สิงห์บลูส์เปิดศึกไก่ทุ่ม 25 ล้านล่าเอโต้

ซามูแอล เอโต้
ทีม “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี เปิดศึกกับทีมร่วมเมืองลอนดอน “ไก่เดือยทอง” สเปอร์ส เพื่อชิงตัว ซามูแอล เอโต้ กองหน้าทีม “งูใหญ่” อินเตอร์ มิลาน


เชลซี กำลังอยู่ในระหว่างการเปลี่ยนผ่านหลังการปลดคาร์โล อันเชล็อตติ ผู้จัดการทีมพ้นจากตำแหน่ง ซึ่งนอกจากตำแหน่งกุนซือแล้วก็มีข่าวกับนักเตะมากมาย โดยล่าสุดกลับมาเป็นข่าวกับกองหน้าทีมชาติแคเมอรูน อีกครั้ง
โดยมีข่าวว่า เอโต้ จะถูกซื้อตัวเข้ามาแทนที่ของดิดิเย่ร์ ดร็อกบา และ นิโกล่าส์ อเนลก้า ที่จะโดนปล่อยตัวออกไปแทน หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้ตัว เฟร์นานโด ตอร์เรส มาร่วมทีมแล้วด้วยค่าตัว 50 ล้านปอนด์
แต่เอโต้ ที่คาดว่าจะมีค่าตัว 25 ล้านปอนด์ ก็เป็นเป้าหมายของสเปอร์ส ที่อยากได้กองหน้าฝีเท้าคมไว้เล่นงานคู่แข่งเช่นกันหลังผิดหวังกับกองหน้าใน ทีมทั้งปีเตอร์ เคราช์, โรมัน พาฟลิวเชนโก้ และเจอร์เมน เดโฟ
Read More

หงส์ขาวทะยานขึ้นพรีเมียร์หลังกดเร้ดดิ้ง 4-2

“หงส์ขาว” สวอนซี ซิตี้
ทีม “หงส์ขาว” สวอนซี ซิตี้ กลายเป็นทีมล่าสุดที่ได้เลื่อนชั้นขึ้นสู่พรีเมียร์ลีก หลังล้ม เร้ดดิ้ง ได้สำเร็จ 4-2 ในเกมนัดชิงเพลย์ออฟ ที่สนามเวมบลีย์


สวอนซี ได้ตั๋วขึ้นชั้นสู่พรีเมียร์ลีก จากชัยชนะในเกมที่สุดตื่นเต้นเหนือ เร้ดดิ้ง โดยในเกมนี้ทีมหงส์ขาวซึ่งเป็นสโมสรจากประเทศเวลส์ ที่เล่นในลีกอังกฤษ เริ่มต้นครึ่งแรกได้อย่างสวยงามทำประตูนำห่างถึง 3-0 เมื่อจบครึ่งแรก
โดยประตูขึ้นนำได้จาก สกอตต์ ซินแคลร์ อดีตเด็กปั้นของ เชลซี ที่ิยิงจุดโทษเข้าไปในนาทีที่ 21 ก่อนจะบวกสกอร์ต่อเนื่องอีกลูกในนาทีถัดมาให้ทีมหนีห่างเป็น 2-0 และได้สตีเฟ่น ด็อบบี้ ยิงประตูทิ้งห่าง 3-0 ในนาทีที่ 40
แต่เร้ดดิ้ง ก็ฮึดไล่ตีตื้นกลับมาได้เป็น 3-2 ในเวลาแค่ 12 นาทีของครึ่งหลัง โดยได้ประตูตีไข่แตกจากการทำเข้าประตูตัวเองของ โจ อัลเลน ในนาทีที่ 49 ก่อนที่ แมตต์ มิลลส์ จะโขกเข้าไปในนาทีที่ 57 และยังเกือบจะตีเสมอได้ด้วยจากจังหวะที่ เจม คารากัน ยิงไปชนเสากระเด้งออกมา ฮันท์ จะซ้ำก็ติดบล็อกอย่างเหลือเชื่อสุดๆ
จากนั้น สวอนซี ค่อยๆกลับมาสู่เกมและมาได้ประตูย้ำชัยอีกครั้งเมื่อได้จุดโทษนาทีที่ 81 จากจังหวะที่ กริฟฟิน ไปรวบ บอรินี่ ล้มในเขตโทษ และเป็น ซินแคลร์ ที่ยิงจุดโทษเข้าไปเป็นแฮตทริกของตัวเองและเป็นประตูนำสวอนซี ขึ้นชั้นสู่พรีเมียร์ลีก โดยเป็นสโมสรจากเวลส์ทีมแรกที่ได้ขึ้นชั้นมาเล่นในพรีเมียร์ลีก และทีมได้กลับสู่ลีกสูงสุดอีกครั้งหลังเคยเล่นในดิวิชั่น 1 เมื่อปี 1983
Read More

เบิร์บยังอยู่! โผล่ร่วมแห่แชมป์ผีหลังกระแสลือเตรียมเผ่น

ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ
ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ กองหน้าทีม “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โผล่ร่วมพิธีแห่ถ้วยแชมป์พรีเมียร์ลีกสมัยที่ 19 หลังจากที่มีกระแสข่าวแตกหักและต้องการย้ายทีม


เบอร์บาตอฟ ตกเป็นข่าวฮือฮาหลังเกมนัดชิงแชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อวันเสาร์ เมื่อมีข่าวว่าได้แตกหักกับเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ที่ไม่ยอมเลือกกองหน้าเจ้าของรางวัลดาวซัลโวพรีเมียร์ลีกมีชื่อในทีมนัดชิง กับบาร์เซโลน่า โดยไม่ปรากฏตัวในสนามเวมบลีย์ ทำให้กระแสข่าวสะพัดว่าจะย้ายทีมแน่นอน เพราะเหลือสัญญาแค่ 1 ปีเท่านั้น แต่ในงานแห่ฉลองแชมป์พรีเมีย์ลีก เบอร์บาตอฟ ได้กลับมาปรากฏตัวอีกครั้งและได้ร่วมฉลองความสำเร็จไปกับทีมด้วย ซึ่งเพื่อนอย่าง นานี่ ก็ได้วิงวอนให้กองหน้าบัลแกเรียน อยู่กับทีมต่อไป
“ผมไม่รู้ว่าใจเขาคิดยังไง แต่ทุกคนรู้ว่าเขาเป็นยอดนักเตะ”
“เขายิงให้เราได้เยอะมาก ได้เป็นดาวซัลโวของลีก และผมก็อยากจะให้เขาเล่นกับเราต่อไปในปีหน้า”
Read More

แรมซี่ย์เชื่อปืนช็อปกระจายซัมเมอร์นี้

อารอน แรมซี่ย์
อารอน แรมซี่ย์ กองกลางตัวเดินเกมทีม “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล มั่นใจว่าทีมจะเดินหน้าคว้าตัวผู้เล่นเข้ามาเสริมทีมอีกมากมายอย่างแน่นอนใน ช่วงปิดฤดูกาลนี้


อาร์เซนอล ต้องประสบกับความผิดหวังอีกครั้งในการวืดแชมป์ทุกรายการโดยเฉพาะพรีเมียร์ลี ก ที่สะดุดขาตัวเองพลาดจากการลุ้นแชมป์หล่นไปไกลถึงอันดับที่ 4 แต่ทางด้าน แรมซี่ย์ ก็มั่นใจว่าปิดฤดูกาลนี้ทีมจะกลบจุดบอดได้อย่างแน่นอน
“ผมคิดว่าเวนเกอร์ จะกระตือรือร้นมากในช่วงซัมเมอร์นี้”
“มีชื่อนักเตะบางคนแล้ว และผมก็มั่นใจว่าคงจะมีนักเตะเข้าและออกแน่นอน”
Read More

มาลูด้าเปิดประตูพร้อมต้อนรับฮิดดิงค์คุมสิงห์

ฟลอร็องต์ มาลูด้า
ฟลอร็องต์ มาลูด้า ปีกจอมถล่มประตูของทีม “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี มั่นใจว่าหากทีมได้ กุส ฮิดดิงค์ เข้ามาคุมทีมจริงก็จะเป็นเรื่องที่ดีอย่างมากและจะประสบความสำเร็จแน่


มาลูด้า เคยร่วมงานกับกุนซือชาวดัตช์ที่ปัจจุบันมีแววอาจลาออกจากทีมชาติตุรกีเพื่อ มารับงานในทีมเชลซี ในช่วงที่ฮิดดิงค์ เข้ามากู้วิกฤติของทีมระยะเวลาสั้นๆ 3 เดือน และพาทีมคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ ได้ด้วย
“ผมให้ความเคารพกับเขามาก”
“ตอนที่เขามาที่นี่เราอยู่ในสถานการณ์ที่ย่ำแย่อย่างมาก”
“เขาเรียกความมั่นใจกลับมาให้เรา ผมคิดว่าเขาพัฒนาเกมของทีมและทำให้เราได้เล่นแชมเปี้ยนส์ ลีก และได้เออฟเอ คัพ”
Read More

หงส์เซ็งส่อขาดทุน 10 ล้านขายอาควิลานี่

อัลแบร์โต้ อาควิลานี่
ทีม “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ส่อแววว่าอาจจะขาดทุนยับเยินถึงกว่า 10 ล้านปอนด์ หากตัดใจยอมปล่อย อัลแบร์โต้ อาควิลานี่ กองกลางเจ้าปัญหาให้ “ม้าลาย” ยูเวนตุส


อาควิลานี่ ตกเป็นข่าวว่าต้องการจะย้ายกลับมาเล่นในกัลโช่ เซเรีย อา ถาวร โดยมี ยูเว่ ที่ยืมตัวใช้งานจนจบฤดูกาลและทำผลงานได้ดีมากต้องการได้ตัว แต่ติดปัญหาไม่สามารถสู้ค่าตัวที่ตั้งไว้ตามออพชั่นขายขาดได้
แต่ล่าสุดมีรายงานว่า ลิเวอร์พูล กำลังเซ็งกับเรื่องที่ยืดเยื้อและอาควิลานี่ ก็ไม่อยากกลับอังกฤษ ทำให้อาจต้องยอมขาดทุนกว่า 10 ล้านปอนด์ สำหรับค่าตัวของกองกลางที่ย้ายมาจากโรม่า ด้วยค่าตัว 20 ล้านปอนด์ หากจะตัดปัญหาปล่อยอาควิลานี่ไปจริง
Read More

