ปืนใหญ่ดับคารังกาลาอัดร่วง 1-2 คว้าแชมป์เอมิเรตส์


ศึกเอมิเรตส์คัพ อาร์เซน่อลยังไม่ชนะใครล่าสุดแพ้กาลาตาซารายไป 1 ประตูต่อ 2 ส่งให้กาลาตาซารายคว้าแชมป์เอมิเรตส์คัพ ประจำปีนี้ไปได้

ศึก เอมิเรตส์ คัพ 2013 คู่ที่สองของวันอาทิตย์ทาง "ไอ้ปืนใหญ่" ที่ไล่ตีเสมอนาโปลี มาในนัดแรก 2-2 โดย "ไอ้ปืนใหญ่" วาง ซาโนโก้, ธีโอ วัลค็อตต์, อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน และ ซานติ กาซอร์ล่า ลงเล่นร่วมกันในสามแนวรุก พร้อมได้ มิเกล อาร์เตต้า คุมเกมแดนกดลางร่วมกับ อารอน แรมซี่ย์ ส่วนตำแหน่งผู้รักษาประตูนั้นให้ วอยเชียค เชสนี่ย์ นายทวารชาวโปแลนด์ที่ฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บแล้วลงมาเฝ้าเสาแทน ลูคัสซ์ ฟาเบียนสกี้ขณะที่ กาลาตาซาราย ยอดทีมจากแดนไก่งวงให้ เฟลิเป้ เมโล่ และ โยฮัน เอลมานเดอร์ เป็นตัวหลัก แต่พัก ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา กองหน้าตัวเก่งไว้เป็นแค่สำรอง

ออกสตาร์ทครึ่งแรก ทีมเยือนทักทายก่อน โยฮัน เอลมานเดอร์ ได้บอลหลุดเข้าเขตโทษแล้วยิงติดเซฟ วอยเชียค เชสนี่ นายทวารไอ้ปืนใหญ่ ที่พุ่งตัวรับเอาไว้ได้ในนาทีที่ 16

เจ้าบ้านน่าออกนำในนาทีที่ 19 เมื่อ อารอน แรมซี่ย์ เปิดบอลให้ ธีโอ วัลค็อตต์ หลุดเข้าเขตโทษด้านขวาแล้วดีดผ่านมือ เฟร์นานโด มุสเลร่า นายทวารกาลาตาซารายไปแล้ว แต่ดันหลุดกรอบออกไปแบบไม่น่าเชื่อ

เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 40 อาร์เซน่อล ขึ้นนำจนได้จากจังหวะที่ ธีโอ วัลค็อตต์ ปีกขวาได้บอลนอกเขตโทษด้านซ้ายแล้วเปิดโค้งเข้ามาหน้าประตู เฟลิเป้ เมโล่ กองกลางกาลาฯ โหม่งไม่โดน บอลเลยตกพื้นกระดอนเข้าประตูไปช่วยให้ไอ้ปืนใหญ่นำก่อน 1-0 เมื่อหมดครึ่งแรก

มาเล่นกันต่อในครึ่งเวลาหลัง กาลาตาซาราย เปลี่ยนเอา ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา กองหน้าตัวเก่งทีมชาติไอวอรี่ โคสต์ ลงมาเล่นแทน โยฮัน เอลมานเดอร์ กองหน้าชาวสวีดิช พร้อมให้ โคชลัค เล่นแทน ฮามิต อัลตินท็อป พร้อมให้ เวสลี่ย์ สไนจ์เดอร์ มิดฟิลด์ตัวรุกทีมชาติฮอลแลนด์ เล่นแทน อูมุต บูลุต

เกมของกาลาฯ ดีขึ้นมีโอกาสลุ้นในนาทีที่ 48 จากจังหวะที่ นอร์ดิน ออมราบัต กองกลางตัวเก่งลากตัดเข้าในแล้วสับไกยิงด้วยซ้ายบอลม้วนหลุดกรอบออกไป

สองนาทีต่อมา อาร์เซน่อล ขึ้นเกมมาบ้าง ยาย่า ซาโนโก้ ได้ซัดมุมแคบ แต่ เฟร์นานโด มุสเลร่า นายทวารชาวอุรุกวัยของกาลาตาซาราย เซฟไว้ได้สวย

มาเล่นกันต่อในครึ่งเวลาหลัง กาลาตาซาราย เปลี่ยนเอา ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา กองหน้าตัวเก่งทีมชาติไอวอรี่โคสต์ ลงมาเล่นแทน โยฮัน เอลมานเดอร์ กองหน้าชาวสวีดิช พร้อมให้ โคชลัค เล่นแทน ฮามิต อัลตินท็อป พร้อมให้ เวสลี่ย์ สไนเดอร์ มิดฟิลด์ตัวรุกทีมชาติฮอลแลนด์ เล่นแทน อูมุต บูลุต

มาถึงนาทีที่ 56 แฟนบอลในสนามเล่นเวฟกันอย่างสนุกสนาน ส่วนรูปเกม กาลาตาซารายทำได้ดีขึ้น ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา ที่ลงมาเป็นสำรองได้กระหน่ำบอลหลุดกรอบออกไป

อาร์เซน่อลมีโอกาสอีกครั้ง โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ได้โหม่ง แต่ไม่ผ่านมือของ เฟร์นานโด มุสเลร่า นายทวารของกาลาตาซาราย ในนาทีที่ 71 จากนั้น กาลาฯ โต้ขึ้นมาบ้าง สไนเดอร์ซัดแต่ไม่ผ่านมือของ วอยเชียค เชสนี่ ที่ปัดทิ้งออกไปได้ในนาทีที่ 74

อย่างไรก็ตาม ทีมดังจากแดนไก่งวงมาได้จุดโทษจากจังหวะที่ อินญาซี่ มิเกล กองหลังตัวสำรองของไอ้ปืนใหญ่ไปกระแทกใส่ ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา กองหน้าของกาลาฯ จนร่วงในเขตโทษ ผู้ตัดสินชี้เป็นจุดโทษทันที ก่อนที่ดร็อกบา ลุกขึ้นมาสังหารเองด้วยขวาเข้าไปไม่เหลือ ช่วยให้กาลาตาซารายตามมาตีเสมอเป็น 1-1 ในนาทีที่ 78

ช่วงท้ายเกม กาลาตาซาราย แซงขึ้นนำได้สำเร็จ จากดีดีเยร์ ดร็อกบา ที่ซัดด้วยเท้าซ้ายเสียบประตูอย่างเฉียบขาด ทำให้กาลาตาซารายนำ 2-1

