ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 18 ส.ค. 56 | เชลซี 2 - 0 ฮัลล์ ซิตี้

ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 18 ส.ค. 56 | เชลซี 2 - 0 ฮัลล์ ซิตี้
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 18 ส.ค. 56 | เชลซี 2 - 0 ฮัลล์ ซิตี้
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 18 ส.ค. 56 | เชลซี 2 - 0 ฮัลล์ ซิตี้

ออสการ์ และ แฟรงค์ แลมพาร์ด มิดฟิลด์ต่างวัย กอดคอกันซัดคนละ 1 ประตู นำ "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี เปิดบ้านต้อน "เสือโคร่ง" ฮัลล์ ซิตี 2-0 ศึกฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ นัดเปิดฤดูกาล 2013-14 เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 18 สิงหาคมที่ผ่านมา

ผลฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ 2013-14
เชลซี 2 - 0 ฮัลล์ ซิตี

เชลซี เฝ้ารัง สแตมฟอร์ด บริดจ์ วาง จออห์น เทอร์รี และ แกรี เคฮิลล์ 2 ปราการหลังชาวอังกฤษ คุมแนวรับ ส่วนแนวรุกยังคงวางใจ เฟร์นานโด ตอร์เรส ลงล่าตาข่าย โดยมี ออสการ์ , แฟรงค์ แลมพาร์ด และ เอเดน ฮาซาร์ด ช่วยกันปั้นเกมแดนกลาง รับการมาเยือน ฮัลล์ ซิตี

เสียงนกหวีดดังขึ้นเพียง 4 นาที เชลซี พลาดโอกาสขึ้นนำอย่างน่าเสียดาย เฟร์นานโด ตอร์เรส ฉีกรับบอลวางยาวจากกลางสนาม อัลลัน แม็คเกรเกอร์ พยายามออกมาชกบอล แต่ไปโดนหน้า เฟร์นานโด ตอร์เรส ล้มลง ผู้ตัดสินชี้จุดโทษ แฟรงค์ แลมพาร์ด ซัดเต็มแรงทางซ้ายมือ แม็คเกรเกอร์ พุ่งปัดพ้นอันตราย

"สิงโตน้ำเงินคราม" เร่งเกมทันที ก่อนความพยายามมาสัมฤทธิ์ผลนาที 13 เอเดน ฮาซาร์ด ได้บอลทางริมเส้นด้านซ้าย เลี้ยงหนีตัวประกบแล้วจ่ายเข้ากลางให้ เควิน เดอ บรุน แทงทะลุช่องให้ ออสการ์ จิ้มสวน แม็คเกรเกอร์ ตุงตาข่าย ต่อมา 2 นาที ฮาซาร์ด ไหลจากขวาให้ แลมพาร์ด กดเต็มข้อบริเณหัวกะโหลกเยื้องมาทางขวา แม็คเกรเกอร์ ปัดข้ามคาน

แลมพาร์ด แก้ตัวจากการพลาดจุดโทษ
ยักษ์ใหญ่แห่งกรุงลอนดอน แทบพับสนามบุก และทิ้งห่างนาที 25 แลมพาร์ด แก้ตัวจากการพลาดจุดโทษ ด้วยการกดฟรีคิกระยะประมาณ 35 หลา บริเวณกลางประตูเยื้องมาทางซ้าย บอลติดไซด์ก้อยเสียบมุมบนขวามืออย่างสุดสวย ต่อมา "สิงห์บลูส์" ถอยมาตั้งรับและดึงเกมช้า เปิดช่อง ฮัลล์ ซิตี ขยับเกมรุกสู้แต่ก็เจาะไม่เข้า

ช่วงทดเจ็บนาทีสุดท้าย (3 นาที) แฟรงค์ แลมพาร์ด เปิดเตะมุมฝั่งซ้ายมากลางประตู บรานิสลาฟ อิวาโนวิช ทะยานโขกเต็มกบาล กระดอนหน้าอก แม็คเกรเกอร์ ก่อนปัดมาเข้าทาง อิวาโนวิช จักรยานอากาศซ้ำข้ามคาน จบครึ่งแรก เชลซี นำ 2-0

กลับมาในครึ่งหลัง เชลซี เพลาเกมลงไปเปิดโอกาสทีมเยือนได้เล่นบ้างหลังโงหัวแทบไม่ขึ้นในครึ่งแรก แต่ก็ไม่ได้เจอกับภาระหนักใจอะไรเนื่องจาก ฮัลล์ ก็ไม่มีพิษสงอะไรให้ระวังตัวมากนัก

เชลซี เล่นประคองตัวไปเรื่อยๆโดยมีการทยอยส่งตัวสำรองอย่าง อังเดร ชูร์เล่ และโรเมลู ลุคาคู ลงสนามด้วย โดย ชูร์เล่ มีโอกาสได้หลุดไปชิพบอลเดี่ยวๆด้วยแต่ข้ามคานออกไปนิดเดียว

ช่วงเวลาที่เหลือ ไม่มีฝ่ายใดทำอะไรกันได้อีก จบเกมเชลซี ชนะไปสบายๆ 2-0 ประเดิม 3 แต้มแรกในพรีเมียร์ลีกกับการกลับมาของ โจเซ่ มูรินโญ่

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, แกรี่ เคฮิลล์, จอห์น เทอร์รี่, แอชลี่ย์ โคล, รามิเรส, แฟรงค์ แลมพาร์ด, เควิน เดอ บรูย์น, เอเดน อาซาร์, เฟร์นานโด ตอร์เรส

ฮัลล์ : อัลลัน แม็คเกรเกอร์, อาเหม็ด เอลโมอามาดี้, เจมส์ เชสเตอร์, เคอร์ติส เดวิส, มายเนอร์ ฟิเกรัว, โรเบิร์ต โคเรน, เดวิด เมย์เลอร์, ร็อบบี้ เบรเดี้, โซเน่ อาลูโก้, แดนนี่ เกรแฮม, ยานนิค ซักโบ
Read More

ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 18 ส.ค. 56 | คริสตัล พาเลซ 0 - 1 สเปอร์ส

ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 18 ส.ค. 56 | คริสตัล พาเลซ 0 - 1 สเปอร์ส
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 18 ส.ค. 56 | คริสตัล พาเลซ 0 - 1 สเปอร์ส
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 18 ส.ค. 56 | คริสตัล พาเลซ 0 - 1 สเปอร์ส

โรแบร์โต โซลดาโด ศูนย์หน้าดีกรีทีมชาติสเปน สังหารจุดโทษ นำ ท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์ บุกมาเชือด คริสตัล พาเลซ 1-0 ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ นัดเปิดฤดูกาล 2013-14 เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 18 ส.ค. ที่ผ่านมา

ฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ 2013-14
คริสตัล พาเลซ 0 - 1 สเปอร์ส

ท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์ ได้ แยน แฟร์ตองเกน ปราการหลังตัวเก่ง ซึ่งบาดเจ็บช่วงปรีซีซัน กลับมาคุมแนวรับ ส่วนแนวรุกวาง โรแบร์โต โซลดาโด หัวหอกป้ายแดง ล่าตาข่าย แต่ยังขาด แกเร็ธ เบล สตาร์ประจำทีม บุกรัง เซลเฮิร์ส ปาร์ก ดวล คริสตัล พาเลซ

เสียงนกหวีดดังขึ้น ท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์ ขึงเกมบุกตั้งแต่วินาทีแรก ทว่ายังหาช่องเข้าทำไม่เจอ ก่อนทักทายนาที 8 แดนนี โรส เปิดจากซ้ายมาเสาแรก โรแบร์โต โซลดาโด วิ่งมาสะบัดศีรษะโหม่งไม่เข้ากรอบ ต่อมา 5 นาที มูซา เดมเบเล ลองสับไกระยะประมาณ 20 หลา หน้าเขตโทษด้านขวาแฉลบคานออกหลัง

สเปอร์ส ครองบอลบุกมากกว่า แต่แทบจะไม่มีช็อตหวาดเสียวเกิดขึ้นเลย เนื่องจาก คริสตัล พาเลซ แพ็กเกมรับอย่างแน่นหนา เป็นเหตุให้การผ่านบอลสุดท้ายยังไม่เข้าเป้า เข้าสู่นาที 35 กิลฟี ซิกูร์ดสสัน กลับตัวยิงบริเวณหัวกะโหลก จูเลียน สเปโรนี ปัดข้ามคาน

นาที 40 อารอน เลนนอน รับลูกจ่ายตัดหลังแบ็กทะลุเข้าเขตโทษด้านขวา แล้วเปิดเรียดให้ โซลดาโด เข้าฮอสเสาแรก แต่เบาเกินไป สเปโรนี เซฟสบาย นาทีสุดท้าย เลนนอน เปิดโด่งจากขวามาเสาสอง เนเซอร์ แชดลี โหม่งข้ามคาน จบครึ่งแรกเสมอกัน 0-0

ครึ่งหลังเปิดฉากเพียง 4 นาที สาวก "ไก่เดือยทอง" ได้เฮ เลนนอน กระชากเข้าเขตโทษมาถึงสุดเส้นหลังฝั่งขวา ก่อนเปิดเข้ากลางติดแขน ดีน ม็อกซีย์ ที่พยายามล้มตัวบล็อก ผู้ตัดสินชี้จุดโทษ โซลดาโด แปเรียดเสียบมุมซ้ายมือ

หลังตกเป็นรอง "ปราสาทเรือนแก้ว" ขยับเกมรุกสู้ ทว่ายังไม่มีโอกาสเงื้อเท้ายิงแบบจะแจ้ง และหวิดเสียเพิ่มนาที 69 คายล์ วอล์คเกอร์ พลิกหนีตัวประกบจากกลางสนามด้านขวา แล้วบรรจงเปิดเข้าเขตโทษให้ โซลดาโด ตบเข้ากลาง ซิกูร์ดสสัน แปเน้นๆ เฉี่ยวเสาซ้ายมือ

อาคันตุกะจากถิ่น ไวท์ ฮาร์ท เลน ทำเกมบุกไหลลื่นกว่า และน่าได้ประตูปิดกล่องนาที 88 เจอร์เมน เดโฟ ตัวสำรอง กระชากจากหน้าเขตโทษด้านซ้ายตัดเข้ามาถึงหัวกะโหลก แล้วยิงหักข้อเฉี่ยวเสาซ้ายมือ ต่อมา 1 นาที พาเลซ หวิดตีเสมอ เควิน ฟิลลิปส์ โหม่งชงลูกเปิดโด่งจากกราบขวาทางเสาสองมาให้ คากิโช ดิคกาชอย กดเต็มเท้า ฮูโก โยริส ล้มตัวทุบออกมาได้ จบเกม สเปอร์ส เอาชนะไป 1-0

รายชื่อ 11 ตัวจริง
พาเลซ : จูเลียน สเปโรนี , โจเอล วอร์ด , แดเนียล แก็บบิดอน , ดีน ม็อกซีย์ , ดาเมียน เดลานีย์ , คากิโช ดิคกาชอย , โอเวน การ์วาน , สตีเฟน ด็อบบี , ไมล์ เจดินัค , แอรอน วิลบราแฮม , ดไวท์ เกย์ล
สเปอร์ส : ฮูโก โยริส , คายล์ วอล์คเกอร์ , แดนนี โรส , แยน แฟร์ตองเกน , ไมเคิล ดอว์สัน , เปาลินโญ , มูซา เดมเบเล , กิลฟี ซิกูร์ดสสัน , อารอน เลนนอน , โรแบร์โต โซลดาโด , เนเซอร์ ชาดิล
Read More

คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 17 ส.ค. 56 | สวอนซี ซิตี้ 1 - 4 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 17 ส.ค. 56 | สวอนซี ซิตี้ 1 - 4 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 17 ส.ค. 56 | สวอนซี ซิตี้ 1 - 4 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 17 ส.ค. 56 | สวอนซี ซิตี้ 1 - 4 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด



ประตู
0 - 1 โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ น.34
0 - 2 แดนนี่ เวลเบ็ค น.36
0 - 3 โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ 72
1 - 3 วิลเฟร็ด โบนี่ น.82
1 - 4 แดนนี่ เวลเบ็ค
Read More

ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 17 ส.ค. 56 | สวอนซี ซิตี้ 1 - 4 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 17 ส.ค. 56 | สวอนซี ซิตี้ 1 - 4 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 17 ส.ค. 56 | สวอนซี ซิตี้ 1 - 4 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 17 ส.ค. 56 | สวอนซี ซิตี้ 1 - 4 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

โรบิน ฟาน เพอร์ซี และแดนนี เวลเบ็ค สองศูนย์หน้าระเบิดฟอร์มเหมาคนละ 2 ประตู นำ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บุกถล่ม สวอนซี ซิตี อย่างขาดลอย 4-1 นัดประเดิมสนาม ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 17 ส.ค. ที่ผ่านมา

ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีก
วันเสาร์ที่ 17 ส.ค.2556

สวอนซี ซิตี้ 1 - 4 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
สนาม: ลิเบอร์ตี้ สเตเดี้ยม
ประตู: 0-1 โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ น.34, 0-2 แดนนี่ เวลเบ็ค น.36, 0-3 โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ 72, 1-3 วิลเฟร็ด โบนี่ น.82, 1-4 แดนนี่ เวลเบ็ค

เกมส่งท้ายวันแรกของการเปิดฤดูกาลฟุตบอลพรีเมียร์ลีก 2013-14 เป็นเกมที่ลิเบอร์ตี้ สเตเดี้ยม ระหว่างทีม "หงส์ขาว" สวอนซี พบกับทีม "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยทางด้านทีมเยือนนำมาโดย โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ขณะที่เจ้าบ้านมี มิชู ยืนหัวหอกเกมนี้

นาทีที่ 7 แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ลุ้นก่อนจากจังหวะที่เปิดเกมเข้าเขตโทษแล้วโดนสกัดมา บอลมาเข้าทางฟิล โจนส์ วอลเล่ย์เต็มๆแต่ มิเชล ฟอร์ม

จากนั้นนาทีที่ 15 ทีมเยือนได้ลุ้นอีกที โดยเป็น โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ที่ได้ขึ้นโขกเหน่งๆแต่ว่าพลาดไปโขกเบาและตรงตัว ก่อนที่อีก 2 นาทีต่อมา แดนนี่ เวลเบ็ค ยิงไปติดก่อนจะมาเข้าทาง ไรอัน กิ๊กส์ ยิงซ้ำดาบสอง 6 หลาพลาดอย่างเหลือเชื่อ

เกมแลกกันสนุก สวนอซี ได้ลุ้นบ้างโดยเป็น เวย์น เราท์เลดจ์ ลากลุยเข้าเขตโทษก่อนจะพยายามดีดบอล ลูกไปติดเซฟ ดาวิด เด เคอา ก่อนที่ นาธาน ดายเออร์ พยายามจะซ้ำแต่ก็ล้ำหน้าไปตั้งแต่แรกแล้ว

นาทีที่ 23 สวอนซี ซึ่งภาพรวมเกมดูไม่เป็นรองเกือบได้ประตูแรกเหมือนกัน จากลูกโด่งในเขตโทษแมนฯ ยูไนเต็ด และกองหลังสกัดไม่ขาด มิชู เกี่ยวบอลมาเล่นได้ก่อนพลิกตัวดีดด้วยซ้ายทันที แต่ว่าเด เคอา ยังบินเซฟได้อย่างยอดเยี่ยม

ฟาน เพอร์ซี่ กระโดดลอยตัววอลเล่ย์ด้วยขวาเข้าไป เป็นประตูนำ 1 - 0
มาถึงนาทีที่ 34 แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ประตูขึ้นนำเมื่อแนวรับสวอนซี เช็คล้ำหน้าพลาด โดนกิ๊กส์ ตักบอลโด่งให้ ฟาน เพอร์ซี่ พักเอาบอลลงก่อนโชว์ลีลาดาวซัลโวพรีเมียร์ลีก กระโดดลอยตัววอลเล่ย์ด้วยขวาเข้าไป เป็นประตูนำ 1-0

ถัดมาอีก 2 นาที ผีแดงหนีเป็น 2-0 ต่อเลยโดยเป็น การเปิดของ อันโตนิโอ วาเลนเซีย จากขวาเข้ามาให้ เวลเบ็ค เข้าฮอสสบายๆ ซึ่งช่วงเวลาที่เหลือของครึ่งแรกสามารถประคองตัวรักษาสกอร์นำดังกล่าวได้

ครึ่งหลังผ่านไป 5 นาที แชมป์คาร์ลิง คัพ 2012-13 แทบพับสนามบุก ทว่าแนวรับ “ปีศาจแดง” ยังช่วยกันต้านทานไว้ได้ จนเกือบโขยกหนีนาที 60 ฟาน เพอร์ซี หลุดเดี่ยวมาทางเขตโทษด้านขวา ก่อนดีดไซด์ก้อยหลุดเสาไกลอย่างน่าเสียดาย

เข้าสู่นาที 62 เดวิด มอยส์ ตัดสินใจส่ง เวย์น รูนีย์ ดาวยิงตัวเก่ง ลงสนามแทน ไรอัน กิ๊กส์ อย่างไรก็ตาม “หงส์ขาว” ยังคงเดินหน้าบุกอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยิงทิ้งยิงขว้างไปเสียหมด และเกือบเสียเพิ่มนาที 70 "อาร์วีพี" เปิดเตะมุมฝั่งขวาโค้งมาเข้าหัว เอฟรา โขกกดลงพื้น โฆเซ คานาส สกัดบนเส้น