มาร์โวซ์สยบข่าวซบหงส์ยันยังไม่เลือกทีม

ซิลแว็ง มาร์โวซ์
ซิลแว็ง มาร์โวซ์ ปีกดาวเด่นวงการฟุตบอลฝรั่งเศส สยบข่าวลือเรื่องการตกลงเซ็นสัญญาเบื้องต้นกับ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล โดยยืนยันว่ายังไม่ได้ตัดสินใจเลือกจะย้ายไปร่วมทีมใดในเวลานี้


มาร์โวซ์ ตกเป็นข่าวลือกับลิเวอร์พูล มานานในการจ้องดึงตัวปีกวัย 24 ปีที่หมดสัญญากับต้นสังกัดพอดีและทำให้ย้ายทีมได้อย่างอิสระ โดยมีข่าวว่าได้ตกลงเบื้องต้นกันแล้ว แต่มาร์โวซ์ ก็ออกมาปฏิเสธข่าว
“ผมยังไม่ได้เลือก ผมยังไม่ได้เซ็นสัญญากับใคร ิแต่สิ่งที่แน่นอนก็คือผมจะย้ายไปเล่นในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลหน้า”
Read More

เฟอร์กี้ภูมิใจผีเต็มที่แล้วคารวะบาร์ซ่าสุดยอดของโลก

เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน
เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผู้จัดการทีม “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยอมศิโรราบต่อ “เจ้าบุญทุ่ม” บาร์เซโลน่า ว่าเป็นสุดยอดทีมตัวจริง และไม่เสียใจที่เป็นผู้แพ้ในเกมนี้


เฟอร์กี้ ออกมากล่าวหลังจบเกมนัดชิงที่เวมบลีย์ ซึ่งทีมแพ้ขาดลอยทั้งสกอร์และรูปเกม โดยยืนยันว่าไม่รู้สึกเสียใจที่แพ้ในเกมนี้เพราะทีมได้พยายามเต็มที่แล้ว แต่ไม่สามารถจะสู้กับบาร์ซ่า ที่เหนือกว่าได้จริงๆ
“เราแพ้หมดรูป เราไม่มีทางแก้ไขสถานการณ์อะไรได้ในการเจอกับทีมที่สุดยอดจริงๆ”
“ผมคิดว่าเราจะทำได้ดีกว่านี้ แต่ที่สุดแล้วเราก็แพ้ต่อทีมที่เก่งที่สุด”
“พวกเขาเป็นทีมที่ดีที่สุดที่เราเคยเจอมา พวกเขากำลังอยู่ในช่วงที่พีคที่สุด”
Read More

ริโอชี้ผีดีขึ้นแต่บาร์ซ่าเก่งเกินไป

ริโอ เฟอร์ดินานด์
ริโอ เฟอร์ดินานด์ กองหลังทีม “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยืนยันว่าทีมได้ทำผลงานดีขึ้นแล้วในการเผชิญหน้ากับ “เจ้าบุญทุ่ม” บาร์เซโลน่า อีกครั้ง แต่ว่าทีมจากสเปน ก็ยังแกร่งเกินเอาชนะได้


แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องยอมรับสภาพเป็นทีมที่ปราชัยต่อ บาร์ซ่า อีกครั้งในเกมนัดชิงที่เวมบลีย์ ที่แพ้ 3-1 ซ้ำรอยสกอร์ 2-0 เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ซึ่งทางเฟอร์ดินานด์ คิดว่าทีมเล่นได้ดีขึ้นแล้วแต่ว่าก็ยังไม่ดีพอ
“มันยากที่จะบอกว่าจะต่างจากเกมที่โรมหรือเปล่า”
“ผมคิดว่าเราทำได้ดีขึ้นในครั้งนี้ ถึงแม้ว่าสกอร์จะขาดถึง 3-1”
“เรายังพอมีโอกาสดีๆอยู่บ้าง และกลับมาสู่เกมได้ตอนสกอร์ 1-1 และผมก็คิดว่าพวกเราอาจจะชนะได้ด้วยซ้ำ”
“แต่มันก็ไม่เป็นแบบนั้น ซึ่งต้องให้เครดิตกับพวกเขา พวกเขาคือทีมที่ดีกว่าจริงๆ ในคืนนี้”
Read More

วิดิชรับสภาพผีสู้บาร์ซ่าไม่ได้

เนมันย่า วิดิช
เนมันย่า วิดิช ปราการหลังทีม “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยอมรับว่าไม่สามารถที่จะต่อกรกับ “เจ้าบุญทุ่ม” บาร์เซโลน่า ได้เลยในการดวลกันนัดชิงชนะเลิศยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก


แมนฯ ยูไนเต็ด ตกเป็นฝ่ายปราชัยอีกครั้งในเกมนัดชิงที่สนามเวมบลีย์ โดยบาร์ซ่า เอาชนะได้เด็ดขาด 3-1 ในรูปเกมที่เหนือกว่าตลอดทั้งหมด ซึ่ง วิดิช ยอมรับว่าทีมไม่สามารถที่จะสู้กับโคตรทีมจากสเปนได้จริง
“พวกเขาเล่นกันได้ดีมาก”
“พวกเขามีโอกาสมากกว่าเรา และเราก็ต้องยกมือยอมรับว่าพวกเขาดีกว่าเราจริงๆ”
Read More

คลิปไฮไลท์ฟุตบอลยูฟ่าแชมป์เปี้ยนส์ลีก 28 พ.ค. 54 | บาร์เซโลน่า 3 - 1 แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด

คลิปไฮไลท์ฟุตบอลยูฟ่าแชมป์เปี้ยนส์ลีก 28 พ.ค. 54 | บาร์เซโลน่า 3 - 1 แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด


1-0 Pedro 27'


1-1 Rooney 34'


2-1 Messi 54'


3-1 Villa 69'


คลิปไฮไลท์ฟุตบอลยูฟ่าแชมป์เปี้ยนส์ลีก 28 พ.ค. 54 | บาร์เซโลน่า 3 - 1 แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
1-0 Pedro 27'
1-1 Rooney 34'
2-1 Messi 54'
3-1 Villa 69'
Read More

มันมาจากต่างดาว !

ขอแสดงความยินดีบาร์เซโลน่า ที่เอาชนะคู่ปรับเก่าอย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พร้อมกับคว้าถ้วยแชมเปี้ยนส์ ลีก ไปครองเป็นสมัยที่ 2 ในรอบ 3 ปี ด้วยฟอร์มการเล่นขั้นเทพจนสื่อเมืองฝรั่งยกย่องว่า "They're from another planet !"