เวลาที่เหลือไม่มีใครทำอะไรเพิ่มได้ และจบลงด้วยสกอร์นี้ ทีมจากแดนตุรกีชนะ 2-1 คว้าแชมป์ ไปครองได้อย่างงดงาม

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

อาร์เซน่อล : วอยเชียค เชสนี่ - บาการี่ ซาญ่า, คาร์ล เจนกินสัน, แพร์ แมร์เตซัคเคอร์, คีแรน กิ๊บบ์ส (อินญาซี่ มิเกล น.68) - มิเคล อาร์เตต้า, อารอน แรมซี่ย์ - อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลน, ซานติ กาซอร์ล่า (เกดิออน เซลาเล็ม น.61), ธีโอ วัลค็อตต์ - ยาย่า ซาโนโก้ (โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ น.61)

กาลาตาซาราย : เฟร์นานโด มุสเลร่า - เอ็มมานูเอล เอบูเอ้, โอเรเลียง เชดฌู, ซามีห์ คาย่า, อัลเบิร์ต ริเอร่า - ฮามิต อัลตินท็อป (โคลัค น.46), เฟลิเป้ เมโล่ (กัปตันทีม) (ซาบรี ซาริโอกลู น.65), เอลกิน บายตาร์, นอร์ดิน อัมราบัต, อูมุต บูลุต (เวสลี่ย์ สไนเดอร์ น.46) - โยฮัน เอลมานเดอร์ (ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา น.46)
Read More

คลิปไฮไลท์ฟุตบอลอุ่นเครื่อง โยโกฮามา เอฟ มารินอส 3 - 2 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

คลิปไฮไลท์ฟุตบอลอุ่นเครื่อง โยโกฮามา เอฟ มารินอส 3 - 2 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด



คลิปไฮไลท์ฟุตบอลอุ่นเครื่อง โยโกฮามา เอฟ มารินอส 3 - 2 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
Read More

10 สุดยอดเซ็นเตอร์แบ็กดีที่สุดในยุคปัจจุบัน

10 สุดยอดเซ็นเตอร์แบ็กดีที่สุดในยุคปัจจุบัน

10. แดเนียล แอกเกอร์ (ลิเวอร์พูล)

แดเนียล แอกเกอร์
แดเนียล แอกเกอร์
แดเนียล แอกเกอร์ คือว่าที่รองกัปตันทีมคนใหม่ของลิเวอร์พูล ซึ่งจากประสบการณ์ของเขานั้นจัดว่าโชกโชน ในระดับชาติการได้เป็นกัปตันทีมชาติเดนมาร์ก คือเครื่องวัดคุณภาพของเขาได้เป็นอย่างดี

จุดเด่นของแอกเกอร์คือ การเติมเกมรุกที่ทรงประสิทธิภาพ ลูกยิงด้วยเท้าซ้ายของเขาจัดว่าอันตรายและหวังผลได้เสมอ นอกจากนั้น ยังมีความเป็นผู้นำเต็มเปี่ยม เรียกได้ว่าถึงลิเวอร์พูลจะไม่ประสบความสำเร็จในซีซั่นที่ผ่านมาแต่ระดับฝีเท้าของแอกเกอร์ต้องติดท็อปเท็นของโลกอย่างไม่ต้องสงสัย

9. ริโอ เฟอร์ดินานด์ (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)

ริโอ เฟอร์ดินานด์
ริโอ เฟอร์ดินานด์
ถึงแม้ ริโอ จะมีอายุอานามพอสมควรแล้ว แต่ผลงานของเขากับทีมปิศาจแดงในซีซั่นที่ผ่านมา ยังจัดว่าเชื่อถือได้อยู่ ไม่ใช่แค่พาแมนฯยูไนเต็ดคว้าแชมป์ลีกได้สำเร็จแล้ว เฟอร์ดินานด์ ยังติดทีมออลสตาร์ของพรีเมียร์ลีกอีกต่างหาก โดยคว้าตัวจริงในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็ก ซึ่งแสดงให้เห็นว่า เขายังคงเป็นที่พึ่งของทีมได้เสมอ

ในซีซั่นหน้า ถึงแม้แมนฯยูไนเต็ดจะมีกองหลังหลายรายทั้ง ฟิล โจนส์,คริส สมอลลิ่ง หรือจอนนี่ อีแวนส์ แต่ก็เชื่อว่าริโอ น่าจะยังคงเป็นเสาหลักของทีมต่อไปอีกระยะหนึ่ง

8. แยน แฟร์ทองเก้น (สเปอร์ส)

แยน แฟร์ทองเก้น
แยน แฟร์ทองเก้น

ในขวบปีที่ผ่านมา ชื่อเสียงของแยน แฟร์ทองเก้น โด่งดังไปทั่วยุโรป จากการเล่นอันโดดเด่นของเขากับทอตแน่ม ฮอตสเปอร์ส

แฟร์ทองเก้นมีความยืดหยุ่นได้ดีมาก เพราะเล่นได้ดีทั้งแบ็กซ้าย และเซ็นเตอร์แบ็ก การซื้อตัวมาจากอาแจ๊กซ์ในราคาแค่ 10 ล้านปอนด์ กลายเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าเหลือเชื่อ

จนถึงเวลานี้ ผลงานมาสเตอร์พีซของอันเดร วิลลาส-โบอาส นอกเหนือจากการรั้งแกเร็ธ เบลไว้ได้ ก็คือการรั้งนักเตะอย่างแฟร์ทองเก้นต่อไปในซีซั่นหน้าได้อีกรายนี่ล่ะ

7. มัทส์ ฮุมเมิลส์ (โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์)

มัทส์ ฮุมเมิลส์
มัทส์ ฮุมเมิลส์
มัทส์ ฮุมเมิลส์ กลายเป็นนักเตะที่เนื้อหอมสุดๆทันที หลังจากช่วยพาโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์คว้าแชมป์บุนเดสลีกาได้สำเร็จในซีซั่นก่อน นอกจากนั้นยังสามารถยึดตำแหน่งตัวจริงทีมชาติเยอรมันได้อย่างสง่างาม ซึ่งจากฝีเท้าของเขาก็ไม่แปลกใจเลยว่าทำไม่โยอาคิม เลิฟถึงไว้ใจให้เป็นตัวจริงทั้งๆที่อายุยังน้อย