ต่อมา 2 นาที แชมป์ลีกสูงสุด 20 สมัย ขยับสกอร์ 3-0 ฟาน เพอร์ซี เลี้ยงจี้หา แอชลีย์ วิลเลียมส์ เข้ามาหน้าเขตโทษ ก่อนล็อกเข้าซ้าย แล้วตะบันเต็มหลังเท้าเสยเพดานตาข่ายอย่างสุดสวย ในเกมที่ผลัดกันรุกและรับ ทีมจากเวลส์ ตีไข่แตกนาที 82 เวลเบ็ค พลาดเสียบอลหน้าเขตโทษ ทำให้ ปาโบล ฉกบอลจ่ายต่อให้ วิลเฟร็ด โบนี ซัดเสียบมุมขวามือ

ช่วงทดเจ็บ ทีมของ เดวิด มอยส์ ได้ประตูตอกฝาโลง เวย์น รูนีย์ แผลงฤทธิ์ พลิกหนีตัวประกบจ่ายทะลุช่องให้ เวลเบ็ค หลุดมาทางเขตโทษด้านขวา แล้วบรรจงชิปข้ามหัว ฟอร์ม เข้าเสาไกลอย่างเหนือชั้น ครบ 90 นาที แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เอาชนะไป 4-1

รายชื่อผู้เล่น 11 ตัวจริง
สวอนซี ซิตี้ : มิเชล ฟอร์ม, ชิโก, แอชลีย์ วิลเลียมส์, อังเคล แรนเกล, เบน เดวีส, ลีออน บริตตัน, จอนโจ เชลวีย์, นาธาน ดายเออร์, เวย์น เราเลดจ์, โฆเซ รุยซ์ เฮร์รารา คานาส, มิชู

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : ดาบิด เด เคอา, ปาทริซ เอฟรา, ฟิล โจนส์, ริโอ เฟอร์ดินานด์, เนมันยา วิดิช, ไรอัน กิ๊กส์, ไมเคิล คาร์ริก, แดนนี เวลเบ็ค, ทอม เคลเวอร์ลีย์, อันโตนิโอ วาเลนเซีย, โรบิน ฟาน เพอร์ซี

ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 
นัดเปิดฤดูกาล 2013-14 
วันเสาร์ที่ 17 สิงหาคม คู่อื่นๆ

นอริช 2 - 2 เอฟเวอร์ตัน
1 - 0 สตีเวน วิทเทเกอร์ น.51
1 - 1 รอสส์ บาร์กลีย์
1 - 2 ซีมุส โคลแมน น.65
2 - 2 ริคกี ฟาน โวล์ฟสวิงเคล น.71

ซันเดอร์แลนด์ 0 - 1 ฟูแลม
0 - 1 ปาจ์ติม คาซามี น.52


เวสต์บรอมฯ 0 - 1 เซาแธมป์ตัน
0 - 1 ริคกี แลมเบิร์ต น.90


เวสต์แฮม 2 - 0 คาร์ดิฟฟ์
1 - 0 โจ โคล น.13
2 - 0 เควิน โนแลน น.76
Read More

คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 17 ส.ค. 56 | อาร์เซนอล 1 - 3 แอสตัน วิลล่า

คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 17 ส.ค. 56 | อาร์เซนอล 1 - 3 แอสตัน วิลล่า
คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 17 ส.ค. 56 | อาร์เซนอล 1 - 3 แอสตัน วิลล่า
คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 17 ส.ค. 56 | อาร์เซนอล 1 - 3 แอสตัน วิลล่า



ประตู
1 - 0 Olivier Giroud 6'
1 - 1 Christian Benteke 22′
1 - 2 (pen.) Christian Benteke 62′
1 - 3 Antonio Luna 85′
Read More

ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 17 ส.ค. 56 | อาร์เซนอล 1 - 3 แอสตัน วิลล่า

ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 17 ส.ค. 56 | อาร์เซนอล 1 - 3 แอสตัน วิลล่า
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 17 ส.ค. 56 | อาร์เซนอล 1 - 3 แอสตัน วิลล่า
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 17 ส.ค. 56 | อาร์เซนอล 1 - 3 แอสตัน วิลล่า

ทีม "ปืนใหญ่" อาร์เซนอล ประเดิมฤดูกาลใหม่ด้วยน้ำตาเมื่อโดน "สิงห์ผยอง" แอสตัน วิลล่า บุกมาถล่มคาเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม 3-1

ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก
วันเสาร์ที่ 17 ส.ค. 2556

อาร์เซนอล 1 - 3 แอสตัน วิลล่า
สนาม: เอมิเรตส์ สเตเดียม
ประตู: 1-0 โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ น.6, 1-1 คริสเตียน เบนเตเก้ น.22, 1-2 คริสเตียน เบนเตเก้ น.62, 1-3 อันโตนิโอ ลูน่า น.85

อาร์เซนอล จัดแนวรุกชุดใหญ่ลงสนามแบบเต็มสูบ นำโดย แจ็ค วิลเชียร์ , ธีโอ วัลคอตต์ และ โอลิวิเยร์ ชีรูด์ เปิดสนามเอมิเรตส์ สเตเดียม รับการมาเยือน แอสตัน วิลลา ซึ่งฝากความหวังปิดสกอร์ไว้กับ คริสเตียน เบนเทเก ศูนย์หน้าชาวเบลเจียน

เสียงนกหวีดดังขึ้นเพียง 6 นาที อาร์เซนอล ขึ้นนำอย่างรวดเร็ว อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน หลุดมาทางริมเส้นฝั่งซ้าย ก่อนตัดเข้าเขตโทษ แล้วดีดไซด์ก้อยมาเสาแรกให้ โอลิวิเยร์ ชีรูด์ ฮาล์ฟวอลเลย์ตามน้ำผ่าน แบรด คูซาน ซุกก้นตาข่ายเสาไกล จากนั้นรูปเกม แอสตัน วิลลา ดีขึ้นตามลำดับจนเริ่มสูสี แต่การผ่านบอลสุดท้ายยังไม่เข้าเป้า