ใครที่ได้ชมเกมรอบชิงชนะเลิศ ที่เวมบลีย์เมื่อดึกคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา ก็คงต้องยอมรับว่าทีมของเป๊ป กวาร์ดิโอล่า เหนือชั้นกว่า "ปีศาจแดง" อย่างชัดเจน
เป็นอีกครั้งที่ลีโอเนล เมสซี่ ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าเขาคือนักเตะที่ดีที่สุดของโลกในยุคนี้อย่างแท้จริง เพราะนอกจากจะช่วยทำประตูที่ 2 ให้บาร์ซ่าในช่วงต้นครึ่งหลังแล้ว เขายังสร้างความปั่นป่วนให้แนวรับของยูไนเต็ดอยู่ตลอดทั้งเกมจนคว้าตำแหน่ง แมน ออฟ เดอะ แมตช์ ไปครองอย่างไร้ข้อโต้แย้ง
เมสซี่ เป็นดาวซัลโวของแชมเปี้ยนส์ ลีกในฤดูกาลนี้ หลังจากที่ทำไป 12 ประตู (53 ประตูในทุกถ้วย) และหลังจากทำประตูของตัวเองในนาทีที่ 53 แล้ว กองหน้าร่างเล็ก ยังเป็นคนทำแอสซิสต์ให้ ดาวิด บีย่า ทำประตูฝังแมนฯ ยูฯ 3-1 ด้วย
"นี่เป็นเกมที่ต้องจดจำ สิ่งที่ทีมได้ทำเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่มากและเราก็ยังไม่อยากจะเชื่อในสิ่ง ที่เราประสบความสำเร็จ เราต้องการคว้าแชมป์ให้ได้ต่อไปเรื่อยๆ" เมสซี่ ซึ่งคว้าแชมป์ถ้วยใบใหญ่ของยุโรปเป็นสมัยที่ 3 กับบาร์ซ่า กล่าว
แม้จะออกสตาร์ทได้อย่างดุดันแต่หลังผ่าน 10-15 นาทีแรกไป ก็เริ่มชัดเจนว่าแผงมิดฟิลด์ของยูไนเต็ด สู้ทางฝั่งของทีมแชมป์จากสเปนไม่ได้จริงๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ไรอัน กิ๊กส์ ที่แทบจะหายไปจากเกมเพราะไม่ถนัดกับบทบาทตรงกลางสนามที่ได้รับ ขณะที่ ไมเคิ่ล คาร์ริค ก็ไม่ได้ช่วยสร้างความแตกต่างใดๆ ให้เกิดขึ้น
แฟนบอลปีศาจแดงหลายคนคงจะรู้สึกเสียดายที่ไม่ได้เห็น ดิมิตาร์ เบอร์บาตอฟ หรือ ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ ลงสนาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรายของหัวหอกทีมชาติบัลแกเรีย ที่ไม่มีชื่อแม้แต่เป็นตัวสำรอง ทั้งที่เขาเป็นดาวซัลโวพรีเมียร์ลีกในฤดูกาลนี้ ขณะที่ ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ "ชิชาริโต้" กองหน้าฟอร์มฮอตที่เป็นความหวังในการทำสกอร์ ก็ดูจะออกอาการตื่นกับบิ๊กแมตช์ครั้งนี้และไม่สามารถจะเรียกฟอร์มเก่งออกมา ช่วยทีมได้
นอกเหนือจากประตูตีเสมอของ เวย์น รูนี่ย์ แล้ว ไม่น่าเชื่อว่าทีมของเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ไม่สามารถหาโอกาสยิงเข้ากรอบได้เลย สถิติในเกมระบุว่า คาร์ริค จ่ายบอลให้เพื่อนร่วมทีมสำเร็จแค่ 19 ครั้ง (คิดเป็น 78 เปอร์เซ็นต์) ในขณะที่ ชาบี ทำได้ถึง 74 ครั้ง (คิดเป็น 95 เปอร์เซ็นต์ !)
การประสานงานในแดนกลางของบาร์ซ่าที่มี ชาบี, อันเดรส อิเนียสต้า และ เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ นั้นทำได้อย่างไหลลื่น ซึ่งก็เป็นเรื่องธรรมดาของคนที่เล่นด้วยกันมาอย่างต่อเนื่องทั้งในระดับ สโมสรและกับทีมชาติสเปน
เฉพาะเมสซี่-ชาบี-อิเนียสต้า ต่อบอลกันถึง 305 ครั้ง ซึ่งมากกว่า 4 เท่าของจำนวนการต่อบอลของยูไนเต็ดทั้งทีม และนั่นก็ทำให้บาร์ซ่า มีโอกาสลุ้นประตูถึง 19 ครั้งในเกมนี้และตรงกรอบไป 12 ครั้ง ขณะที่ ทีมแชมป์พรีเมียร์ลีก ได้ลุ้นแค่ 5 ครั้งและตรงกรอบหนเดียว นอกจากนั้น ยังไม่ได้เตะมุมแม้แต่ครั้งเดียวด้วย
เฟอร์กี้ อาจจะรู้สึกผิดกับการตัดสินใจเลือกทีมลงสนามในครั้งนี้ แต่บทสัมภาษณ์หลังจบเกมของเขาเป็นสิ่งที่ไม่มีใครคิดเถียง
"พวกเขาเป็นทีมที่ดีที่สุดของยุโรป ตั้งแต่ที่ผมทำงานเป็นผู้จัดการทีมมา ผมพูดได้เลยว่าพวกเขาเป็นทีมที่ดีที่สุดที่เราเคยเผชิญหน้าด้วย ไม่เคยมีใครที่ทำให้ทีมเราต้องหงอแบบนั้น มันเป็นช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่สำหรับพวกเขา พวกเขาสมควรที่จะคว้าแชมป์เพราะว่าเล่นได้อย่างถูกทางและสนุกกับเกมของตัว เอง" กุนซือจอมเก๋าชาวสกอตต์ กล่าวซูฮกบาร์ซ่าหลังจากที่ถูกย้ำแค้นเป็นครั้งที่ 2 ในรอบชิงแชมเปี้ยนส์ ลีก
แม้จะมีซูเปอร์สตาร์อย่าง เมสซี่ และ ชาบี เป็นตัวชูโรง แต่ความสำเร็จของบาร์ซ่าในยุคของ กวาร์ดิโอล่า มาจากระบบทีมที่แน่นปึ้กเป็นพื้นฐาน นักเตะในทีมมีความกลมเกลียวประหนึ่งเป็นครอบครัวเดียวกัน
นอกจากจะเล่นได้อย่างเหนือชั้นในสนามแล้ว บาร์ซ่า ยังสร้างความประทับใจให้กับแฟนบอลด้วยการให้ เอริค อบิดัล กองหลังชาวฝรั่งเศส ได้เป็นคนชูโทรฟี่แชมป์เป็นคนแรกด้วย
ตามธรรมเนียมแล้ว กัปตันทีมจะเป็นคนแรกที่ได้ชูถ้วยแชมป์ แต่ ชาบี ที่สวมปลอกแขนกัปตันทีมในเกมนี้ และ ปูโยล กัปตันทีมตัวจริง ได้ตกลงกันแล้วว่าจะให้ อบิดัล ได้รับเกียรติครั้งนี้ เนื่องจากมองว่าการที่เขาคัมแบ็กกลับมาได้หลังผ่าตัดเนื้องอกเมื่อเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา ถือเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้กับทุกคนได้เป็นอย่างดี
ไม่น่าแปลกใจที่ อบิดัล ถึงกับหลั่งน้ำตาด้วยความซาบซึ้งกับน้ำใจของเพื่อนร่วมทีม และให้สัมภาษณ์ว่า "ตอนนี้ผมมองทุกอย่างต่างไปจากเดิม ผมได้รู้ซึ้งแล้วว่าผมโชคดีแค่ไหนที่มีชีวิตอยู่และได้เป็นส่วนหนึ่งของทีม นี้"




ข้อมูลจาก : MSN ฟุตบอล วันที่ : 5/29/2011 2:48:20 PM
Read More

ผลฟุตบอลยูฟ่าแชมป์เปี้ยนส์ลีก 28 พ.ค. 54 | บาร์เซโลน่า 3 - 1 แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด


บาร์เซโลน่า ยอดทีมจากแดนกระทิงดุ สร้างผลงานสุดอลังการเอาชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด 3-1 คว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ประจำปี 2010-11 ได้สำเร็จโดยเจ้าบุญทุ่มได้ประตูจาก เปโดร โรดริเกซ, ลิโอเนล เมสซี่ และ ดาบิด บีย่า ส่วนปีศาจแดงได้จาก เวย์น รูนี่ย์ ส่งผลให้อาซูลกราน่าครองแชมป์รายการนี้เป็นสมัยที่ 4 ในประวัติศาสตร์ของสโมสรด้วย อีกทั้ง เมสซี่ ยังครองตำแหน่งดาวซัลโวสูงสุดของรายการด้วยจำนวน 12 ประตูด้วยกัน


ฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
รอบชิงชนะเลิศ


บาร์เซโลน่า (สเปน) 3 - แมนฯ ยูไนเต็ด (อังกฤษ) 1

เริ่มเกมมาช่วงแรกยูไนเต็ดเป็นฝ่ายบุกได้เหนือกว่า ทว่า นาที 12 เกือบโดนทีเด็ดของ บาร์ซ่า จากจังหวะที่ ลีโอเนล เมสซี่ พลิกตัวจ่ายบอลทะลุไปในเขตโทษให้ ดาบิด บีย่า วิ่งสปีดตามมาซัดด้วยซ้าย แต่ ริโอ เฟอร์ดินานด์ ยังบล็อคออกหลังไว้ได้หวุดหวิด

จากนั้น อีก 4 นาทีต่อมา อาซูลกราน่าเกือบได้เฮก่อนเมื่อ บีย่า ไหลบอลออกขวาไปให้ ชาบี เอร์นานเดซ วิ่งมาเปิดจังหวะเดียวเข้ากลางและเป็น เปโดร โรดริเกซ ที่โฉบตัดหน้า เฟอร์ดินานด์ มาแปด้วยขวาแบบไม่จับ แต่บอลหลุดเสาแรกออกไปอย่างน่าเสียดาย

นาที 20 บาร์ซ่าน่าขึ้นนำอีกครั้งเมื่อ ชาบี จ่ายบอลมาให้ บีย่า โยกหลอก เนมานย่า วิดิช ก่อนตะบันด้วยขวาที่หน้าเขตโทษ แต่ลูกพุ่งเฉี่ยวเสาออกไปนิดเดียว

ปิเก เบียดแย่งบอลกับ ปาร์ค
ถัดมานาทีเดียว ชาบี ของเจ้าบุญทุ่มไหลบอลเข้าเขตโทษฝั่งขวาให้ บีย่า จับบอลหนึ่งจังหวะก่อนกดด้วยขวา แต่บอลเบาเกินไป เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ ล้มตัวตะปปไว้ได้ติดมือ

หลังจากบุกอยู่นาน นาที 27 บาเซโลน่า ก็มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จนได้เมื่อ ชาบี พาบอลขึ้นมาก่อนดีดออกขวาทะลุช่องไปให้ เปโดร โรดริเกซ ที่ไม่มีใครประกบจับบอลหนึ่งจังหวะก่อนแปเสียบเสาแรกไปไม่เหลือ

ทว่าปีศาจแดงก็มาตามตีเสมอจนได้จากลูกทุ่มของบาร์ซ่าเอง คาร์ริค ตัดบอลได้ก่อนจ่ายให้ รูนี่ย์ ลากขึ้นมาแล้วดีดเข้าเขตโทษไปโดนตัว กิ๊กส์ ก่อนที่ปีกพ่อมดจะไหลถวายพานย้อนกลับมาให้ รูนี่ย์ วิ่งมายิงด้วยขวาผ่านมือ บัลเดส เสียบตาข่ายสวยงามส่งสกอร์กลับมาเท่ากันที่ 1-1 ในนาทีที่ 34

ก่อนหมดครึ่งแรก 3 นาที บาร์ซ่าน่าขยับขึ้นนำอีกครั้งจากจังหวะที่ เมสซี่ เลี้ยงบอลจี้เข้าหากรอบเขตโทษก่อนไหลออกขวาไปให้ บีย่า หลุดไปกึ่งยิงกึ่งผ่านเข้ากลาง แต่ เมสซี่ ดันพุ่งชาร์จไม่โดน ลูกผ่านหน้าปากประตูออกไป จบ 45 นาทีแรกยังเสมอกัน 1-1

เข้าสู่ครึ่งหลัง บาร์ซ่า กลับมาเดินเกมรุกต่อเนื่องและนาที 53 เกือบนำจากจังหวะชุลมุนบอลกระดอนมาหน้าเขตโทษเข้าทาง ดาเนียล อัลเวส ตะบันสวนด้วยซ้ายไปโดน ฟาน เดอร์ ซาร์ ล้มตัวเซฟเอาไว้ได้ ทว่าลูกก็ยังไม่พ้นอันตรายมาเข้าทาง เมสซี่ ยิงสวนด้วยซ้ายไปติดหัว เอวร่า โขกสกัดออกไปได้อีก

แต่อีก 3 นาทีต่อมา ทัพอาซูลกราน่าก็มาขยับนำอีกครั้งเป็น 2-1 จากจังหวะที่ ลีโอเนล เมสซี่ ได้บอลอยู่หน้าเขตโทษ ก่อนโชว์ความสามารถเฉพาะตัวแต่งบอลเข้าซ้ายข้างถนัดและตะบันทันที โดยที่แนวรับ ยูไนเต็ด ทั้ง วิดิช และ เอวร่า ไม่ยอมเข้ามาประกบ ลูกพุ่งผ่านมือ ฟาน เดอร์ ซาร์ เสียบมุมประตูไม่เหลือ

จากนั้น รูปเกมก็ยังเป็นบาร์ซ่าที่บุกกดดันต่อ นาที 65 อัลเวส พาบอลทะลุไปในเขตโทษฝั่งขวาแล้วไหลเข้ากลางให้ เมสซี่ ไขว้ยิง บอลกลิ้งไปติด ฟาบิโอ เตะสกัดเคลียร์ออกมาจากเส้นปากประตู