ฮุมเมิลส์ เป็นผุ้เล่นที่เล่นได้อย่างชาญฉลาดมาก จุดเด่นของเขาคือเหนียวแน่นมากๆในการดวลกับคู่แข่งแบบตัวต่อตัว สังเกตดีๆว่าต่อให้คู่แข่งเร็วแค่ไหน ก็เลี้ยงไม่ผ่านเขา

นี่คืออนาคตอีกยาวไกลของทีมชาติเยอรมัน รวมทั้งของดอร์ทมุนด์ด้วยที่ต้องทำทุกอย่างเพื่อรั้งฮุมเมิลส์ให้อยู่กับทีมต่อไปให้ได้

6. เซร์คิโอ รามอส (เรอัล มาดริด)

เซร์คิโอ รามอส
เซร์คิโอ รามอส
เซร์คิโอ รามอส อาจมีชื่อเสียงไม่ค่อยดีนักนอกสนาม ทุกคนรู้ว่าเขาชอบใช้อิทธิพลในการกดดันผู้เล่น หรือสตาฟฟ์ที่เขาไม่ค่อยชอบใจ

แต่ถ้าวัดกันที่ฝีเท้าเพียวๆ เขาแทบไม่เป็นรองใครทั้งนั้นบนโลกใบนี้ ช่วงแรกๆเขาเริ่มต้นด้วยการเล่นในตำแหน่งแบ็กขวาก่อนตั้งแต่อยู่กับเซบีย่า แต่ในช่วงหลังเจ้าตัวเล่นเป็นเซ็นเตอร์แบ็กเป็นหลัก

ทำให้ศักยภาพของรามอส สามารถเล่นได้ทุกตำแหน่งในแนวรับ เขาอาจไม่ประสบความสำเร็จนักในซีซั่นที่ผ่านมา แต่ถ้าวัดกันที่เรื่องฝีเท้า ยังไงก็ต้องติดท็อปเท็นของโลกแน่นอน

5. ดาวิด ลุยซ์ (เชลซี)

ดาวิด ลุยซ์
ดาวิด ลุยซ์
ดาวิด ลุยซ์ เป็นกองหลังที่มีพัฒนาการก้าวกระโดดมากๆในซีซั่นที่ผ่านมา ย้อนกลับไปสมัยเบนฟิก้า เขาเป็นแค่แนวรับบ้าบุกธรรมดาคนหนึ่ง แต่ซีซั่นที่ผ่านมาภายใต้การคุมทีมของราฟาเอล เบนิเตซ

ลุยซ์ ยกระดับเป็นแนวรับที่จัดจ้านมาก ทั้งเกมรับและเกมรุก นอกจากนั้นยังมีบางเกมที่เขาโดดดันไปเล่นเป็นกองกลางตัวรับอีกด้วย ซึ่งทีเด็ดของลุยซ์ อยู่ทีการเติมเกมอย่างฉลาด แถมมีทีเด็ดที่การยิงไกล และฟรีคิกอีกด้วย ซึ่งถ้าเขายังก้าวกระโดดแบบนี้ต่อไป หนทางเป็นเซ็นเตอร์แบ็กเบอร์ 1 ของโลกก็ไม่ไกลเกินเอื้อม

นอกจากผลงานในระดับสโมสรจะเยี่ยมแล้ว ในระดับชาติก็เป็นตัวหลักให้บราซิลคว้าแชมป์คอนเฟดเดเรชั่นส์คัพอย่างสวยงามอีกด้วย

4. เคราร์ด ปิเก้ (บาร์เซโลน่า)

เคราร์ด ปิเก้
เคราร์ด ปิเก้
หลังจากหมดยุคของการ์เลส ปูโยล ก็กลายเป็นเคราร์ด ปิเก้ ที่ขึ้นมาแทนที่ทั้งในระดับทีมชาติ และระดับสโมสร

ผลงานในซีซั่นที่แล้ว ดูเผินๆจะไม่มีอะไร แต่อย่าลืมว่าปิเก้ พาบาร์ซ่าคว้าแชมป์ลาลีกาได้แบบแต้มทิ้งขาด ขณะที่ ในคอนเฟดเดเรชั่นส์คัพก็ไปไกลถึงรอบชิงชนะเลิศ เรียกได้ว่าผลงานโดยรวมโอเค

ปิเก้ เป็นกองหลังที่มีส่วนผสมของความดุดันแบบอังกฤษ จากประสบการณ์ที่เขาเคยเล่นให้กับแมนฯยูไนเต็ดอยู่ช่วงหนึ่ง รวมกับชั้นเชิงในสไตล์ลาลีกา ทำให้ฝีเท้าของเขาไม่เหมือนใคร

กล่าวคือปิเก้ ไม่ใช่กองหลังประเภทบู๊ชน แต่เป็นแนวมันสมองคิดอ่านได้เด็ดขาด ซ้อนรองแถวสองได้ดี แต่ถึงคราวต้องปะทะ ด้วยร่างกายที่ใหญ่โตก็ทำให้เขาไม่แพ้ใครเช่นกัน

3. แวงซ็องต์ กอมปานี (แมนเชสเตอร์ ซิตี้)

แวงซ็องต์ กอมปานี
แวงซ็องต์ กอมปานี
แวงซ็องต์ กอมปานี เป็นกัปตันของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ และทำสถิติทีมที่เสียประตูน้อยที่สุดในพรีเมียร์ลีก เมื่อซีซั่นที่แล้ว กอมปานี คือหนึ่งในผู้เล่นที่ครบเครื่องที่สุดในตำแหน่งแนวรับ กับทีมชาติเบลเยี่ยมปัจจุบันเขาถูกดันไปเล่นกองกลางตัวรับ ขณะที่กับแมนฯซิตี้ เขาคือเซ็นเตอร์แบ็ก ซึ่งก็เล่นได้ดีทั้งสองตำแหน่ง

ที่เหนืออื่นใด คือกอมปานี เป็นคนที่มีความเป็นผู้นำสูงมาก จริงๆในซีซั่นที่ผ่านมา ถ้ากอมปานีไม่เจ็บไประยะหนึ่งเชื่อกันว่า แมนฯซิตี้จะไล่บดกับแมนฯยูไนเต็ดได้อย่างสนุกกว่านี้

สิ่งที่กอมปานียังขาดอยู่คือความสำเร็จระดับชาติ ถ้าอย่างน้อยพาเบลเยี่ยมไปแข่งฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายได้ เขาอาจจะก้าวมาเป็นกองหลังเบอร์ 1 ของโลกก็ได้ใครจะรู้