เข้าสู่นาที 22 ทีมเยือน ตีเสมอสำเร็จ กาเบรียล อักบอนลาฮอร์ หลุดเดี่ยวเข้ากรอบ 18 หลา ก่อนถูก วอยจ์เซียซ เซสนีย์ รวบล้มลง ผู็ตัดสินเป่าจุดโทษ คริสเตียน เบนเทเก ยิงกลางประตูติดเซฟ เซสนีย์ แล้วตามโหม่งซ้ำตุงตาข่าย

ในช่วงที่เหลือของครึ่งแรกเกมไม่ค่อยมีอะไรมากนัก จะมีแค่จังหวะปะทะหนักๆของทั้งสองทีมทำให้มีปัญหากัน โดยในช่วงครึ่งแรกวิลล่า เสียนาธาน เบเกอร์ ที่เจ็บ ขณะที่อาร์เซนอล ต้องเปลี่ยนเอา คาร์ล เจนกินสัน ลงมาแทนคีแรน กิ๊บบ์ส เช่นกัน ครึ่งแรกจึงจบลงด้วยการเสมอกันแบบเจ็บตัวอยู่

กลับมาลงสนามใหม่ในครึ่งหลัง อาร์แซน เวนเกอร์ ถอดแชมเบอร์เลน ออกแล้วให้ ซานติ กาซอร์ล่า ลงสนามบ้าง และมีโอกาสจะยิงนำอีกครั้งเมื่อ ชิรูด์ ทำชิ่งกับโรซิคกี้ แต่ยิงข้ามคานออกไปอย่างน่าเสียดาย

เข้าสู่นาที 61 ยักษ์ใหญ่แห่งกรุงลอนดอน เสียจุดโทษหน 2 จากความผิดพลาดบริเวณกลางสนาม อักบอนลาฮอร์ ตัดบอลควบเข้าเขตโทษ แล้วถูก โลร็องต์ คอสเซียลนี พุ่งเสียบล้มลง แถมรับใบเหลือง คริสเตียน เบนเทเก แปเรียดเสียบมุมซ้ายมือ

ต่อมา 6 นาที สถานการณ์ "ปืนใหญ่" เลวร้ายหนัก เมื่อต้องเหลือผู้เล่นเพียง 10 คน เนื่องจาก คอสเซียลนี เอาตัวขวาง เบนเทเก ที่กำลังกระชากบอลหนี รับใบเหลืองที่ 2 เป็นใบแดง จากนั้นนาที 72 ทีมของ อาร์แซน เวนเกอร์ ที่เดินหน้าลุยแบบไม่คิดชีวิต น่าตีเสมอแบบสุดๆ โทมัส โรซิคกี ทำชิ่งกับ ชีรูด์ หลุดเข้าเขตโทษ ก่อนยิงติดเซฟ คูซาน

สถานการณ์ของ อาร์เซนอล หนักยิ่งกว่าเดิมเมื่อกอสเซียลนี่ ไปทำฟาวล์เบนเตเก้ โดนใบเหลืองที่ 2 เป็นใบแดงไล่ออกจากสนามทันที

กันเนอร์ส พยายามจะตีโต้โดย ชิรูด์ ทำชิ่งให้ โรซิคกี้ ได้ยิงแต่ว่า แบร๊ด กูซาน เซฟได้อีกครั้ง ก่อนที่ วิลล่า จะมาได้ประตูฝัง 3-1 จาก อันโตนิโอ ลูน่า ที่ได้หลุดเดี่ยวและยิงเข้าไปก่อนหมดเวลา 5 นาที

รายชื่อ 11 ตัวจริง
อาร์เซนอล : วอยจ์เซียซ เซสนีย์ , บาการี ซาญา , แพร์ แมร์เตซัคเกอร์ , โลร็องต์ คอสเซียลนี , คีแรน กิ๊บบ์ส , คาร์ล เจนกินสัน , โทมัส โรซิคกี , แจ็ค วิลเชียร์ , ธีโอ วัลคอตต์ , อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน , แอรอน แรมซีย์ , โอลิวิเยร์ ชีรูด์
แอสตัน วิลลา : แบรด คูซาน , นาธาน เบเกอร์ , รอน ฟลาร์ , อันโตนิโอ ลูนา , แม็ทธิว โลว์ตัน , คาริม เอล อาห์มาดี , แอชลีย์ เวสต์วูด , ฟาเบียน เดลฟ์ , อันเดรียส ไวมันน์ , กาเบรียล อักบอนลาฮอร์ , คริสเตียน เบนเทเก
Read More

คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 17 ส.ค. 56 | ลิเวอร์พูล 1 - 0 สโต๊ค ซิตี้

คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 17 ส.ค. 56 | ลิเวอร์พูล 1 - 0 สโต๊ค ซิตี้
คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 17 ส.ค. 56 | ลิเวอร์พูล 1 - 0 สโต๊ค ซิตี้
คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 17 ส.ค. 56 | ลิเวอร์พูล 1 - 0 สโต๊ค ซิตี้



ประตู
1 - 0 ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ น.37
Read More

ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 17 ส.ค. 56 | ลิเวอร์พูล 1 - 0 สโต๊ค ซิตี้

ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 17 ส.ค. 56 | ลิเวอร์พูล 1 - 0 สโต๊ค ซิตี้
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 17 ส.ค. 56 | ลิเวอร์พูล 1 - 0 สโต๊ค ซิตี้
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 17 ส.ค. 56 | ลิเวอร์พูล 1 - 0 สโต๊ค ซิตี้

ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ ทำประตูสุดสวยเป็นลูกโทน ขณะที่ ซิมง มิโญเลต์ ขโมยซีนฮีโร่เซฟจุดโทษท้ายเกมช่วยให้ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล เฉือนเอาชนะ "ช่างปั้นหม้อ" สโต๊ค ซิตี้ ลงได้อย่างหวุดหวิด 1-0 คว้า 3 แต้มแรกของพรีเมียร์ลีกได้สำเร็จ

ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก
วันเสาร์ที่ 17 ส.ค. 2556

ลิเวอร์พูล 1 - 0 สโต๊ค ซิตี้
สนาม: แอนฟิลด์
ประตู: 1-0 ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ น.37

ลิเวอร์พูล ยังคงขาด หลุยส์ ซัวเรซ ดาวยิงตัวเก่ง ที่ยังติดโทษแบนอีก 6 นัด ต่อเนื่องมาจากฤดูกาล 2012-13 แม้จะกลับมาซ้อมกับทีมชุดใหญ่ก็ตาม ทว่ายังได้ แดเนียล สเตอร์ริดจ์ ฟิตจากการบาดเจ็บข้อเท้ากลับมารับมือ สโต๊ค ซิตี นำโดย มาร์ค ฮิวจ์ส กุนซือป้ายแดงชาวเวลส์ และ ปีเตอร์ เคราช์ หัวหอกร่างโย่ง ทะลวงตาข่ายอดีตต้นสังกัด

เสียงนกหวีดดังขึ้น ลิเวอร์พูล เปิดฉากลุยตั้งแต่วินาทีแรก แต่หวิดโดนก่อนนาที 8 จากความผิดพลาดของ ซิมง มิโญเลต์ ผู้รักษาประตู ตัดบอลเปิดจากกราบขวาทางเสาสองพลาด ทำให้ ปีเตอร์ เคราช์ โหม่งตั้งให้ โรเบิร์ต ฮูธ ดีดเต็มแรงชนคาน ต่อมา 2 นาที กองเชียร์ เจ้าถิ่น เฮเก้อ สตีเวน เจอร์ราร์ด เปิดฟรีคิกมุมเขตโทษด้านขวามาให้ แดเนียล สเตอร์ริดจ์ โขกตุงตาข่าย ไลน์แมนยกธงล้ำหน้า

เข้าสู่นาที 13 "หงส์แดง" ได้เสียว สตีเวน เจอร์ราร์ด เปิดเตะมุมฝั่งขวามาเสาแรก โคโล ตูเร เทคตัวโหม่งชนคาน ถัดมานาที 29 ฟิลิปเป คูตินโญ ได้บอลฝั่งซ้าย แล้วไหลมาให้ ยาโก อาสปาส จ่ายทะลุช่องให้ โฆเซ เอ็นริเก หลุดมาทางเขตโทษด้านซ้าย ก่อนยิงหลุดเสาไกลอย่างน่าเสียดาย

ถัดมายังเป็นคิวเจ้าบ้านที่ดาหน้าแหลก โดย คูตินโญ่ ไหลให้ ยาโก้ อัสปาส ได้ยิงโอกาสยิงเหน่งๆแต่ว่า เบโกวิช ยังเซฟได้อีก ต่อด้วยโอกสทำชิ่งสุดสวยระหว่าง เอ็นริเก้ และอัสกาส ก่อนที่ เอ็นริเก้ จะหลุดไปยิงเผาขนแต่ก็ไม่ผ่าน เบโกวิช ตามเคย

นาทีที่ 34 เจ้าบ้านน่าจะได้ประตูขึ้นนำอย่างที่สุดจากจังหวะที่ คูตินโญ่ ได้บอลระยะ 25 หลาจากประตูก่อนจะแทงทะลุช่องให้กับ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน หลุดเดี่ยวเข้าเขตโทษแต่กลับยิงไม่ผ่าน อัสเมียร์ เบโกวิช ที่ออกมาบล็อกได้ทันเวลา

หงส์แดงไม่ท้อเดินหน้านวดต่อ และในที่สุดก็มาได้ประตูขึ้นนำในนาทที่ 38 จากจังหวะการต่อบอลขึ้นมาเป็นเซ็ตๆและมาจบที่ สเตอร์ริดจ์ ซึ่งได้ง้างเท้าจากระยะ 22 หลา ยิงลอดขา โรเบิร์ต ฮูธ ก่อนพุ่งเสียบมุมอย่างสวยงาม

ครึ่งหลังเปิดฉากมาเพียง 2 นาที "เดอะ เรดส์" หวิดทิ้งห่าง คูตินโญ กระชากเข้ามาทางเขตโทษด้านซ้าย แล้วบรรจงแปเล่นทางเฉี่ยวเสาไกล ต่อมานาที 53 คูตินโญ ลากจี้เข้ามาทางเขตโทษด้านซ้าย แล้วผ่านเรียดให้ สเตอร์ริดจ์ ยิงแป็ก หลุดมาถึง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ปั่นไซด์โป้งด้วยซ้าย อัสเมียร์ เบโกวิช พุ่งปัดได้

เจ้าบ้าน ยังทำเกมรุกไหลลื่นกว่า นาที 60 คูตินโญ จ่ายทะลุช่องให้ สเตอร์ริดจ์ สปีดหนีตัวประกบเข้าเขตโทษด้านซ้าย ก่อนยิงมุมแคบ เบโกวิช ปัดออกหลัง ต่อมา 4 นาที อาสปาส กระชากเข้ามาทางเขตโทษด้านขวา แล้วไหลย้อนมาให้ เฮนเดอร์สัน แปเน้นๆ ติดไซด์โป้งชนเสาซ้ายมือ

ทีมเยือนพยายามเปลี่ยนเกมโดยส่ง ชาร์ลี อดัม และเจอร์เมน เพนแนนท์ ซึ่งเป็นอดีต 2 นักเตะลิเวอร์พูล ลงสนามขณะที่เจ้าบ้านถอด ยาโก้ อัสปาส ออกและส่ง ราฮีม สเตอร์ลิง ลงมาในช่วง 20 นาทีสุดท้าย

