นกุนซือ และแม้จะถูกวิจารณ์ว่าฟอร์มตกลงไปบ้าง แต่ในวัย 34 ปี ต๊อตติ ก็ยังคงเป็นฮีโร่สำหรับกองเชียร์โรม่าอยู่เสมอ และเมื่อไม่นานมานี้เขาเพิ่งจะลงเล่นในลีกเกินกว่า 600 นัดให้กับสโมสรด้วย
เมื่อวันที่ 1 พ.ค. ที่ผ่านมา ต๊อตติ เหมาคนเดียว 2 ประตูในเกมที่พบกับ บารี่ และนั่นทำให้เขาแซงหน้า โรแบร์โต้ บาจโจ้ ขึ้นไปอยู่ที่ 5 ในทำเนียบดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของเซเรีย อา ที่ 206 ประตู


โทนี่ อดัมส์
โทนี่ อดัมส์
(อาร์เซน่อล, 1983 - 2002)
อดีตเซนเตอร์ฮาล์ฟทีมชาติอังกฤษ ลงเล่นให้กับ "ปืนใหญ่" เกือบ 700 นัด และแม้ว่าจะมีทั้งช่วงเวลาที่รุ่งเรืองและตกต่ำตลอดระยะเวลา 22 ปีที่อยู่กับสโมสร แต่โดยรวมแล้วถือว่า อดัมส์ เป็นผู้เล่นที่ประสบความสำเร็จสูงสุดคนหนึ่งของอาร์เซน่อลอย่างไร้ข้อโต้ แย้ง
อดัมส์ เคยมีปัญหาติดสุราเรื้อรังแต่เขาก็สามารถเอาชนะมันมาได้ และนอกจากความสำเร็จนอกสนามแล้ว ประตูที่กัปตันทีมรายนี้ทำได้ในเกมที่พบกับเอฟเวอร์ตันในนัดสุดท้ายของฤดู กาล 1997-98 ที่สนามไฮบิวรี่ ก็ช่วยให้อาร์เซน่อลคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกมาครอง
อดีตกองหลังจอมแกร่งรายนี้ ช่วยพา "ปืนใหญ่" คว้าแชมป์ลีกสูงสุด 4 สมัย, เอฟเอ คัพ 3 สมัย, ลีก คัพ 2 สมัย และคัพ วินเนอร์ส คัพ อีก 1 สมัยด้วย

อเลสซานโดร เดล ปิเอโร่
อเลสซานโดร เดล ปิเอโร่
(ยูเวนตุส, 1993 - ปัจจุบัน)
ว่ากันว่า อเล็กซ์ คือนักเตะที่ดีที่สุดที่เคยสวมชุดลายทางขาว-ดำของยูเวนตุส เพราะหลังจากที่เลื่อนชั้นขึ้นมาจากทีมเยาวชนในวัย 18 ปี เขาก็กลายเป็นกำลังสำคัญในทีมชุดใหญ่ของ "ม้าลาย" ได้อย่างรวดเร็ว
ไม่มีใครสงสัยถึงทักษะในเชิงลูกหนังอันยอดเยี่ยมของเขา เพราะทั้งในระดับสโมสรและกับทีมชาติอิตาลี เดล ปิเอโร่ ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเขาคือผู้เล่นระดับเวิลด์คลาสอย่างแท้จริง หลังจากที่ช่วยพา "ม้าลาย" คว้าแชมป์กัลโช่ เซเรีย อา 5 สมัย (ไม่รวมในฤดูกาล 2004-05, 2005-06 ที่ยูเว่ถูกริบแชมป์จากความผิดฐานพัวพันการล้มบอล), ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก, โคปปา อิตาเลีย. ยูฟ่า ซูเปอร์คัพ, อินเตอร์คอนติเนนทัล คัพ และ อินเตอร์โตโต้ คัพ อีกอย่างละ 1 สมัย อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในทีม "อัซซูรี่" ชุดคว้าแชมป์โลก 2006 ด้วยยุโรปและฟุตบอลโลกด้วย
ในวัย 36 ปี เดล ปิเอโร่ ลงเล่นให้ยูเวนตุสไปแล้วเกือบ 700 นัด และทำประตูได้เกือบ 300 ประตู จากการค้าแข้งกับยักษ์ใหญ่แห่งตูรินเป็นเวลา 18 ปี และฤดูกาลหน้าเราก็ยังจะได้เห็นกัปตันทีม "ม้าลาย" วาดลวดลายในเซเรีย อา ต่อไป