2. จอร์โจ้ คิเอลลินี่ (ยูเวนตุส)
จอร์โจ้ คิเอลลินี่
จอร์โจ้ คิเอลลินี่
กองหลังจากอิตาลีทุกยุคทุกสมัยได้รับการขนานนามว่า เป็นพันธุ์แกร่งอยู่แล้ว และประเทศแห่งนี้ไม่เคยขาดแคลนเซ็นเตอร์ชั้นดี จากบาเรซี่ ถึงคอสตาร์คูต้า มัลดินี่ คันนาวาโร่ และ มาเตรัซซี่ ในยุคปัจจุบันถ้าพูดถึงเซ็นเตอร์แบ็กสักคน ก็ต้องเป็นคิเอลลินี่แน่นอน เขาช่วยให้ยูเวนตุสคว้าแชมป์กัลโช่ เซเรียอาได้ 2 สมัยติดกันอย่างน่าทึ่ง

นอกจากนั้นยังเป็นแกนหลักของทีมชาติอิตาลีชุดปัจจุบันด้วย โดยคิเอลลินี่ เป็นคนที่ยืดหยุ่นในการเล่นอย่างมาก เขาปรับตัวได้ดีกับระบบ เซ็นเตอร์ 2 คน หรือ เซ็นเตอร์ 3 คน

แถมในบางสถานการณ์ยังขยับตัวเองไปเล่นแบ็กซ้ายได้ด้วย นี่คือหนึ่งในกองหลังที่ดีที่สุดในยุคปัจจุบันอย่างไม่ต้องสงสัย

1. ติอาโก้ ซิลวา (ปารีส แซงต์ แชร์กแมง)
ติอาโก้ ซิลวา
ติอาโก้ ซิลวา
นี่คือเซ็นเตอร์แบ็ก เจ้าของสถิติค่าตัวแพงที่สุดในโลก มหาศาลถึง 42 ล้านยูโร แถมยังได้รับค่าเหนื่อยประมาณ 12 ล้านยูโรต่อปี ซึ่งไม่มีเซ็นเตอร์แบ็กคนไหนจะได้รับสูงมากขนาดนี้ในโลกฟุตบอล

แน่นอน ฝีเท้าของเขาไม่ใช่ของปลอม ราคานั้นพิสูจน์ฝีเท้าได้เป็นอย่างดี ซีซั่นที่ผ่านมา เขาพาเปแอสเชคว้าแชมป์ลีกเอิง พร้อมด้วยสถิติเสียประตูน้อยที่สุดในลีก นอกจากนั้นยังช่วยบราซิลคว้าแชมป์คอนเฟดเดเรชั้นส์คัพอย่างยิ่งใหญ่ โดยนัดชิงถล่มสเปน 3-0 แบบไม่เสียประตู

จุดเด่นของติอาโก้ ซิลวา คือทั้งแกร่งและเร็วมาก ในทีมชาติบราซิลชุดปัจจุบัน มีคำกล่าวว่า ติอาโก้ มีความเร็วที่สุดติดอันดับท็อปทรีของทีม สูสีกับเนย์มาร์เลยทีเดียว ทั้งๆที่เขาเล่นตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็ก

ในตอนนี้เจ้าตัวมีอายุ 28 ปี ถือว่าเป็นจุดพีกของผู้เล่นในตำแหน่งนี้ ซึ่งถ้ายังรักษาฟอร์มได้ต่อไปล่ะก็ เขาก็น่าจะครองตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็กเบอร์ 1 ของโลกไปได้อีกนาน

Read More

ยังไม่ยอม!สิงห์เพิ่มข้อเสนอรูนี่ย์เป็น30ล.ปอนด์

เวย์น รูนี่ย์
เวย์น รูนี่ย์
เชลซี เตรียมขยับข้อเสนอเพิ่มเป็น 30 ล้านปอนด์ ในการคว้า เวย์น รูนี่ย์ ดาวยิง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาร่วมทีมให้ได้ หลังจากโดนปฏิเสธข้อเสนอรอบแรกไปเมื่อสัปดาห์ก่อน

เชลซี ทีมยักษ์ใหญ่ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ พร้อมทุ่มข้อเสนอ 30 ล้านปอนด์ (ราว 1,350 ล้านบาท) เพื่อกระชากตัว เวย์น รูนี่ย์ กองหน้าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คู่ปรับร่วมลีก มาร่วมทีมให้ได้ หลังจากข้อเสนอ 23 ล้านปอนด์ (ราว 1,035 ล้านบาท) บวกเงินจ่ายตามเงื่อนไขอีก 2.5 ล้านปอนด์ (ราว 112.5 ล้านบาท) โดนปฏิเสธไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

ทัพ "สิงโตน้ำเงินคราม" พร้อมจ่ายค่าเหนื่อยสัปดาห์ละ 240,000 ปอนด์ (ราว 10.8 ล้านบาท) เท่ากับที่ดาวยิงวัย 27 ปี ได้รีบกับ "ปีศาจแดง" อยู่ตอนนี้ พร้อมสัญญาระยะ 5 ปี หากนักเตะสามารถหาทางออกมาจากถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ได้

ขณะนี้ รูนี่ย์ กำลังฝึกซ้อมอยู่ที่ศูนย์แคร์ริงตัน ของทัพ "ปีศาจแดง" หลังเดินทางกลับมาจากการเดินสายทัวร์ก่อน เนื่องจากมีปัญหาบาดเจ็บเอ็นหลังหัวเข่า ส่วน เดวิด มอยส์ ผู้จัดการทีมแมนฯ ยูไนเต็ด ก็ยังคงยืนกรานว่าศูนย์หน้าทีมชาติอังกฤษ ไม่ได้มีไว้ขาย แต่ โชเซ่ มูรินโญ่ กุนซือ เชลซี เตรียมผลักดันเพื่อคว้าตัวนักเตะมาให้ได้
Read More