จัวหวะเซฟจุดโทษ
ช่วง 15 นาทีสุดท้าย สโต๊ค เป็นฝ่ายลำเลียงบอลขึ้นมาได้มากขึ้นแต่ยังหาช่องเจาะเหมาะๆไม่ได้ จนกระทั่งมาถึงช่วงก่อนหมดเวลา 2 นาที สโต๊ค มาได้จุดโทษในจังหวะที่ แอกเกอร์ ไปทำแฮนด์บอล ผู้ตัดสินเป่าจุดโทษ โจนาธาน วอลเตอร์ส ยิงไม่ผ่านมือ ซิมง มิโญเลต์ ที่ทิ้งตัวไปทางด้านขวา ครบ 90 นาที ลิเวอร์พูล ชนะ 1-0 เก็บ 3 คะแนน นัดเปิดฤดูกาล





รายชื่อ 11 ตัวจริง
ลิเวอร์พูล : ซิมง มิโญเลต์ , เกล็น จอห์นสัน , โฆเซ เอ็นริเก , โคโล ตูเร , แดเนียล แอ็กเกอร์ , สตีเวน เจอร์ราร์ด , จอร์แดน เฮนเดอร์สัน , ลูคัส , ยาโก อาสปาส , ฟิลิปเป คูตินโญ , แดเนียล สเตอร์ริดจ์
สโต๊ค ซิตี้ : อัสเมียร์ เบโกวิช , เอริก ปีเตอร์ส , โรเบิร์ต ฮูธ , ไรอัน ชอว์ครอสส์ , เจฟฟ์ คาเมรอน , เกล็นน์ วีแลน , วิลสัน ปสลาซิออส , สตีเวน เอ็นซองซี , โจนาธาน วอลเตอร์ส , ปีเตอร์ เคราช์
Read More

"ร็อดเจอร์ส" ตอก "ซัวเรซ" มั่ว สัญญาตอนไหน

เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กุนซือ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ออกโรงตอบโต้ หลุยส์ ซัวเรซ ดาวยิงทีมชาติอุรุกวัย ด้วยการยืนยันหนักแน่นว่าไม่มีสัญญาอะไรทั้งสิ้นเกี่ยวกับข้อแม้ในการย้ายทีม ชี้ทุกอย่างอยู่ภายใต้การตัดสินใจของสโมสร

ซัวเรซ ถูกสั่งให้แยกซ้อมจากทีมชุดใหญ่ หลังจากเรื่องย้ายสังกัดยังคาราคาซังและมีการปะทะสงครามน้ำลายชุดใหญ่ โดยหอกวัย 26 ปีออกมาอ้างว่า ลิเวอร์พูล ผิดสัญญาไม่ยอมปล่อยให้เปลี่ยนสีเสื้อช่วงซัมเมอร์นี้ เพราะตามที่ตกลงกันไว้คืออยู่ช่วยทีม 1 ฤดูกาลหากไม่ประสบความสำเร็จไปลุยศึก ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก ก็จะไม่รั้งไว้ รวมถึงอีกหนึ่งเงื่อนไขคือถ้ามีข้อเสนอเกิน 40 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,920 ล้านบาท) จะต้องไฟเขียวให้เจรจาและย้ายออกไป ซึ่งคาดว่ามาจาก อาร์เซนอล ทีมเดียวเท่านั้น

ร้อนถึง ร็อดเจอร์ส นายใหญ่ ลิเวอร์พูล ต้องแจกแจงทำความเข้าใจใหม่ "ไม่มีการทำสัญญา ไม่มีอย่างเด็ดขาด รวมถึงไม่มีการผิดสัญญาด้วย ลิเวอร์พูล และตัวแทนของ ซัวเรซ ได้มีการเจรจากันหลายต่อหลายครั้งและนักเตะก็รู้สถานการณ์ของตนเองเป็นอย่างดี ผมคุยและย้ำอย่างชัดเจนไปแล้ว รวมถึงต้องเคารพสโมสร เพราะว่าเรามีประวัติศาสตร์อันยาวนาน เป็นหนึ่งในทีมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก รวมถึงได้ให้ทุกอย่างที่ผู้เล่นต้องการ ส่วนตัวแล้วไม่เชื่อว่ามีเงื่อนไขที่บอกสามารถย้ายได้ด้วยค่าตัวเท่านั้นเท่านี้ระบุอยู่"

ล่าสุด ซัวเรซ ไม่ได้ลงเล่นเกมอุ่นเครื่องที่ ลิเวอร์พูล บุกถล่ม วาเลเรนกา 4-1 เมื่อวันพุธที่ 7 สิงหาคมที่ผ่านมา จากนี้จะต้องพบ กลาสโกว์ เซลติก วันเสาร์ที่ 10 ส.ค.ก่อนจะเปิดฤดูกาลใหม่ พรีเมียร์ ลีก รับมือ สโต๊ค ซิตี วันที่ 17 ส.ค.
Read More

คลิปไฮไลท์ฟุตบอลอุ่นเครื่อง อินเตอร์เนชันแนล แชมเปียน คัพ | รีล มาดริด 3 - 1 เชลซี

คลิปไฮไลท์ฟุตบอลอุ่นเครื่อง อินเตอร์เนชันแนล แชมเปียน คัพ | รีล มาดริด 3 - 1 เชลซี
คลิปไฮไลท์ฟุตบอลอุ่นเครื่อง อินเตอร์เนชันแนล แชมเปียน คัพ | รีล มาดริด 3 - 1 เชลซี



ประตู
1 - 0 Marcelo 14'
1 - 1 Ramires 16′
2 - 1 C. Ronaldo 31'
3 - 1 C. Ronaldo 56'
Read More

ผลฟุตบอลอุ่นเครื่อง อินเตอร์เนชันแนล แชมเปียน คัพ | รีล มาดริด 3 - 1 เชลซี


คริสเตียโน โรนัลโด ปีกชาวโปรตุกีส โชว์ฟอร์มเก่งเหมาคนเดียว 2 ประตู พา รีล มาดริด ไล่อัด เชลซี ในยุคของ โชเซ มูรินโญ 3-1 คว้าแชมป์ฟุตบอลอุ่นเครื่อง รายการ "อินเตอร์เนชันแนล แชมเปียน คัพ" ที่เมืองมะกัน เมื่อช่วงสายของวันพฤหัสบดีที่ 8 ส.ค.