นาทีถัดมา ชาบี ได้ตั้งป้อมตะบันด้วยขวาหน้าเขตโทษ บอลติดไซด์ก้อยกำลังจะเลี้ยวเข้ากรอบ แต่ ฟาน เดอร์ ซาร์ ก็ยังยอดเยี่ยมบินปัดออกหลังไปได้ทัน

เจ้าบุญทุ่มมาพังประตูที่สามจนได้จากจังหวะที่ นานี่ ตัวสำรองที่เพิ่งลงสนามมาจับบอลพลาดในเขตโทษตัวเองก่อนโดน บุสเก็ตส์ ฉกไปแล้วไหลย้อนกลับหลังมาให้ บีย่า วิ่งเข้าซัดจังหวะเดียว ลูกโค้งเสียบสามเหลี่ยมบนอย่างสวยงาม สุดปัญญาที่ ฟาน เดอร์ ซาร์ จะป้องกันไว้ได้ในนาทีที่ 69

ช่วงเวลาที่เหลือ ทั้งสองทีมอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบเกม บาร์เซโลน่า ชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด 3-1 ส่งผลให้อาซูลกราน่าคว้าถ้วยใบนี้ไปครองเป็นครั้งที่ 3 ในรอบ 6 ปีหลัง และยังเป็นการครองแชมป์สมัยที่ 4 ในประวัติศาสตร์สโมสร

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
บาร์เซโลน่า : บิคตอร์ บัลเดส, ดาเนียล อัลเวส (การ์เลส ปูโยล น.88), ฮาเวียร์ มาสเคราโน่, เคราร์ด ปิเก้, เอริค อบิดัล, ชาบี เอร์นานเดซ, เซร์คิโอ บุสเก็ตส์, อันเดรส อิเนียสต้า, ดาบิด บีย่า (เซย์ดู เกอิต้า น.86), เปโดร โรดริเกซ (อิบราฮิม อเฟลลาย น.90), ลีโอเนล เมสซี่

แมนฯ ยูไนเต็ด : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์, ฟาบิโอ ดา ซิลวา (หลุยส์ นานี่ น.69), ริโอ เฟอร์ดินานด์, เนมานย่า วิดิช, ปาทริช เอวร่า, อันโตนิโอ วาเลนเซีย, ไมเคิ่ล คาร์ริค (พอล สโคลส์ น.77), ไรอัน กิ๊กส์, พาร์ค ชี-ซอง, เวย์น รูนี่ย์, ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ




ข้อมูลจาก : MSN ฟุตบอล วันที่ : 5/29/2011 4:25:37 AM
Read More

"เฟอร์กี้" เชื่อความเจนจัดนำชัยผี

เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน
เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ยอดผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เชื่อว่าด้วยประสบการณ์ที่มากขึ้นของทีมในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาจะช่วยให้ "ผีแดง" เป็นฝ่ายเอาชนะ บาร์เซโลนา ในเกมนัดชิงชนะเลิศ ศึกยูฟา แชมเปียนส์ ลีก คืนวันเสาร์ที่ 28 พ.ค.นี้ หลังเคยแพ้แบบไร้ทางสู้ 0-2 ในรอบชิงดำเมื่อปี 2009

กุนซือชาวสกอตเปิดเผยก่อนเกมนัดสำคัญที่สนามเวมบลีย์จะเริ่มขึ้น โดยมองว่าผู้เล่นประสบการณ์สูงอย่าง เนมานยา วิดิช กัปตันทีมและ ริโอ เฟอร์ดินานด์ สองคู่เซนเตอร์ จะเป็นส่วนสำคัญในการต่อกรกับ บาร์เซโลนา รวมถึง เวย์น รูนีย์ กองหน้าตัวความหวังที่เติบโตขึ้นกว่า 2 ปีที่แล้ว

"ถ้าเราเล่นดีก็มีโอกาสและผมคิดว่าเรามีผู้เล่นหลายคนที่ชอบการแข่งขันนี้ เราเติบโตมากขึ้น ในส่วนของ รูนีย์ เขากลายมาเป็นผู้เล่นระดับยุโรป ซึ่งเติบโตขึ้นจากที่เขาเคยเป็นเมื่อปี 2009 คนอื่นก็เช่นกัน วิดิช และ เฟอร์ดินานด์ ซึ่งมากประสบการณ์มีความสำคัญต่อเรา บาร์เซโลนามีคุณภาพมาก แต่ผมคิดว่าคุณภาพของเราจะแสดงให้เห็นเช่นกัน ซึ่งสิ่งนี้จะทำให้มันเป็นเกมที่ดี" เฟอร์กูสัน กล่าว

ยอดกุนซือวัย 69 ปียืนยันว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ได้เรียนรู้ความผิดพลาดจาก 2 ปีที่แล้วและพร้อมสู้กับแชมป์ลีกแดนกระทิง โดยกล่าวว่า "เราเน้นมากในครั้งนี้ ผมคิดว่าการเตรียมตัวดีขึ้นกว่าครั้งก่อน เราตระหนักถึงคุณภาพของคู่แข่ง รวมถึงจุดแข็งและจุดอ่อนของพวกเขา เรายังให้ความสำคัญกับสิ่งที่เราสามารถทำได้ด้วยตัวเราเอง เรามี 2-3 สิ่งที่จะแสดงให้เห็นเพราะเรามีผู้เล่นที่สามารถทำสิ่งนั้นได้"

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 28 พฤษภาคม 2554 01:35 น.
Read More

เผยแผนสอง 3-4-3! เฟอร์กี้สั่งผีลุยถ้าโดนยิงนำ

เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน
สื่อในอังกฤษ เผยแผนลับทีม “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ว่าเตรียมจะใช้ระบบการเล่นใหม่ในกรณีที่โดนทีม “เจ้าบุญทุ่ม” บาร์เซโลน่า ยิงนำก่อนในนัดชิงแชมเปี้ยนส์ลีก คืนพรุ่งนี้



 “เดลี่ เทเลกราฟ” เผยถึงแผนที่เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ได้เตรียมพร้อมสำหรับการสู้ศึกกับบาร์ซ่า อดีตคู่ชิงในปี 2009 ที่เคยแพ้ราบคาบในเกมนัดชิงที่โรม โดยในระบบพื้นฐานจะเล่น 4-4-2 เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ซาร์ เฝ้าเสา ไลน์แบ็กโฟร์ประกอบด้วย ฟาบิโอ,เนมันย่า วิดิช, ริโอ เฟอร์ดินานด์, ปาทริซ เอวร่า ส่วนแดนกลางมี อันโตนิโอ วาเลนเซีย, ไมเคิล คาร์ริค, ไรอัน กิ๊กส์ และ พาร์ค ชี ซอง โดยมี เวย์น รูนี่ย์ และ ฮาเวียร์ “ชิชาริโต้” เอร์นานเดซ ยืนคู่กันในแดนหน้า
 แต่ในการซ้อมเพื่อเตรียมความพร้อมทางด้าน เฟอร์กี้ ได้ให้ นานี่ สวมบทเป็น ลิโอเนล เมสซี่ และไมเคิล โอเว่น รับบทเป็น ดาวิด บีญ่า โดยที่ได้เตรียมซ้อมแผนสองเอาไว้กรณีที่โดนยิงนำไปก่อนระหว่างเกม
 โดยถ้าโดนยิงไปก่อนเหมือนนัดชิงปี 2009 แมนฯ ยูไนเต็ด จะใช้ระบบ 3-4-3 โดยถอดพาร์ค ออกและให้คริส สมอลลิง มายืนในระบบกองหลัง 3 คน จากนั้นดันฟาบิโอ กับเอวร่า ยืนปีกและขยับ วาเลนเซีย ไปประสานงานแนวรุกร่วมกับ รูนี่ย์ และชิชาริโต้




ข้อมูลจาก : MSN ฟุตบอล วันที่ : 5/27/2011 9:57:32 PM
Read More

วาเลนเซียมาแรงยึดตัวจริงลุยบาร์ซ่า

อันโต นิโอ วาเลนเซีย
อันโต นิโอ วาเลนเซีย ปีกจรวดทีม “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เตรียมพร้อมสำหรับเกมนัดชิงแชมเปี้ยนส์ ลีก กับ “เจ้าบุญทุ่ม” บาร์เซโลน่า และกล่าวขอบคุณนายใหญ่เซอร์อเล็กซ์เฟอร์กูสัน ที่พยายามสนับสนุนมาโดยตลอด



 วาเลนเซีย ประสบเหตุถึงขั้นข้อเท้าหักในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เกมกับกลาสโกว์ เรนเจอร์ส จนเดิมคาดว่าอาจจะกลับมาเล่นในฤดูกาลนี้ไม่ได้หรือต้องแขวนสตั๊ด แต่ปีกจอมกระชากก็หายกลับมาฟิตสมบูรณ์และเป็นกำลังสำคัญของทีมอีกครั้ง ซึ่งมีข่าวว่าจะได้ลงเล่นในนัดชิงที่เวมบลีย์ด้วย
 “ผมกังวลเป็นเวลานานเลยทีเดียว”
 “ผมคิดถึงคนที่เคยเจ็บเหมือนกันและไม่สามารถจะเรียกฟอร์มกลับมาได้ หลายคนเล่นในระดับเดิมไม่ได้อีกเลย”
 “แต่ไม่ใช่สำหรับเจ้านาย รวมถึงผู้ช่วยไมค์ ฟีแลน ที่มาให้กำลังใจผมเช่นกัน พวกเขาไม่ได้มากำหนดเส้นตายอะไร แต่ว่าบอกให้ผมสบายๆ รักษาตัวให้พร้อมแล้วทุกอย่างจะดีเอง”
 “การที่ได้แรงสนับสนุนจากเขาเป็นเรื่องสำคัญที่สุด”




ข้อมูลจาก : MSN ฟุตบอล วันที่ : 5/27/2011 9:54:30 PM
Read More

สโคลส์ฟันธงนัดชิง ชปล.ปีนี้สุดยอด

พอล สโคลส์
พอล สโคลส์ กองกลางจอมเก๋าทีม“ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มั่นใจว่านัดชิงยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ปีนี้จะเป็นเกมที่สุดยอดแน่นอน