ปืนคลั่งแล้ว ! ทุ่ม 42 ล้านปอนด์ล่าซัวเรซ

หลุยส์ ซัวเรซ
หลุยส์ ซัวเรซ
เดลี่ เมล์เผยข่าวว่าอาร์เซน่อลเตรียมอัดงบ 42 ล้านปอนด์ไล่ล่าหลุยส์ ซัวเรซ มาเสริมทัพในซีซั่นหน้า
อาร์เซน่อล ยื่นข้อเสนอเป็นเงินจำนวนรวม 42 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,890 ล้านบาท) เพื่อขอซื้อ หลุยส์ ซัวเรซ กองหน้าตัวเก่งของ ลิเวอร์พูล คู่แข่งร่วมลีก มาเสริมทัพ ตามรายงานของ "เดลี่ เมล์" สื่อชื่อดังของเมืองผู้ดี เมื่อวันอังคารที่ 23 กรกฎาคม ที่ผ่านมา

อาร์แซน เวนเกอร์ ผู้จัดการทีมชาวฝรั่งเศสของ อาร์เซน่อล ต้องการกองหน้าคนใหม่มาเสริมความคม ซึ่ง ซัวเรซ นับเป็นเป้าหมายหลักของเขาในตอนนี้ หลังจากที่มีโอกาสสูงว่าอีกหนึ่งคนที่เล็งไว้อย่าง กอนซาโล่ อิกวาอิน หัวหอก เรอัล มาดริด กำลังจะย้ายไปอยู่กับ นาโปลี แล้ว

ที่ผ่านมา ยอดทีมแห่งถิ่น เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม เคยยื่นข้อเสนอให้ ลิเวอร์พูล พิจารณาไปแล้ว 2 ครั้ง ประกอบด้วยจำนวนเงิน 30 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,350 ล้านบาท) และ 35 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,575 ล้านบาท) แต่ก็ถูก "หงส์แดง" ปฏิเสธไปอย่างไรก็ตาม อาร์เซน่อล ยังไม่ยอมแพ้ และได้ยื่นข้อเสนอขอซื้อหัวหอกชาวอุรุกวัยอีกครั้งแล้ว โดยคราวนี้เป็นเงินจำนวนรวมแล้ว 42 ล้านปอนด์ด้วยกัน

ข้อเสนอในครั้งนี้จะแบ่งเป็นการจ่ายในเบื้องต้น 35 ล้านปอนด์ พร้อมกับมีเงื่อนไขที่จะจ่ายเพิ่มให้อีก 7 ล้านปอนด์ (ประมาณ 315 ล้านบาท) ตามผลงานที่แข้งวัย 26 ปี ทำได้ ซึ่งทำให้ไม่เป็นที่แน่ชัดว่า ลิเวอร์พูล จะตอบรับข้อเสนอในครั้งนี้
Read More

จั่วลมหมด “ผี” ดึงของชัวร์ “เฟลไลนี”

มารูยาน เฟลไลนี
มารูยาน เฟลไลนี
เดวิด มอยส์ กุนซือ “ผีแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นข่าวเตรียมพิจารณาฉีกสัญญา มารูยาน เฟลไลนี กองกลางทีมชาติเบลเยียม มาเสริมทัพช่วงสิ้นเดือนกรกฎาคมนี้ จากการตีข่าวของ “เดอะ ซัน” แท็บลอยด์หัวดังประจำเกาะอังกฤษ

แมนฯยู วืดคว้า ติอาโก อัลคานทารา กองกลางทีมชาติสเปนชุดยู 21 ปี ดีกรีแชมป์ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ยูโร 2013 ที่ย้ายจาก บาร์เซโลนา ไปอยู่กับ บาเยิร์น มิวนิก ขณะเดียวกันรายของ เชส ฟาเบรกาส ห้องเครื่อง บาร์ซา ที่อยากได้ตัวใจจะขาดแนวโน้มก็ยังไม่ใกล้เคียงว่าจะเกิดขึ้น

ทำให้ มอยส์ นายใหญ่ แมนฯยู เบนเข็มไปที่ เฟลไลนี ลูกน้องเก่าสมัยอยู่ เอฟเวอร์ตัน ที่มีค่าฉีกสัญญาอยู่ที่ 22 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1 พันล้านบาท) มาเฝ้าห้องเครื่องช่วยงาน ไมเคิล คาร์ริค ก่อนศึก พรีเมียร์ ลีก ฤดูกาลหน้าเปิดฉากกลางเดือนสิงหาคมนี้

รายของ เฟลไลนี มีโอกาสสูงกว่าที่ แมนฯยู จะได้ตัว เนื่องจาก ฟาเบรกาส ค่าตัวระดับ 35 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,680 ล้านบาท) แถม บาร์เซโลนา คงไม่อยากปล่อยตัว แม้ว่าจะต้องเบียดตำแหน่งกับ ชาบี เอร์นานเดซ และ อันเดรียส อิเนียสตา
Read More

“ผี” ฟอร์มบู่!! โดนทีมยุ่นยิงร่วงท้ายเกม 3-2

“ผีแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฟอร์มบู่บุกไปพ่ายต่อ โยโกฮามา เอฟ มารินอส ทีมดังจาก เจ-ลีก ประเทศญี่ปุ่น 2-3 ในการทัวร์อุ่นเครื่องช่วงปรีซีซันนัดที่ 3 เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม ที่ผ่านมา
       
       ฟุตบอลอุ่นเครื่อง
       โยโกฮามา เอฟ มารินอส 3-2 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
       
     
ฟาน เพอร์ซี
ฟาน เพอร์ซี
  “ปิศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แชมป์ลีกสูงสุด 20 สมัย จากเกาะอังกฤษ ลงสนามลับแข้งช่วงปรีซีซันเป็นเกมที่ 3 พบกับ โยโกฮามา เอฟ มารินอส ทีมอันดับ 3 ในศึก เจ-ลีก ประเทศญี่ปุ่น ณ สนามนิสสัน สเตเดียม เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม ที่ผ่านมา เวลา 17.20 น.ท่ามกลางผู้ชมกว่า 83,000 คน หลังก่อนหน้านี้ พ่ายให้กับ สิงห์ ออลสตาร์ (ไทย) มา 0-1 ต่อด้วย ถล่ม เอ-ลีก ออลสตาร์ (ออสเตรเลีย) 5-1

       
       เกมนี้ เดวิด มอยส์ ส่ง โรบิน ฟาน เพอร์ซี กองหน้าตัวเก่งลงเป็นตัวจริง ในระบบ 4-2-3-1 โดยมี วิลฟรีด ซาฮา, ทอม เคลฟเวอร์ลีย์, อันแดร์สัน, เจสซี ลินการ์ด และ แอดนาน จานูซาจ คอยสนับสนุนจากแดนกลาง พร้อมมี ดาบิด เด เคอา นายด่านมือ 1 ลงเฝ้าเสาเป็นเกมแรก ขณะที่ ชินจิ คากาวะ มีชื่ออยู่บนม้านั่ง ฟากเจ้าถิ่นมี ชุนสุเกะ นากามูระ กัปตันทีมเป็นตัวทีเด็ด
       