ฟุตบอล อุ่นเครื่อง รายการ "อินเตอร์เนชันแนล แชมเปียน คัพ"
รีล มาดริด 3-1- เชลซี


ออกสตาร์ทเพียง 2 นาที คาริม เบนเซมา หลุดมาทางซ้ายก่อนกดด้วยซ้ายกะเล่นเสาแรก ปีเตอร์ เช็ก ล้มตัวปัดทิ้งไปได้ เข้าสู่นาที 14 มาเซโล พาบอลลากเข้ากรอบโทษและยิงเรียดลอดขา แกรี เคฮิลล์ เข้าทางเสาไกล ให้ มาดริด ออกนำ 1-0 หลังเสียประตูเพียง 2 นาที บอลชิ่งเร็วทะลุจาก ลูคาคู มาให้ รามิเรส ชิปข้ามตัว อิเกร์ คาซึยาส เข้าซุกตาข่ายอย่างเหนือชัน เชลซี ไล่ตามมาเป็น 1-1

นาที 26 จากบอลทุ่มเร็ว มาที่ แฟรงค์ แลมพาร์ด หนุนตัวยิงด้วยขวาบอลพุ่งหาเสาแรก กาซึยาส รับกระฉอก ลูคาคู จะตามซ้ำแต่ รามอส ตามมาบังไว้ได้ ผ่านครึ่งชั่วโมงของเกม มาดริด ได้ฟรีคิดระยะ 25 หลา และเป็น โรนัลโด รับหน้าที่สังหารบอลพุ่งเสียบคานชนิดที่ เช็ก หมดสิทธิ์เซฟขยับออกนำ 2-1 ช่วงที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม "ชุดขาว" นำด้วยสกอร์นี้

กลับมาครึ่งหลัง เชลซี ทักทายตั้งแต่นาทีแรก ฮาซาร์ด โยกตัดเข้าในก่อนกดบอลพุ่งน่ากลัวแต่ กาซึยาส ไม่พลาดทุบทิ้งออกไปหวุดหวิด นาที 52 บอลตามช่องจาก รามิเรส ให้ ฮาซาร์ด หลุดเดี่ยวยิงลอดตัว กาซึยาส แล้วแต่ยังตามไปคว้าได้ทัน แต่แล้วนาที 57 เป็น มาดริด ที่ขยับหนีเป็น 3-1 อิสโก เปิดโค้งให้ โรนัลโด โฉบโหม่งตุงตาข่าย

เข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้าย มาดริด ยังสามารถครองบอลบุกได้มากกว่า นาที 86 อังเคล ดิ มาเรีย ประสานงานกับ อัลวาโร โมราตา สองตัวสำรองของ "ชุดขาว" ประสานงานกันก่อนเป็นปีกชาวอาเจนไตน์กดด้วยซ้ายบอลเหินคานนิดเดียว ช่วงทดเจ็บ มาดริด อาศับการครองบอลที่เหนียวแน่น และน่าจะได้ประตูย้ำชัยจาก โมราตา แต่ไลน์แมนยกธงล้ำหน้าก่อน จบเกมเอา มาดริด เอาชนะไป 3-1 คว้าแชมป์เอาฤกษ์เอาชัยก่อนเปิดฤดูกาล

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
รีล มาดริด : อิเคร์ กาซึยาส, เซร์คิโอ รามอส, เปเป, อัลวาโร อาเบลัว, มาร์เซโล, ซาบี เคห์ดิรา, เมซุต โอซิล, ลูกา โมดริช, อิสโก, คริสเตียโน โรนัลโด,คาริม เบนเซมา
เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, แกรี เคฮิลล์, จอห์น เทอร์รี, แอชลีย์ โคล, แฟรงค์ แลมพาร์ด, มาร์โก ฟาน กิงเคล, ออสการ์, รามิเรส, เอเดน ฮาซาร์ด, โรเมลู ลูคาคู
Read More

ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ

คลิปไฮไลท์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ

ข่าวฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ

อย่าลืมกด Like ให้ด้วยนะครับ

Blog Archive

7m, ผลบอลพรีเมียร์, วิเคราะห์บอลพรีเมียร์, ข่าวฟุตบอลพรีเมียร์, ตารางคะแนนบอลพรีเมียร์, โปรแกรมฟุตบอลพรีเมียร์, โปรแกรมถ่ายทอดสดบอลพรีเมียร์, ตารางบอล, คลิปฟุตบอล, คลิปไฮไลท์, คลิปไฮไลท์บอลพรีเมียร์, สยามกีฬา, บ้านผลบอล, เซียนสเต็ป, ล้มโต๊ะ, Goal, ดูบอลพรีเมียร์ออนไลน์, ผลบอลสด, ฟุตบอล, ผลบอลวันนี้, บอลวันนี้, ผลบอลเมื่อคืน, ผลฟุตบอล, ฟุตบอลวันนี้, โปรแกรมฟุตบอล, บอล, ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก, ตารางบอล, ข่าวฟุตบอล, คลิบฟุตบอล, เกมส์ุฟุตบอล, ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีก, ผลฟุตบอลสด, football, soccer

ข่าวสโมสรพรีเมียร์ลีกอังกฤษทั้งหมด

Man Utd (151) Liverpool (148) Chelsea (62) Tottenham (61) Arsenal (60) Man City (51) Aston Villa (45) Newcastle (45) Stoke (42) Fulham (40) Sunderland (35) Everton (33) West Brom (31) Wigan (29) Swansea (25) Bolton (24) Blackburn (23) Norwich (22) QPR (22) West Ham (18) Birmingham (10) Blackpool (10) Reading (10) Southampton (10) Cardiff City (3) Crystal Palace (2) Hull City (2)