ชาบี เอร์นานเดซ
ชาบี เอร์นานเดซ
(บาร์เซโลน่า, 1998 - ปัจจุบัน)
ถ้าถามถึงมิดฟิลด์ที่ดีที่สุดในโลกเวลานี้ เชื่อว่าชื่อของ ชาบี คงผุดขึ้นมาในหัวของใครหลายๆ คน แม้ความเก๋าอาจจะไม่มากเท่าต๊อตติ หรือ เดล ปิเอโร่ แต่เพลย์เมกเกอร์ทีมชาติสเปน ก็ประสบความสำเร็จไม่ได้ด้อยไปกว่ากัน
ถึงจะรูปร่างค่อนข้างเล็ก แต่นั่นก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคในการช่วยให้บาร์ซ่ากลายเป็นทีมหมายเลข 1 ของวงการลูกหนังในเวลานี้ เพราะการจ่ายบอลและการอ่านเกมที่ชาญฉลาดของเขาของเขาช่วยให้กองหน้าอย่างลี โอเนล เมสซี่ ทำประตูได้อย่างต่อเนื่อง
ชาบี ในวัย 31 ปี ลงเล่นให้ยักษ์ใหญ่แห่งคาตาลันไปแล้วกว่า 500 นัด และคว้าแชมป์ลา ลีก้า กับทีมไปแล้ว 6 สมัย, แชมเปี้ยนส์ ลีก อีก 3 สมัย, โคปา เดล เรย์, ยูฟ่า ซูเปอร์คัพ และแชมป์สโมสรโลกอีกอย่างละ 1 สมัย รวมถึงแชมป์ยุโรปและแชมป์ฟุตบอลโลกกับสเปนด้วย

หารูปไม่ได้เลยนิ
ซานติอาโก้ เบอร์นาเบว เยสเต้
(เรอัล มาดริด, 1912 - 1927)
การนำชื่อของเขามาตั้งเป็นชื่อสนามเหย้าของ "ราชันชุดขาว" คงจะเป็นการบ่งบอกได้ดีว่า เบอร์นาเบว คือตำนานของเรอัล มาดริดอย่างแท้จริง
ในช่วงต้นทศวรรษ 1900 ซานติอาโก้ เบอร์นาเบว คือผู้เข้ามาเปลี่ยนแปลงเรอัล มาดริดให้กลายเป็นทีมที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในวงการลูกหนังสเปนและยุโรป ก่อนที่จะเข้ารับตำแหน่งประธานสโมสรระหว่างปี 1943-1978
แม้ว่าจะไม่มีการจดสถิติอย่างเป็นทางการว่าอดีตหัวหอกชาวสแปนิชทำ ประตูไว้มากเท่าใด แต่ความยิ่งใหญ่ของเขาก็เป็นที่เลื่องลือในแดนกระทิงดุอย่างยาวนาน

ฟรังโก้ บาเรซี่
ฟรังโก้ บาเรซี่
(มิลาน, 1977 - 1997)
ไม่มีใครเถียงว่าบาเรซี่ คือหนึ่งในเซนเตอร์ฮาล์ฟที่ดีที่สุดของอิตาลี ทั้งที่มีความสูงเพียง 174 ซม. (จนเป็นที่มาของฉายา Piscinin หรือเจ้าตัวเล็กในภาษาอิตาเลียน) และยิ่งเมื่อมี มัลดินี่ เป็นกองหลังร่วมกันแล้ว ก็ทำให้แนวรับของมิลานเหนียวแน่นจนยากที่ใครจะเจาะเข้าไปได้
ตลอดระยะเวลาที่ค้าแข้งในถิ่นซาน ซิโร่ มานาน 2 ทศวรรษ บาเรซี่ ลงเล่นให้ "รอสโซเนรี่" ไปกว่า 700 นัด และช่วยให้ทีมคว้าสคูเด็ตโต้ไปครองได้ถึง 6 สมัยและยูโรเปี้ยน คัพ อีก 3 สมัยด้วย

หารูปไม่ได้อีกปล้วครับ
จูเซ็ปเป้ แบร์โกมี่
(อินเตอร์, 1979-1999)
ปราการหลังตัวกลางของรายนี้คือเจ้าของสถิติผู้เล่นที่ลงสนามให้อินเตอร์ มากที่สุดตลอดกาลที่ 757 นัด ตลอดช่วงเวลา 20 ปีที่ค้าแข้งอยู่กับสโมสร
แม้ว่าความสำเร็จในเรื่องของเหรียญแชมป์อาจจะไม่มากเท่าบาเรซี่ หรือ มัลดินี่ แต่ แบร์โกมี่ ก็ถือว่าเป็นเซนเตอร์ฮาล์ฟชั้นแนวหน้าของโลกคนหนึ่งและนอกจากจะคว้าแชมป์ลี กสูงสุด 1 สมัยและยูฟ่า คัพ อีก 3 สมัยแล้ว แบร์โกมี่ ยังเป็นหนึ่งในสมาชิกของทีมชาติอิตาลีชุดคว้าแชมป์โลกปี 1982 ด้วย