       เริ่มเกมมาได้เพียง 30 วินาที โยโกฮามา เอฟ มารินอส ก็ทำเซอร์ไพรส์ขึ้นนำก่อน 1-0 จากจังหวะบอลยาวทางฝั่งขวาไปเสาสอง ฟาบิโอ หันหลังโหม่งพลาด บอลตกมาเข้าทาง มาร์ควินฮอส ที่ยืนอยู่แถวจุดโทษ เอี้ยวตัววอลเลย์ด้วยซ้ายไม่ต้องจับเสียบเสาเข้าไปอย่างสวยงาม แต่หลังจากนั้น น.19 “ปิศาจแดง” ก็ตามตีเสมอทันควัน เมื่อ วิลฟรีด ซาฮา กระชากบอลเข้าเขตโทษทางฝั่งขวาก่อนแปหนีตัวผู้รักษาประตู แม้กองหลังเจ้าถิ่นจะสกัดไว้ได้ก่อนข้ามเส้น แต่บอลไม่พ้นอันตรายมาเข้าทาง เจสซี ลินการ์ด ที่รออยู่ปากประตูยิงเข้าไปโล่งๆ 1-1
       
       หลังได้ประตู แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังคงเดินเกมบุกต่อเนื่อง และสร้างความปั่นป่วนได้จาก ซาฮา กับ ลินการ์ด แต่จะหวะจบยังไม่คมพอ จนกระทั่ง น.30 แอดนาน จานูซาจ เปิดบอลโค้งจากฝั่งซ้ายไปเสาสอง แต่ มาซาคาซึ ทาชิโร กองหลังเจ้าถิ่นพักบอลพลาดปลิ้นเข้าประตูไป ให้แมนฯยู นำ 2-1 ก่อนจะจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้
       
       เข้าสู่ครึ่งหลัง “ผีแดง” ส่ง แอชลีย์ ยัง ลงแทน ลินการ์ด และมาพลาดได้ประตูอย่างเหลือเชื่อจากจังหวะที่ ซาฮา เปิดครอสเข้าหาเขตโทษ แต่ อีแวนส์ ชาร์จจ่อๆ ไม่ถึง 4 หลาหลุดกรอบไป ก่อนที่จะโดน โยโกฮามา ตามตีเสมอ 2-2 ใน น.49 จากลูกเตะมุม ฮัวโด เปิดลึกไปเสาไกล และเป็น ฟาบิโอ ที่เทคตัวโหม่งโล่งๆ เต็มหัวตุงตาข่าย
       
       ครบ 1 ชั่วโมงของเกม เดวิด มอยส์ ตัดสินใจส่ง ชินจิ คากาวะ สตาร์ยุ่นลงแทน แอดนาน จานูซาจ ซึ่งช็อตนี้เรียกเสียงเฮจากแฟนเจ้าบ้านได้ลั่นสนาม ช่วงท้ายเกม น.87 โยโกฮามา จากการประสานงานกันของ จิน ฮานาโตะ ที่โชว์สเต็ปหลอกในเขตโทษ กอ่นจ่ายต่อให้ ฟูจิตะ ยิงสวนตัว เด เคอา เข้าไป ให้ โยโกฮามา เอฟ มารินอส พลิกคว้าชัยอย่างเหลือเชื่อ 3-2
       
       รายชื่อ 11 คนแรก
       แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : ดาบิด เด เคอา(ผู้รักษาประตู), ฟิล โจนส์, ฟาบิโอ ดา ซิลวา, จอห์นี อีแวนส์, ปาทริซ เอฟรา, อันแดร์สัน, ทอม เคลฟเวอร์ลีย์, เจสซี ลินการ์ด, แอดนาน จานูซาจ, วิลฟรีด ซาฮา, โรบิน ฟาน เพอร์ซี
Read More

ฟานเพอร์ซี่กร้าวแชมป์ลีกกับผีแดงแค่นี้ยังไม่พอ

โรบิน ฟาน เพอร์ซี่
โรบิน ฟาน เพอร์ซี่
โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ กองหน้าคนเก่ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รับว่าตอนนี้เขารู้สึกกระหายแชมป์มากกว่าเดิม

"อาร์วีพี" ลั่นสกอร์ให้ "เร้ด เดวิลส์" ในซีซั่นก่อนถึง 30 ลูกจากทุกรายการ และเป็นกำลังสำคัญกระชากแชมป์ลีกมาจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คู่ปรับร่วมเมืองได้สำเร็จ และตอนนี้ ฟาน เพอร์ซี่ ยืนยันว่า พร้อมที่จะล่าแชมป์ใบต่อไปแล้วในซีซั่นที่กำลังจะถึงนี้

ฟาน เพอร์ซี่กล่าวว่า "ผมยังเหลือเวลาอีกหลายปีและตอนนี่ผมอยากจะบอกว่า "ใช่ เราเป็นแชมป์ลีกและนั่นคือสิ่งที่ผมทำสำเร็จ ผมอยากเป็นแชมป์มากกว่านี้ มันทำให้ผมกระหายอยู่เสมอ ปีที่แล้วผมก็กระหายแชมป์เหมือนกัน แต่ตอนนี้ผมอยากได้มากขึ้นอีก"

"เรามีกลุ่มผู้เล่นที่สุดยอด เราอยากจะคว้าแชมป์ได้มากกว่านี้และทำให้ดีกว่าเดิม ฤดูกาลก่อนเราคว้าแชมป์ลีกมันก็เป็นเรื่องที่เยี่ยมแล้ว แต่ตอนนี้เราก็อยากคว้าแชมป์ลีกอีกและมากกว่านี้ด้วย"
Read More

ตารางคะแนนฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ฤดูกาล 2013/2014

ตารางคะแนนฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ฤดูกาล 2013/2014

<a href="http://www.football-scores-live.com/">live football scores</a>
live football scores

ตารางคะแนนฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ฤดูกาล 2012/2013
Read More

สรุปผลการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2012/2013

ปิดฉากจบฤดูกาลกันไปเป็นที่เรียบร้อยสำหรับ ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก 2012/13 ซึ่งแชมป์ในซีซั่นนี้ถูกเฉลิมฉลอง พร้อมกับอำลาของ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน แห่งค่าย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