 สโคลส์ กำลังลุ้นจะลงสนามในเกมนัดชิงที่เวมบลีย์ ที่จะรับมือกับ “เจ้าบุญทุ่ม” บาร์เซโลน่า โดยที่กองกลางจอมเก๋าซึ่งมีข่าวว่าอาจประกาศอำลาสนามหลังจบเกมนี้ชี้ว่านัด ชิงนี้ถือว่าเป็นการเจอกันของสองทีมที่ดีที่สุดแล้ว
 “ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่คือเกมนัดชิงของสองทีมที่ดีที่สุด”
 “บาร์เซโลน่า คือสุดยอด พวกเขาคือต้นแบบของทีมที่เราอยากจะเป็นและเล่นให้ได้แบบนั้น”
 “แต่ฟุตบอลของเราก็ดีเทียบเท่าพวกเขาเหมือนกัน เราเองก็มีดีเยอะเหมือนกัน”




ข้อมูลจาก : MSN ฟุตบอล วันที่ : 5/27/2011 9:54:26 PM
Read More

ปาร์คโวเล่นเวมบลีย์เหมือนเล่นในบ้าน

ปาร์ค จี ซุง
ปาร์ค จี ซุง กองกลางเกาหลีใต้ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกโรงคุยโวว่าทีมปีศาจแดงคุ้นเคยกับการเล่นในสนามเวมบลีย์มาก ทำให้พร้อมแล้วที่จะจัดการบาร์เซโลน่า คู่แข่งนัดชิงแชมเปี้ยนส์ลีกในสังเวียนแข้งแห่งนี้



ปาร์ค กล่าวถึงเกมชปล.นัดชิงกับบาร์ซ่าวันเสาร์นี้ว่า "มันอยู่ในอังกฤษ เพราะฉะนั้นถือว่าบาร์เซโลน่าเป็นทีมเยือน ทีมเราเตะที่เวมบลีย์บ่อยจนเหมือนเป็นบ้านของเราเอง และหวังว่าเราจะยังทำสถิติเล่นในบ้านได้ดีเหมือนเดิม"
"หากผมได้ลงเล่น และเราชนะเกมนี้ได้ คงเป็นสิ่งที่สุดยอดมากสำหรับผม มันคือความฝัน ผมจะทุ่มเกินร้อยเพื่อให้ฝันเป็นจริงให้ได้"
"การพลาดลงสนามนัดชิงไปหนึ่งครั้ง และแพ้ในอีกครั้งหนึ่ง ทำให้ผมกระหายที่จะได้มีส่วนและเอาชนะในเกมนี้"




ข้อมูลจาก : MSN ฟุตบอล วันที่ : 5/27/2011 11:03:25 AM
Read More

10 สุดยอดการทำประตูฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ฤดูกาล 2010/2011


10 สุดยอดการทำประตูฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ฤดูกาล 2010/2011

1.Gareth Bale – Stoke City v Tottenham
2. Johan Elmander – Wolves v Bolton
3.Luke Varney – Blackpool v Wolves
4.Dimitar Berbatov – Man Utd. v Liverpool
5.Samir Nasri – Arsenal v Fulham
6.Mark Davies – Bolton v Blackpool
7.Cheik Tiote – Newcastle v Arsenal
8.Scott Parker – West Ham v Liverpool
9.Carlos Tevez – Manchaster City v Stoke City
10.Wayne Rooney – Man. Utd v Man. City
Read More

ชิชาริโต้รับเหลือเชื่อจะได้เล่นนัดชิงที่เวมบลีย์

ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ
ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ "ชิชาริโต้" หัวหอกแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เผยไม่อยากเชื่อว่าตนจะมีโอกาสได้ลงสนามในรอบชิงชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ ลีก กับบาร์เซโลน่า ที่สนามเวมบลีย์ วันที่ 28 พ.ค. นี้



กองหน้าวัย 22 ปี ที่เพิ่งย้ายมาเล่นให้ "ปีศาจแดง" ในช่วงซัมเมอร์ปีที่แล้ว ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมและมีส่วนสำคัญที่ช่วยให้ทีมของเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกในฤดูกาลนี้ไปครอง หลังกดไป 13 ประตูจาก 27 นัดในลีก และคาดว่าจะได้ลงเล่นเป็นตัวจริงคู่กับเวย์น รูนี่ย์ ในเกมวันเสาร์นี้ด้วย
"มันเป็นสนามที่สำคัญมาก ทุกคนในโลกต่างก็รู้จักเวมบลีย์ดี" ชิชาริโต้ กล่าวผ่านเว็ปไซต์ของยูฟ่า
"เมื่อคุณพูดถึงเวมบลีย์ คุณกำลังพูดถึงฟุตบอล พูดถึงประเทศอังกฤษ พูดถึงพรีเมียร์ลีก ประวัติศาสตร์และตำนานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับสนามแห่งนี้ มันเป็นสนามที่สำคัญมากๆ"
"และเหนือสิ่งอื่นใดก็คือนี่เป็นปีแรกของผมกับสโมสรใหม่ และผมก็จะได้ลงเล่นในรอบชิงชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ ลีก ที่สนามแห่งนี้ มันเป็นอะไรที่เหลือเชื่อจริงๆ" ดาวเตะชาวเม็กซิกัน ทิ้งท้าย




ข้อมูลจาก : MSN ฟุตบอล วันที่ : 5/26/2011 9:17:31 PM
Read More

คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 22 พ.ค. 54 | แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 4-2 แบล็กพูล

คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 22 พ.ค. 54 | แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 4-2 แบล็กพูล

คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 22 พ.ค. 54 | แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 4-2 แบล็กพูล
1-0 : ปาร์ค จี ซอง (น.21)
คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 22 พ.ค. 54 | แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 4-2 แบล็กพูล 1-1 : ชาร์ลี อดัม (น.40)
คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 22 พ.ค. 54 | แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 4-2 แบล็กพูล 1-2 : แกรี เทย์เลอร์-เฟล็ตเชอร์ (น.57) คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 22 พ.ค. 54 | แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 4-2 แบล็กพูล
2-2 : อันแดร์สัน (น.62) คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 22 พ.ค. 54 | แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 4-2 แบล็กพูล
3-2 : เอียน อีแวตต์ (ทำเข้าประตูตัวเอง น.74) คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 22 พ.ค. 54 | แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 4-2 แบล็กพูล
4-2 : ไมเคิล โอเวน (น.81)
Read More

คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 22 พ.ค. 54 | วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส 2-3 แบล็กเบิร์น โรเวอร์ส

คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 22 พ.ค. 54 | วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส 2-3 แบล็กเบิร์น โรเวอร์ส

คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 22 พ.ค. 54 | วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส 2-3 แบล็กเบิร์น โรเวอร์ส
0-1 : เจสัน โรเบิร์ตส (น.22)
0-2 : เบร็ตต์ เอเมอร์ตัน (น.38)
0-3 : เดวิด ฮอยเลตต์ (น.45)
1-3 : เจมี โอฮารา (น.73)
2-3 : สตีเฟน ฮันท์ (น.87)
Read More

คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 22 พ.ค. 54 | นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด 3-3 เวสต์บรอมวิช อัลเบียน

คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 22 พ.ค. 54 | นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด 3-3 เวสต์บรอมวิช อัลเบียน


คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 22 พ.ค. 54 | นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด 3-3 เวสต์บรอมวิช อัลเบียน
1-0 : สตีเวน เทย์เลอร์ (น.16)
2-0 : ปีเตอร์ โลเวนครานท์ส (น.39)
3-0 : โยนาส โอลส์สัน (ทำเข้าประตูตัวเอง น.47)
3-1 : โซเมน โชยี (น.62)
3-2 : โซเมน โชยี (น.71)
3-3 : โซเมน โชยี (น.90)
Read More

คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 22 พ.ค. 54 | ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ 2-1 เบอร์มิงแฮม ซิตี

คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 22 พ.ค. 54 | ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ 2-1 เบอร์มิงแฮม ซิตี


คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 22 พ.ค. 54 | ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ 2-1 เบอร์มิงแฮม ซิตี
1-0 : โรมัน พาฟลูเชนโก (น.49)


คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 22 พ.ค. 54 | ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ 2-1 เบอร์มิงแฮม ซิตี
1-1 : เคร็ก การ์ดเนอร์ (น.79)


คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 22 พ.ค. 54 | ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ 2-1 เบอร์มิงแฮม ซิตี
2-1 : โรมัน พาฟลูเชนโก (น.90)]
Read More

คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 22 พ.ค. 54 | สโต๊ก ซิตี 0-1 วีแกน แอธเลติก

คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 22 พ.ค. 54 | สโต๊ก ซิตี 0-1 วีแกน แอธเลติก


คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 22 พ.ค. 54 | สโต๊ก ซิตี 0-1 วีแกน แอธเลติก
0-1 : ฮูโก โรดาเยกา (น.78)
Read More

คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 22 พ.ค. 54 | ฟูแลม 2-2 อาร์เซนอล

คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 22 พ.ค. 54 | ฟูแลม 2-2 อาร์เซนอล


คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 22 พ.ค. 54 | ฟูแลม 2-2 อาร์เซนอล
1-0 : สตีฟ ซิดเวลล์ (น.26)
1-1 : โรบิน ฟาน เพอร์ซี (น.29)
2-1 : บ็อบบี ซาโมรา (น.57)
2-2 : ธีโอ วัลค็อตต์ (น.89)
Read More

คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 22 พ.ค. 54 | เอฟเวอร์ตัน 1-0 เชลซี

คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 22 พ.ค. 54 | เอฟเวอร์ตัน 1-0 เชลซี


คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 22 พ.ค. 54 | เอฟเวอร์ตัน 1-0 เชลซี
1-0 : เจอร์เมน เบ็กฟอร์ด (น.75)
Read More

คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 22 พ.ค. 54 | โบลตัน วันเดอเรอร์ส 0-2 แมนเชสเตอร์ ซิตี

คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 22 พ.ค. 54 | โบลตัน วันเดอเรอร์ส 0-2 แมนเชสเตอร์ ซิตี


คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 22 พ.ค. 54 | โบลตัน วันเดอเรอร์ส 0-2 แมนเชสเตอร์ ซิตี
0-1 : โจลีออน เลสค็อตต์ (น.43)
0-2 : เอดิน เซโก (น.62)
Read More

คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 22 พ.ค. 54 | แอสตัน วิลลา 1-0 ลิเวอร์พูล

คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 22 พ.ค. 54 | แอสตัน วิลลา 1-0 ลิเวอร์พูล


คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 22 พ.ค. 54 | แอสตัน วิลลา 1-0 ลิเวอร์พูล
1-0 : สจวร์ต ดาวนิง (น.33)
Read More

ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 22 พ.ค. 54 | แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 4-2 แบล็กพูล

ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 22 พ.ค. 54 | แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 4-2 แบล็กพูล
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 22 พ.ค. 54 | แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 4-2 แบล็กพูล

เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน วางทัพ “ผีแดง” แมนฯ ยูไนเต็ด ชุดเกือบใหญ่ลงปิดท้ายฉลองแชมป์ต่อหน้าแฟนๆ เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ นายทวารจอมเก๋าได้สวมปลอกแขนกัปตันทีมส่งท้าย ปาทริซ เอฟรา กับ ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ ถูกส่งมาเรียกความฟิต ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ ลุ้นทำประตูเพื่อครองตำแหน่งดาวซัลโว ด้าน เอียน ฮอลโลเวย์ หวังนำ “เดอะ ซีไซเดอร์ส” แบล็กพูล หนีตกชั้นให้ได้ ความหวังฝากไว้กับ ชาร์ลี อดัม เพลย์เมกเกอร์ และ ดีเจ แคมป์เบลล์ หัวหอกตัวความหวัง

เริ่มเกมการแข่งขันแค่ 24 วินาที แบล็กพูลพลาดโอกาสทองในการขึ้นนำเมื่อ ดีเจ แคมป์เบลล์ ตัดบอลได้จาก พอล สโคลส์ ก่อนแทงต่อให้ ชาร์ลี อดัม หลุดเข้าไปเปิดเข้ากลาง คีธ เซาเธิร์น วิ่งเข้ามาแปเหน่งๆ หลุดกรอบไปอย่างน่าเสียดาย ถัดมา แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ลุ้นบ้าง ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ เปิดแฉลบตั้งให้ ราฟาเอล ดา ซิลวา วอลเลย์ด้วยซ้ายไปตรงตัว แม็ทธิว กิลค์ส นาทีที่ 7 เจ้าบ้านเกือบได้เฮอีกครั้ง ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ หยอดให้ เบิร์บ จับบอลลงหนึ่งจังหวะก่อนจิ้มด้วยขวา กิลค์ส ยังล้มตัวรับไว้ได้ทัน

ถึงนาที 21 “ผีแดง” ก็ออกนำ 1-0 จนได้จากจังหวะ เบอร์บาตอฟ กระดกบอลให้ ปาร์ค จี ซอง สลัดการประกบของ เอียน อีแวตต์ เข้าไปส่องผ่าน กิลค์ส ตุงตาข่าย ครึ่งชั่วโมงผ่านไป เจ้าถิ่นเริ่มผ่อนเคลื่อนแต่ยังครองบอลได้เหนือกว่าและเกือบหนีห่าง เมื่อแผงหลังทีมเยือนผิดพลาดโดน เบิร์บ ฉกไปยิงในกรอบโทษคราวนี้ กิลค์ส ป้องกันไว้ได้หวุดหวิด แต่ก่อนหมดครึ่งแรก 5 นาที แบล็คพูล มาตีเสมอ 1-1 สำเร็จจากฟรีคิกของ ชาร์ลี อดัม ที่ข้ามกำแพงพุ่งกระแทกเสาเข้าไป จนปัญญาที่ เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ จะป้องกันไว้ได้

ลุยต่อครึ่งหลังแค่สามนาที “เดอะ ซีไซเดอร์ส” ได้ฟรีคิกระยะหวังผลอีกครั้ง อดัม ปั่นด้วยซ้ายข้างถนัดร้อนถึง ฟาน เดอร์ ซาร์ ต้องชกทิ้งไป จากนั้น แมนฯ ยูไนเต็ด ตั้งเกมบุกบ้าง หลุยส์ นานี เปิดลูกเตะมุมให้ เบอร์บาตอฟ โหนโขกข้ามคาน ถึงนาทีที่ 57 ผู้มาเยือนกลายเป็นทีมที่พลิกนำ 2-1 เมื่อ เดวิด วอห์น เปิดให้ แกรี เทย์เลอร์-เฟล็ตเชอร์ ตวัดยิงบอลผ่านมือ ฟาน เดอร์ ซาร์ กระเด้งเสาสองกระดอนเข้าประตู อย่างไรก็ดี 5 นาทีถัดมา “ผีแดง” ตีสมอ 2-2 จากจังหวะ ปาร์ค จ่ายให้ อันแดร์สัน ปั่นโค้งเสียบตาข่าย

จากนั้น เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ส่ง ไมเคิล โอเวน ลงมาแทน ปาร์ค และพอทวงคืนได้เร็วเจ้าบ้านเริ่มกระหน่ำ เบิร์บ ได้โหม่งจ่อๆ แต่ก็ยังไม่ผ่านมือ กิลค์ส โดนกดดันหนักๆ ผู้มาเยือนก็มาพลาด ในนาทีที่ 74 เมื่อ คริส สมอลลิง ตัวสำรองเปิดจากกราบขวาเข้ามา อีแวตต์ พลาดสกัดเข้าประตูตัวเองให้เจ้าถิ่นนำ 3-2 พอตกเป็นรองอีกครั้ง อีแวตต์ พยายามแก้ตัวขึ้นมาจิ้มบอลโดน ฟาน เดอร์ ซาร์ บล็อกเอาไว้ ในที่สุด แบล็กพูล มีอันต้องตกชั้นจนได้เมื่อ โอเวน หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปล่อเป้า กิลค์ส เข้าไปให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 4-2 ก่อนหมดเวลา 9 นาที ทำให้ “ผีแดง” ฉลองแชมป์ด้วยการเก็บไปทั้งสิ้น 80 คะแนนจาก 38 นัด ขณะที่ แบล็กพูล มีเพียง 39 แต้ม ไม่ดีพอที่จะอยู่รอด

รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
แมนฯ ยูไนเต็ด : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์, ราฟาเอล ดา ซิลวา, เนมันยา วิดิช, โจนาธาน อีแวนส์, ปาทริซ เอฟรา, ปาร์ค จี ซอง, ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์, พอล สโคลส์, อันแดร์สัน, หลุยส์ นานี, ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ

แบล็กพูล : แม็ทธิว กิลค์ส, สตีเฟน แคร์นีย์, เอียน อีแวตต์, อเล็กซ์ บัปติส, นีล เอิร์ดลีย์, เดวิด วอห์น, ชาร์ลี อดัม, คีธ เซาเทิร์น, เจสัน พันเชียน, ดีเจ แคมป์เบลล์, แกรี เทย์เลอร์-เฟล็ตเชอร์

ประตู
1-0 : ปาร์ค จี ซอง (น.21)
1-1 : ชาร์ลี อดัม (น.40)
1-2 : แกรี เทย์เลอร์-เฟล็ตเชอร์ (น.57)
2-2 : อันแดร์สัน (น.62)
3-2 : เอียน อีแวตต์ (ทำเข้าประตูตัวเอง น.74)
4-2 : ไมเคิล โอเวน (น.81)


ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 22 พ.ค. 54 | แอสตัน วิลลา 1-0 ลิเวอร์พูล
       [1-0 : สจวร์ต ดาวนิง (น.33)]
              ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 22 พ.ค. 54 | โบลตัน วันเดอเรอร์ส 0-2 แมนเชสเตอร์ ซิตี

       [0-1 : โจลีออน เลสค็อตต์ (น.43) , 0-2 : เอดิน เซโก (น.62)]

              ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 22 พ.ค. 54 | เอฟเวอร์ตัน 1-0 เชลซี

       [1-0 : เจอร์เมน เบ็กฟอร์ด (น.75)]
  
       ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 22 พ.ค. 54 | ฟูแลม 2-2 อาร์เซนอล
       [1-0 : สตีฟ ซิดเวลล์ (น.26) , 1-1 : โรบิน ฟาน เพอร์ซี (น.29) , 2-1 : บ็อบบี ซาโมรา (น.57) , 2-2 : ธีโอ วัลค็อตต์ (น.89)]
     
       ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 22 พ.ค. 54 | นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด 3-3 เวสต์บรอมวิช อัลเบียน
       [1-0 : สตีเวน เทย์เลอร์ (น.16) , 2-0 : ปีเตอร์ โลเวนครานท์ส (น.39) , 3-0 : โยนาส โอลส์สัน (ทำเข้าประตูตัวเอง น.47) , 3-1 : โซเมน โชยี (น.62) , 3-2 : โซเมน โชยี (น.71) , 3-3 : โซเมน โชยี (น.90)]
  
       ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 22 พ.ค. 54 | สโต๊ก ซิตี 0-1 วีแกน แอธเลติก
       [0-1 : ฮูโก โรดาเยกา (น.78)]
  
       ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 22 พ.ค. 54 | ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ 2-1 เบอร์มิงแฮม ซิตี
       [1-0 : โรมัน พาฟลูเชนโก (น.49) , 1-1 : เคร็ก การ์ดเนอร์ (น.79) , 2-1 : โรมัน พาฟลูเชนโก (น.90)]
  
       ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 22 พ.ค. 54 | เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 0-3 ซันเดอร์แลนด์
       [0-1 : เบาเดอไวน์ เซนเดน (น.17) , 0-2 : สเตฟาน แซสเซญอง (น.51) , 0-3 : คริสเตียน ริเวรอส (น.90)]
  
       ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 22 พ.ค. 54 | วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส 2-3 แบล็กเบิร์น โรเวอร์ส
       [0-1 : เจสัน โรเบิร์ตส (น.22) , 0-2 : เบร็ตต์ เอเมอร์ตัน (น.38) , 0-3 : เดวิด ฮอยเลตต์ (น.45) , 1-3 : เจมี โอฮารา (น.73) , 2-3 : สตีเฟน ฮันท์ (น.87)]
 