เลฟ ยาชิน
เลฟ ยาชิน
(ดินาโม มอสโก, 1949-1971)
"เจ้าแมงมุมดำ" เป็นสมญานามของผู้รักษาประตูที่ว่ากันว่าดีที่สุดตลอดกาล ความสำเร็จของเลฟ ยาชิน คือการช่วยให้ดินาโม มอสโก คว้าแชมป์ลีกสูงสุดของอดีตสหภาพโซเวียตถึง 5 สมัย
แม้ว่าลีกหมีขาวจะไม่เป็นที่นิยมในต่างแดน แต่แฟนบอลก็ได้รู้จักและเห็นฝีมือของนายทวารจอมหนึบรายนี้จากการที่เขาได้ลง เฝ้าเสาให้อดีตสหภาพโซเวียตในศึกฟุตบอลโลกถึง 3 สมัย (1958, 1962, 1966) และถึงจะไม่ได้ช่วยให้ทีมชาติคว้าแชมป์มาครอง และผลงานการโชว์ฟอร์มซูเปอร์เซฟของเขาก็ทำให้กลายเป็นตำนานมาจนถึงทุกวันนี้

พอล สโคลส์
พอล สโคลส์
(แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, 1994 - 2011)
ในยุครุ่งๆ นักเตะหัวแดงรายนี้ถือว่าเป็นหนึ่งในมิดฟิลด์ที่มีพรสวรรค์ที่ดีที่สุดคน หนึ่งของอังกฤษเลยทีเดียว และไม่น่าแปลกใจที่สาวก "ปีศาจแดง" จะรู้สึกเสียดายที่เห็น สโคลส์ ตัดสินใจแขวนสตั๊ดหลังจบฤดูกาล 2010-11
จุดเด่นของสโคลส์ ที่นอกเหนือไปจากความขยันแล้ว ก็คงจะเป็นการอ่านเกมและจ่ายบอลที่ยอดเยี่ยม และนั่นก็ช่วยให้ยูไนเต็ดกลายเป็นทีมที่ดีที่สุดของอังกฤษในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา โดยเขาคว้าแชมป์ลีกกับทีมไป 10 สมัย, แชมเปี้ยนส์ ลีก 3 สมัย, เอฟเอ คัพ 3 สมัย, ลีก คัพ 2 สมัย และแชมป์สโมสรโลก 1 สมัย
อดีตกองกลางทีมสิงโตคำราม เคยได้รับความสนใจจากหลายสโมสรชั้นนำในยุโรป แต่เขาก็ยังยืนหยัดที่จะค้าแข้งในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ดต่อไป จนกระทั่งอำลาการค้าแข้งอาชีพพร้อมกับสถิติลงสนามมากกว่า 650 นัด ในทุกถ้วย และทำให้เขาเป็นผู้เล่นที่ลงสนามให้สโมสรมากที่สุดเป็นอันดับ 4

แกรี่ เนวิลล์
แกรี่ เนวิลล์
(แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, 1992 - 2011)

เช่นเดียวกับสโคลส์, เนวิลล์ ตัดสินใจแขวนสตั๊ดในปีนี้หลังจากที่ใช้เวลาตลอดการค้าแข้งอาชีพในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด มาเกือบ 20 ปี
ยูไนเต็ดได้จัดเทสติโมเนียลแมตช์ให้เขาเมื่อวันที่ 24 พ.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นการรวมพลชุดปี 1992 ที่ประกอบด้วยฟิล เนวิลล์ น้องชาย, เดวิด เบ็คแฮม, นิคกี้ บัตต์, สโคลส์ และ กิ๊กส์ ที่ลงเล่นเป็นตัวจริง แต่ทีมพ่ายให้ยูเวนตุสไป 1-2
อาจจะไม่ผิดนักที่จะกล่าวว่า เนวิลล์ผู้พี่ คือแบ็กขวาที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก การประสานงานที่รู้ใจของเขากับอดีตเพื่อนร่วมทีมอย่างเบ็คแฮม ทำให้เกมรุกฝั่งขวาของ "ปีศาจแดง" มีประสิทธิภาพเป็นอย่างมาก โดยอดีตกัปตันทีมยูไนเต็ด ลงเล่นให้สโมสรไปกว่า 600 นัดและคว้าแชมป์รายการสำคัญๆ รวมกันแล้วถึง 19 รายการ แต่น่าเสียดายที่เขาไม่เคยประสบความสำเร็จใดๆ กับทีมชาติอังกฤษ