อย่างไรก็ตาม ความเข้มข้นและต้องลุ้นกันถึงโค้งสุดท้ายคือ สิทธิ์การแข่งขัน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ซีซั่นหน้า ซึ่งทีมใดจะได้ดีใจในบั้นปลาย BUGABOO NEWS จะมาสรุปโควตาเหล่านั้นอีกครั้ง 

สิทธิ์ลงแข่งขัน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 4 ทีมฤดูกาล 2013/14
- แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (แชมป์พรีเมียร์ลีก)
- แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (รองแชมป์)
- เชลซี (อันดับ 3)
- อาร์เซน่อล

 สิทธิ์ลงแข่งขัน ยูฟ่า ยูโรป้าลีก 3 ทีมฤดูกาล 2013/14
- ทอตแน่ม ฮอทสเปอร์ (อันดับ 5)
- สวอนซี (แชมป์ แคปิตอลวันคัพ)
- วีแกน แอธเลติก (แชมป์ เอฟเอคัพ)

ทีมตกชั้นไปเล่นในลีก แชมเปี้ยนชิพ 3 ทีม
- วีแกน แอธเลติก (อันดับ 18)
- เรดดิ้ง (อันดับ 19)
- ควีนสพาร์ค เรนเจอร์ (อันดับ 20)

ทีมเลื่อนชั้น 3 ทีมเล่นใน พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2013/14 
- คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ (แชมป์ลีก แชมเปี้ยนชิพ ขึ้นชั้นอัตโนมัติ)
- ฮัลล์ ซิตี้ (รองแชมป์ลีก แชมเปี้ยนชิพ ขึ้นชั้นอัตโนมัติ)
- คริสตัล พาเลซ




Read More

ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 9 ธ.ค. 55 | แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2 - 3 แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด

"รูน" เหมา 2 ลูก
โรบิน ฟาน เพอร์ซี ศูนย์หน้าตัวเก่งของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สังหารฟรีคิกช่วงทดเจ็บ หลัง เวย์น รูนีย์ เพื่อนร่วมทีม เหมา 2 ประตูในครึ่งแรก และถูกตีเสมอโดย ยายา ตูเร และ ปาโบล ซาบาเลตา ช่วยทีมบุกพิชิต แมนเชสเตอร์ ซิตี 3-2 เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 9 ธ.ค. ที่ผ่านมา ยังคงนำเป็นจ่าฝูงของศึกพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ โดยทิ้งห่าง คู่ปรับร่วมเมือง 6 แต้ม
     
       ฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ 
       แมนฯ ซิตี 2-3 แมนฯ ยูไนเต็ด
     
       โรแบร์โต มันชินี ผู้จัดการทีม แมนฯ ซิตี ได้รับข่าวดี เมื่อ ดาบิด ซิลบา เพลย์เมกเกอร์ตัวเก่ง ผ่านการทดสอบความฟิตจากการบาดเจ็บกล้ามเนื้อแฮมสตริง (ต้นขาด้านหลัง) กลับมาขับเคลื่อนแดนกลาง ร่วมกับ ยายา ตูเร และ ซาเมียร์ นาสรี โดยมี มาริโอ บาโลเตลลี จับคู่ เซร์คิโอ อเกวโร ในแดนหน้า ขณะที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ซึ่งมีปัญหาในแนวรับ เลือกใช้บริการ ดาบิด เด เคอา เฝ้าเสา ส่วนแนวรุกยังเป็น เวย์น รูนีย์ กับ โรบิน ฟาน เพอร์ซี ซึ่ง เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือ ต้องการผลเสมอเป็นอย่างน้อย ก็จะรักษาตำแหน่งจ่าฝูงไว้ได้
     
       เสียงนกหวีดดังขึ้น การแข่งขันดุเดือดตั้งแต่ต้นเกม เนื่องจากมีการปะทะหนักตลอด 5 นาที แรก จากนั้น แมนเชสเตอร์ ซิตี ครองบอลเหนือกว่า แต่ยังไม่มีโอกาสลุ้นประตูมากนัก ขณะที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังเล่นแบบรัดกุม จนกระทั่งนาที 12 "เรือใบสีฟ้า" ทักทายก่อน เมื่อ ดาบิด ซิลบา วางบอลยาวให้ กาแอล กลิชี ทางกรอบโทษด้านซ้าย แล้วตบเข้ากลางให้ มาริโอ บาโลเตลลี ยิงเหน่งๆ ทางเสาไกล ขึ้นอัฒจันทร์ ต่อมา 4 นาที รองแชมป์เก่า ขึ้นนำ 1-0 เมื่อ แอชลีย์ ยัง พาเข้ามาจากปีกซ้าย แล้วจ่ายต่อให้ เวย์น รูนีย์ บริเวณหัวกะโหลกด้านซ้าย ก่อนล็อกเข้าใน แล้วยิงหักข้อ เบียดโคนเสาแรกตุงตาข่าย
     
       นาที 21 สถานการณ์ เจ้าถิ่น เริ่มเลวร้าย เมื่อ แว็งซ็องต์ คอมปานี กองหลังกัปตันทีม มีอาการบาดเจ็บจนถูกเปลี่ยนตัว โดยส่ง โคโล ตูเร ลงมาแทน หลังตกเป็นรอง แมนฯ ซิตี พยายามเดินหน้าบุก หวังตีเสมอ แต่ยังทำอะไรไม่ได้ ขณะที่ "ปิศาจแดง" รอโต้กลับ ก่อนโขยกหนีเป็น 2-0 ในนาที 29 อันโตนิโอ วาเลนเซีย จ่ายบอลให้ ราฟาเอล หลุดมาสุดเส้นหลังด้านขวา แล้วเปิดเรียดมาทางเสาแรกให้ "รูน" วิ่งมาอัดแปเสียบมุมเสาไกล
     
       รูปเกมยังคงเป็น ซิตี ที่ครองบอลเหนือกว่า แต่ยังทำต่อบอลขาดๆ เกินๆ เป็นส่วนใหญ่ ทำให้ ดาบิด เด เคอา นายทวาร "เรด เดวิลส์" ไม่มีภาระมากนัก ขณะที่ ยูไนเต็ด ตั้งรับอย่างเหนียวแน่น และฉวยโอกาสจากการสวนกลับ จึงไม่มีฝ่ายใดปิดสกอร์เพิ่มได้ ครบ 45 นาที ทีมเยือน นำอยู่ 2-0 
     