ไม่ว่างอั๊พเลยจ้า งานยุ่งมากกกกกก เพิ่งเสร็จงานเนี่ย
Read More

"ป๋า-วิดิช" ควงคว้ายอดเยี่ยมแห่งปีพรีเมียร์ฯ

เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ควงแขน เนมันยา วิดิช กองหลังตัวเก่ง "ผีแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คว้ารางวัลกุนซือและนักเตะยอดเยี่ยมแห่งฤดูกาล 2010/11 ของศึกลูกหนังพรีเมียร์ลีก อังกฤษ

หลังจากมีส่วนสำคัญนำ แมนฯ ยูไนเต็ด ประกาศศักดาคว้าแชมป์ลีกสูงสุดเมืองผู้ดีเป็นสมัยที่ 19 ในประวัติศาสตร์ มาล่าสุด เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน จอมเก๋าชาวสกอตติชได้รับเกียรติจากพรีเมียร์ลีก เลือกให้เป็นกุนซือยอดเยี่ยมแห่งปี ขณะที่ เนมันยา วิดิช เซ็นเตอร์ฮาล์ฟชาวเซิร์บของ "ผีแดง" ก็รับตำแหน่งนักเตะยอดเยี่ยมไปครอง

สำหรับ เฟอร์กี ผู้พา แมนฯ ยูไนเต็ด เถลิงแชมป์พรีเมียร์ลีก 12 สมัย (รวมแชมป์ดิวิชัน 1 เดิม เป็น 19 สมัย) ได้รับรางวัลกุนซือยอดเยี่ยมของลีกสูงสุดเป็นสมัยที่ 9 ในอาชีพการคุมทีม โดยบรมกุนซือวัย 69 ปี ยังมีภารกิจสำคัญในการนำทัพ "ผีแดง" ล่าแชมป์ ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก ในวันเสาร์ที่ 28 พฤษภาคม 2554 ที่จะพบกับ บาร์เซโลนา ยอดทีมของสเปน ที่สนามเวมบลีย์ ประเทศอังกฤษ

ในส่วนของ วิดิช วัย 29 ปี ถือเป็นหัวใจสำคัญในเกมรับของ แมนฯ ยูไนเต็ด โดยเป็นนักเตะที่ลงสนามให้ต้นสังกัดมากที่สุด (35 นัด) ทำได้ทั้งสิ้น 5 ประตู และนี่ก็เป็นรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งซีซันหนที่ 2 ในการมาลุยพรีเมียร์ลีก ซึ่งในเกมที่ "ผีแดง" จะเปิดโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ปิดท้ายฤดูกาลกับ แบล็คพูล คืนวันอาทิตย์ที่ 22 พ.ค.นี้ ดาวเตะทีมชาติเซอร์เบียจะออกมาชูโทรฟีแชมป์อย่างเป็นทางการด้วย
Read More

เดอะซันประโคมหงส์ทุ่มซื้อ "ดีเอโก"

ลิเวอร์พูล มีแผนเสริมทัพใหญ่เพื่อกลับมาล่าแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ แข่งกับเหล่า "บิ๊กโฟร์" ไม่ว่าจะเป็น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, เชลซี, อาร์เซนอล หรือว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี โดยสื่อเชื่อว่าบอร์ดบริหาร "หงส์แดง" พร้อมเปิดคลังให้ เคนนี ดัลกลิช กุนซือจอมเก๋าชาวสกอตติชล่านักเตะตามที่ต้องการ

ล่าสุด "เดอะซัน" ตีข่าว ดัลกลิช กำลังมองหามิดฟิลด์ประเภทตัวบัญชาการเพื่อมาสร้างสรรค์เกมรุกให้ หลุยส์ ซัวเรซ กับ แอนดี คาร์โรลล์ ล่าสกอร์ฤดูกาลหน้า (2011/12) โดยมีกระแส ลิเวอร์พูล กำลังจับตาสถานการณ์ของ ดีเอโก อย่างใกล้ชิด หลังจากดาวเตะวัย 26 ปี มีปัญหากับ เฟลิกซ์ มากัธ กุนซือ "หมาป่า" โวล์ฟสบวร์ก ต้นสังกัดแห่งบุนเดสลีกา เยอรมนี

ซึ่ง มากัธ เผยถึงลูกทีมที่มีปัญหากันจนโดนดร็อปในนัดสุดท้ายของบุนเดสลีกา สัปดาห์ก่อน "ถ้าสโมสรใดต้องการเซ็นสัญญากับ ดีเอโก พวกเขาต้องมาคุยกับเราก่อน ส่วนเรื่องต่างๆ หรือการตัดสินใจใดๆ ยังไม่เกิดขึ้น เรายังมีเวลามากพอจนกว่าจะถึงช่วงพรีซีซัน ซึ่งคงได้มีโอกาสคุยกับ ดีเอโก"

สำหรับ ดีเอโก คาดว่าจะมีค่าตัว 15 ล้านยูโร (ราว 600 ล้านบาท) ตามรายงานของ "บิลด์" สื่อยักษ์ใหญ่เมืองเบียร์ ทว่าแหล่งข่าวของ "เดอะซัน" เปิดเผยว่า ลิเวอร์พูล พร้อมจ่ายค่าตัวกองกลางตัวรุกทีมชาติบราซิลเพียง 10 ล้านยูโร เท่านั้น

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 21 พฤษภาคม 2554 01:56 น.
Read More

ปืนส่องฟอร์มรอนดอนหอกมาลาก้า

ซาโลมอน รอนดอน
ทีม “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล ตกเป็นข่าวกำลังส่องดูฟอร์มของ รอนดอน กองหน้าทีม มาลาก้า อย่างใกล้ชิดในเวลานี้





รอนดอน กองหน้าทีมชาติเวเนซูเอล่า ทำผลงานได้อย่างร้อนแรงในศึกลูกหนังลา ลีกา ฤดูกาลนี้ โดยทำไปแล้วกว่า 14 ประตูจากการเล่น 29 นัด ทั้งที่เพิ่งจะย้ายมาเล่นได้ฤดูกาลแรกเท่านั้น ทำให้มีหลายสโมสรที่ส่งแมวมองมาตามดูฟอร์ม

ล่าสุดมีการเผยว่า อาร์เซนอล เป็นหนึ่งในทีมที่ส่งแมวมองมาดูฟอร์ม และเป็นตัวเต็งที่จะได้ตัวไปร่วมทีมด้วย โดยล่าสุดส่งมาดูฟอร์มนัดที่ รอนดอน ยิงประตูชัยให้ทีมเอาชนะ แอตเลติโก มาดริด ได้ด้วย ซึ่งคาดว่าค่าตัวน่าจะอยู่ที่ 15-20 ล้านยูโร









ข้อมูลจาก : MSN ฟุตบอล วันที่ : 5/12/2011 10:07:58 AM

Read More

"เจที" หนุน "อันเช" คุมเชลซีต่อ

คาร์โล อันเชล็อตติ
จอห์น เทอร์รี เซนเตอร์ฮาล์ฟกัปตันทีม เชลซี ออกโรงหนุนหลัง คาร์โล อันเชล็อตติ นายใหญ่ชาวอิตาเลี่ยน คุมทัพถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ ต่อไปในฤดูกาลหน้า ชี้แม้ปีนี้จะมือเปล่า แต่ผลงานเข้าตาตั้งแต่ปีแรกแล้ว จากการตีข่าวของ "เดอะ ซัน" (THE SUN)

     

        คาร์โล อันเชล็อตติ ส่อแววกระเด็นจากเก้าอี้นายใหญ่ เชลซี เพราะฤดูกาลนี้ปิดฉากแบบมือเปล่า ทั้งที่ปีก่อนคว้าดับเบิลแชมป์ หลังจากบุกไปพ่าย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-2 เกมชี้ชะตาแชมป์ พรีเมียร์ชิป อังกฤษ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 8 พฤษภาคมที่่ผ่านมา

     

        ทำให้มีข่าวว่า โรมัน อบราโมวิช มหาเศรษฐีชาวรัสเซีย เจ้าของทีม เชลซี ต้องการตัว กุส ฮิดดิงค์ นายใหญ่เลือดดัตช์ กลับมาคุมทัพ หลังเคยกุมบังเหียนชั่วคราว 3 เดือนและคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ เมื่อปี 2009 ส่วนอีกหนึ่งตัวเลือกคือ อังเดร บียาส โบอาส นายใหญ่ ปอร์โต ที่ได้รับฉายาว่า "นิว โชเซ มูรินโญ" เพราะพาทีมคว้าแชมป์ลีก โปรตุเกส และเข้าชิงถ้วย ยูโรปา ลีก ปีนี้

     

        ทว่า เทอร์รี แนวรับ เชลซี ออกมาเผยว่า "คาร์โล คือคนที่จะได้รับการสนับสนุนจากผมอย่างเต็มที่ ผมรักเขา หลังพาทีมคว้าดับเบิลแชมป์ตั้งแต่ปีแรก ทว่าฤดูกาลนี้ทีมมีปัญหานักเตะบาดเจ็บและปล่อยแข้งออกไปเยอะ ครั้ง มูรินโญ คุมทัพเรามีขนาดทีมค่อนข้างใหญ่ แต่ตอนนี้ไม่ใช่"





โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 12 พฤษภาคม 2554 10:56 น.
Read More

คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 17 พ.ค. 54 | แมนเชสเตอร์ ซิตี 3 - 0 สโต๊ค ซิตี

คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 17 พ.ค. 54 | แมนเชสเตอร์ ซิตี 3 - 0 สโต๊ค ซิตี
คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 17 พ.ค. 54 | แมนเชสเตอร์ ซิตี 3 - 0 สโต๊ค ซิตี


คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 17 พ.ค. 54 | แมนเชสเตอร์ ซิตี 3 - 0 สโต๊ค ซิตี
1-0 คาร์ลอส เตเวซ 14'


คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 17 พ.ค. 54 | แมนเชสเตอร์ ซิตี 3 - 0 สโต๊ค ซิตี
2-0 โจเลียน เลสคอตต์ 53'


คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 17 พ.ค. 54 | แมนเชสเตอร์ ซิตี 3 - 0 สโต๊ค ซิต
3-0 คาร์ลอส เตเวซ 65'
Read More

ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 17 พ.ค. 54 | แมนเชสเตอร์ ซิตี 3 - 0 สโต๊ค ซิตี

ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 17 พ.ค. 54 | แมนเชสเตอร์ ซิตี 3 - 0 สโต๊ค ซิตี
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 17 พ.ค. 54 | แมนเชสเตอร์ ซิตี 3 - 0 สโต๊ค ซิตี