สตีเว่น เจอร์ราร์ด
สตีเว่น เจอร์ราร์ด
(ลิเวอร์พูล, 1998 - ปัจจุบัน)

"สตีวี่ จี" คือนักเตะลูกหม้อของหงส์แดงมาตั้งแต่อายุ 9 ขวบ ก่อนที่จะได้ประเดิมสนามในทีมชุดใหญ่เป็นครั้งแรกในปี 1998 และพัฒนาตัวเองขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญของสโมสรดังเช่นปัจจุบัน
แม้จะไม่เคยคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก แต่ เจอร์ราร์ด คือกัปตันทีมผู้พาลิเวอร์พูลคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2005 ด้วยการเฉือนชนะจุดโทษมิลาน ในรอบชิงชนะเลิศอันแสนคลาสสิคที่อิสตันบูล อีกทั้งยังอยู่ในทีมชุดแชมป์เอฟเอ คัพ 2 สมัย, ลีก คัพ 2 สมัย, ยูฟ่า คัพ 1 สมัย, ยูฟ่า ซูเปอร์คัพ อีก 2 สมัยด้วย
มิดฟิลด์จอมยิงไกลเกือบเคยทำร้ายจิตใจเหล่าเดอะ ค็อปเมื่อมีข่าวว่าจะย้ายไปเล่นให้เชลซีหลังจากที่คว้าแชมป์ยุโรปได้หมาดๆ แต่สุดท้าย เจอร์ราร์ด ก็เลือกที่จะเล่นให้อยู่ในถิ่นแอนฟิลด์ต่อไป

โธมัส ชาฟ
โธมัส ชาฟ
(แวร์เดอร์ เบรเมน, 1978-1995)
ไม่เพียงแต่จะใช้ชีวิตตลอดการค้าแข้งกับเบรเมนเท่านั้น ชาฟ ยังเป็นกุนซือให้สโมสรที่เขารักมาตั้งแต่ปี 1999 และนั่นทำให้เขาเป็นโค้ชที่คุมสโมสรเดียวนานที่สุดในบุนเดสลีก้าด้วย
ชาฟ ซึ่งเคยเล่นในตำแหน่งกองหลังก็ถือเป็นผู้เล่นที่ดีที่สุดคนหนึ่งของเยอรมัน โดยเขาช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ลีก 2 สมัย นอกจากนั้นยังช่วยให้ "เจ้านกนางนวล" ได้ถาดแชมป์บุนเดสลีก้ามาครองในปี 2004 ในฐานะโค้ชด้วย และนั่นก็ไม่น่าแปลกใจว่าทำไมเขาจึงเป็นตำนานของสโมสรอย่างแท้จริง




ข้อมูลจาก : MSN ฟุตบอล วันที่ : 6/5/2011 3:23:25 PM

ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ

คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ

ข่าวฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ

อย่าลืมกด Like ให้ด้วยนะครับ

Blog Archive

7m, ผลบอลพรีเมียร์, วิเคราะห์บอลพรีเมียร์, ข่าวฟุตบอลพรีเมียร์, ตารางคะแนนบอลพรีเมียร์, โปรแกรมฟุตบอลพรีเมียร์, โปรแกรมถ่ายทอดสดบอลพรีเมียร์, ตารางบอล, คลิปฟุตบอล, คลิปไฮไลท์, คลิปไฮไลท์บอลพรีเมียร์, สยามกีฬา, บ้านผลบอล, เซียนสเต็ป, ล้มโต๊ะ, Goal, ดูบอลพรีเมียร์ออนไลน์, ผลบอลสด, ฟุตบอล, ผลบอลวันนี้, บอลวันนี้, ผลบอลเมื่อคืน, ผลฟุตบอล, ฟุตบอลวันนี้, โปรแกรมฟุตบอล, บอล, ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก, ตารางบอล, ข่าวฟุตบอล, คลิบฟุตบอล, เกมส์ุฟุตบอล, ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีก, ผลฟุตบอลสด, football, soccer

ข่าวสโมสรพรีเมียร์ลีกอังกฤษทั้งหมด

Man Utd (151) Liverpool (148) Chelsea (62) Tottenham (61) Arsenal (60) Man City (51) Aston Villa (45) Newcastle (45) Stoke (42) Fulham (40) Sunderland (35) Everton (33) West Brom (31) Wigan (29) Swansea (25) Bolton (24) Blackburn (23) Norwich (22) QPR (22) West Ham (18) Birmingham (10) Blackpool (10) Reading (10) Southampton (10) Cardiff City (3) Crystal Palace (2) Hull City (2)