       ลุยต่อครึ่งหลัง พลพรรค "เดอะ ซิตีเซ็นส์" เปิดฉากรุกหนักตั้งแต่วินาทีแรก แต่มักเสียบอลบริเวณหน้ากรอบโทษของคู่แข่ง จึงทำให้ อาคันตุกะจากถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด อาศัยจังหวะฉาบฉวยสร้างความปั่นป่วนแก่แนวรับ เป็นระยะๆ จนกระทั่งนาที 57 เจ้าบ้าน มีลุ้นเมื่อ กาแอล กลิชี พาบอลมาทางกราบซ้าย ก่อนเปิดเข้ากลางมาให้ เซร์คิโอ อเกวโร ปั่นไซด์บริเวณหัวกะโหลกไม่เข้ากรอบ
     
       นาที 59 จ่าฝูง พรีเมียร์ ลีก ชวดได้ประตูที่ 3 อย่าง น่าเสียดาย เมื่อ โรบิน ฟาน เพอร์ซี สับไกจากกรอบโทษด้านขวา ติดเซฟ โจ ฮาร์ท ก่อน แอชลีย์ ยังตามซ้ำ ตุงตาข่าย แต่ไลน์แมน ยกธงล้ำหน้า
       ถัดมา 1 นาที แชมป์เก่า ตีตื้น 1-2 เมื่อ คาร์ลอส เตเบซ หลุดมาทางกรอบโทษด้านขวา ก่อนยิงติด ดาบิด เด เคอา ก่อน ดาบิด ซิลบา จะตามซ้ำ แต่ก็ยังไม่ผ่านตัว ผู้รักษาประตูชาวสเปน แต่บอลมา
       เข้าทาง เตเบซ จ่ายคืนมาให้ ยายา ตูเร แปจากระยะจุดโทษ เสียบมุมซ้ายมือของตัวเอง
     
       จากนั้นทั้งสองฝ่ายต่างเปิดหน้าแลกกันอย่างสนุก แต่ยังไม่มีฝ่ายใดทำประตูเพิ่มได้ จนกระทั่งนาที 79 ชวดตีเสมออย่างน่าเสียดาย เมื่อ ดาบิด ซิลบา หลุดมาทางกรอบโทษด้านขวา ก่อนล็อกหลบ ปาทริซ เอฟรา แล้วยิงมุมแคบติดไหล่ ดาบิด เด เคอา ช่วง 10 นาทีสุดท้าย ลูกทีมของ โรแบร์โต มันชินี ลุยแหลก และความพยายามก็มาสัมฤทธิ์ผลในนาที 86 เมื่อ ปาโบล ซาบาเลตา เก็บตกจังหวะเคลียร์ลูกเปิดมุมของ โรบิน ฟาน เพอร์ซี บริเวณหัวกะโหลกทางด้านขวา ก่อนกดเรียดเสียบมุมเสาไกลตุงตาข่าย
     
       จากนั้น ทีมจากถิ่น เอติฮัด สเตเดียม กดดันต่อเนื่อง แต่ก็ยิงเพิ่มไม่ได้ ช่วงทดเจ็บ 2 นาที สาวก "เรด อาร์มี" เฮลั่น เมื่อ โรบิน ฟาน เพอร์ซี ปั่นฟรีคิกบริเวณกรอบโทษด้านขวา แฉลบขา ซาเมียร์ นาสรี เสียบเสาสอง ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีฝ่ายใดทำประตูเพิ่มได้ ครบ 90 นาที แมนฯ ยูไนเต็ด เอาชนะอย่างสุดมัน 3-2
     
       รายชื่อ 11 ตัวจริง
     
       แมนฯ ซิตี : โจ ฮาร์ท , แว็งซ็องต์ คอมปานี , ปาโบล ซาบาเลตา , กาแอล กลิชี , มาติยา นาสตาซิช , ซาเมียร์ นาสรี , แกเร็ธ แบร์รี , ยายา ตูเร , มาริโอ บาโลเตลลี , เซร์คิโอ อเกวโร , ดาบิด ซิลบา
     
       แมนฯ ยูไนเต็ด : ดา บิด เด เคอา , ราฟาเอล , ปาทริซ เอฟรา , ริโอ เฟอร์ดินานด์ , โจนาธาน อีแวนส์ , อันโตนิโอ วาเลนเซีย , ไมเคิล คาร์ริค , แอชลีย์ ยัง , ทอม เคลฟเวอร์ลีย์ , เวย์น รูนีย์ โรบิน ฟาน เพอร์ซี
Read More

ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ

คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ

ข่าวฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ

อย่าลืมกด Like ให้ด้วยนะครับ

Blog Archive

7m, ผลบอลพรีเมียร์, วิเคราะห์บอลพรีเมียร์, ข่าวฟุตบอลพรีเมียร์, ตารางคะแนนบอลพรีเมียร์, โปรแกรมฟุตบอลพรีเมียร์, โปรแกรมถ่ายทอดสดบอลพรีเมียร์, ตารางบอล, คลิปฟุตบอล, คลิปไฮไลท์, คลิปไฮไลท์บอลพรีเมียร์, สยามกีฬา, บ้านผลบอล, เซียนสเต็ป, ล้มโต๊ะ, Goal, ดูบอลพรีเมียร์ออนไลน์, ผลบอลสด, ฟุตบอล, ผลบอลวันนี้, บอลวันนี้, ผลบอลเมื่อคืน, ผลฟุตบอล, ฟุตบอลวันนี้, โปรแกรมฟุตบอล, บอล, ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก, ตารางบอล, ข่าวฟุตบอล, คลิบฟุตบอล, เกมส์ุฟุตบอล, ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีก, ผลฟุตบอลสด, football, soccer

ข่าวสโมสรพรีเมียร์ลีกอังกฤษทั้งหมด

Man Utd (151) Liverpool (148) Chelsea (62) Tottenham (61) Arsenal (60) Man City (51) Aston Villa (45) Newcastle (45) Stoke (42) Fulham (40) Sunderland (35) Everton (33) West Brom (31) Wigan (29) Swansea (25) Bolton (24) Blackburn (23) Norwich (22) QPR (22) West Ham (18) Birmingham (10) Blackpool (10) Reading (10) Southampton (10) Cardiff City (3) Crystal Palace (2) Hull City (2)