รีแมตช์รอบชิงชนะเลิศ เอฟเอ คัพ แมนเชสเตอร์ ซิตี ทีมอันดับ 3 และแชมป์เอฟเอ คัพ ประจำฤดูกาล 2010-2011 เปิดสนามซิตี ออฟ แมนเชสเตอร์ ต้อนรับ สโต๊ค ซิตี ทีมอันดับ 9 ที่อกหักได้เพียงรองแชมป์ เกมนี้เจ้าถิ่นปรับผู้เล่นเล็กน้อย ปาโบล ซาบาเลตา, เจมส์ มิลเนอร์ กับ อดัม จอห์นสัน ได้โอกาสแทน อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ, แกเร็ธ แบร์รี และ มาริโอ บาโลเตลลี พร้อมทั้งดัน ยายา ตูเร ไปเล่นกองหน้าร่วมกับ คาร์ลอส เตเวซ ส่วนทีมเยือนเปลี่ยนทัพเช่นกัน หลังจาก เจอร์เมน เพนแนนท์ กับ แม็ทธิว เอเธอร์ริงตัน ปีกสองข้างไม่สมบูรณ์ ด้านกองหน้าใช้ ยอห์น คาริว ล่าตาข่ายร่วมกับ โจนาธาน วอลเตอร์ส

เปิดฉากมาเป็น “เรือใบสีฟ้า” ที่ยังฉายหนังม้วนเดิมด้วยการบุกกดดันมากกว่าตั้งแต่ต้นจนกระทั่งมาพังประตูออกนำ 1-0 ในนาทีที่ 14 เมื่อ เตเวซ ทำชิ่งไปมากับ เจมส์ มิลเนอร์ ก่อนโชว์ความคล่องแคล่วด้วยการโยกหลอก ไรอัน ชอว์ครอสส์ และ แอนดี วิลกินสัน จนหัวหมุนก่อนตะบันเต็มข้อส่งลูกหนีมือ โธมัส โซเรนเซน เสียบมุมไกลอย่างสวยงาม และเป็นประตูที่ 20 ในฤดูกาลนี้ของกองหน้าทีมชาติอาร์เจนตินาด้วย

เกมยังคงอยู่ในการครอบครองของ แมนฯ ซิตี นาทีที่ 28 ยายา ตูเร ฉกบอลได้ในแดน “ช่างปั้นหม้อ” ก่อนจ่ายให้ มิลเนอร์ ถ่ายต่อมาที่ เตเวซ ดีดไซด์ก้อยด้วยข้างเท้าด้านนอก แต่ลูกเบาเกินไปเข้าซอง โซเรนเซน ขณะที่ เดอะ พ็อตเตอร์ พยายามหาทางเจาะเข้าทำแต่ก็ยังไม่มีโอกาสที่ชัดเจน กระทั่งจบ 45 นาทีแรก เรือใบสีฟ้ายังคงนำอยู่ 1-0

กลับมาเล่นต่อในครึ่งหลัง เจ้าถิ่นหนีห่างเป็น 2-0 ในนาทีที่ 53 เมื่อ ไมกาห์ ริชาร์ดส เติมขึ้นมาทางขวาแล้วถูก แดนนี คอลลินส์ สไลด์ทำฟาวล์ได้ฟรีคิก อดัม จอห์นสัน เปิดเข้ากลางให้ โจเลียน เลสคอตต์ ขึ้นโขกตัดหน้า โซเรนเซน ที่ออกมาไม่ถึงบอล ลูกเข้าไปปะทะตาข่าย จากนั้น ดาบิด ซิลบา ถูกถอดออกมาพักแล้วให้ เอดิน เชโก ดาวยิงชาวบอสเนียลงมาแทน

ถึงนาทีที่ 65 สกอร์บอร์ดก็ทำงานอีกครั้งเป็น 3-0 สำหรับเรือใบสีฟ้า เมื่อ เตเวซ จัดการปั่นฟรีคิกระยะประมาณ 25 หลา ลูกข้ามกำแพงก่อนเลี้ยวเข้าเสียบเสาแรกอย่างสวยงามชนิดที่ โซเรนเซน หมดสิทธิ์ป้องกัน ทำให้หัวหอกเลือดฟ้า-ขาวขึ้นนำดาวซัลโวร่วมกับ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ 21 ประตูเท่ากันแล้ว

ช่วง 4 นาทีสุดท้าย เชโก ได้โอกาสลุ้นพังประตู แต่จังหวะโขกลูกเตะมุมส่งบอลข้ามคานออกไป จบเกม แมนฯ ซิตี คว้าชัยแบบสบายหายห่วง 3-0 เก็บเพิ่มเป็น 68 คะแนนจาก 37 นัด แซงหน้า อาร์เซนอล ขึ้นไปรั้งอันดับ 3 ได้สำเร็จ ส่วน สโต๊ค อยู่อันดับ 9 ตามเดิม มี 46 คะแนน

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ซิตี - โจ ฮาร์ท, ไมกาห์ ริชาร์ดส, แว็งซ็องต์ กอมปานี, โจเลียน เลสคอตต์, ปาโบล ซาบาเลตา, ไนเจล เดอ ยอง, อดัม จอห์นสัน, เจมส์ มิลเนอร์, ดาบิด ซิลบา, ยายา ตูเร, คาร์ลอส เตเวซ

สโต๊ค ซิตี - โธมัส โซเรนเซน, มาร์ค วิลสัน, แดนนี คอลลินส์, ไรอัน ชอว์ครอสส์, แอนดี วิลกินสัน, เกล็น วีแลน, ซาลิฟ ดิเยา, ดีน ไวท์เฮด, แดนนี พิวจ์, โจนาธาน วอลเตอร์ส, ยอห์น คาริว

ประตู
1-0 คาร์ลอส เตเวซ 14'
2-0 โจเลียน เลสคอตต์ 53'
3-0 คาร์ลอส เตเวซ 65'
Read More

คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 15 พ.ค. 54 | เบอร์มิงแฮม 0 - 2 ฟูแล่ม

คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 15 พ.ค. 54 | เบอร์มิงแฮม 0 - 2 ฟูแล่ม
คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 15 พ.ค. 54 | เบอร์มิงแฮม 0 - 2 ฟูแล่ม


คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 15 พ.ค. 54 | เบอร์มิงแฮม 0 - 2 ฟูแล่ม
0-1 : เบรเด ฮันเกลันด์ น.5]
[0-2 : เบรเด ฮันเกลันด์ น.49
Read More

คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 15 พ.ค. 54 | วีแกน 3 - 2 เวสต์แฮม

คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 15 พ.ค. 54 | วีแกน 3 - 2 เวสต์แฮม
คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 15 พ.ค. 54 | วีแกน 3 - 2 เวสต์แฮม


คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 15 พ.ค. 54 | วีแกน 3 - 2 เวสต์แฮม
0-1 : เดมบา บา น.12
0-2 : เดมบา บา น.26
1-2 : ชาร์ลส์ เอ็นซอกเบีย น.57
2-2 : คอเนอร์ แซมมอน น.68
3-2 : ชาร์ลส์ เอ็นซอกเบีย น.90+4
Read More

คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 15 พ.ค. 54 | อาร์เซนอล 1- 2 แอสตัน วิลล่า

คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 15 พ.ค. 54 | อาร์เซนอล 1- 2 แอสตัน วิลล่า
คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 15 พ.ค. 54 | อาร์เซนอล 1- 2 แอสตัน วิลล่า


คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 15 พ.ค. 54 | อาร์เซนอล 1- 2 แอสตัน วิลล่า
0-1 : ดาร์เรน เบนท์ น.10


คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 15 พ.ค. 54 | อาร์เซนอล 1- 2 แอสตัน วิลล่า
0-2 : ดาร์เรน เบนท์ น.14


คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 15 พ.ค. 54 | อาร์เซนอล 1- 2 แอสตัน วิลล่า
1-2 : โรบิน ฟาน เพอร์ซี น.88
Read More

คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 15 พ.ค. 54 | ลิเวอร์พูล 0- 2 สเปอร์ส

คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 15 พ.ค. 54 | ลิเวอร์พูล 0- 2 สเปอร์ส
คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 15 พ.ค. 54 | ลิเวอร์พูล 0- 2 สเปอร์ส


คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 15 พ.ค. 54 | ลิเวอร์พูล 0- 2 สเปอร์ส
0-1 ฟาน เดอร์ ฟาร์ท น.9


คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 15 พ.ค. 54 | ลิเวอร์พูล 0- 2 สเปอร์ส
0-2 โมดริช น.56 (จุดโทษ)
Read More

ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ

คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ

ข่าวฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ

อย่าลืมกด Like ให้ด้วยนะครับ

Blog Archive

7m, ผลบอลพรีเมียร์, วิเคราะห์บอลพรีเมียร์, ข่าวฟุตบอลพรีเมียร์, ตารางคะแนนบอลพรีเมียร์, โปรแกรมฟุตบอลพรีเมียร์, โปรแกรมถ่ายทอดสดบอลพรีเมียร์, ตารางบอล, คลิปฟุตบอล, คลิปไฮไลท์, คลิปไฮไลท์บอลพรีเมียร์, สยามกีฬา, บ้านผลบอล, เซียนสเต็ป, ล้มโต๊ะ, Goal, ดูบอลพรีเมียร์ออนไลน์, ผลบอลสด, ฟุตบอล, ผลบอลวันนี้, บอลวันนี้, ผลบอลเมื่อคืน, ผลฟุตบอล, ฟุตบอลวันนี้, โปรแกรมฟุตบอล, บอล, ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก, ตารางบอล, ข่าวฟุตบอล, คลิบฟุตบอล, เกมส์ุฟุตบอล, ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีก, ผลฟุตบอลสด, football, soccer

ข่าวสโมสรพรีเมียร์ลีกอังกฤษทั้งหมด

Man Utd (151) Liverpool (148) Chelsea (62) Tottenham (61) Arsenal (60) Man City (51) Aston Villa (45) Newcastle (45) Stoke (42) Fulham (40) Sunderland (35) Everton (33) West Brom (31) Wigan (29) Swansea (25) Bolton (24) Blackburn (23) Norwich (22) QPR (22) West Ham (18) Birmingham (10) Blackpool (10) Reading (10) Southampton (10) Cardiff City (3) Crystal Palace (2) Hull City (2)