10 สุดยอดเซ็นเตอร์แบ็กดีที่สุดในยุคปัจจุบัน
10. แดเนียล แอกเกอร์ (ลิเวอร์พูล)
|
แดเนียล แอกเกอร์ |
แดเนียล แอกเกอร์ คือว่าที่รองกัปตันทีมคนใหม่ของลิเวอร์พูล ซึ่งจากประสบการณ์ของเขานั้นจัดว่าโชกโชน ในระดับชาติการได้เป็นกัปตันทีมชาติเดนมาร์ก คือเครื่องวัดคุณภาพของเขาได้เป็นอย่างดี
จุดเด่นของแอกเกอร์คือ การเติมเกมรุกที่ทรงประสิทธิภาพ ลูกยิงด้วยเท้าซ้ายของเขาจัดว่าอันตรายและหวังผลได้เสมอ นอกจากนั้น ยังมีความเป็นผู้นำเต็มเปี่ยม เรียกได้ว่าถึงลิเวอร์พูลจะไม่ประสบความสำเร็จในซีซั่นที่ผ่านมาแต่ระดับฝีเท้าของแอกเกอร์ต้องติดท็อปเท็นของโลกอย่างไม่ต้องสงสัย
9. ริโอ เฟอร์ดินานด์ (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)
|
ริโอ เฟอร์ดินานด์ |
ถึงแม้ ริโอ จะมีอายุอานามพอสมควรแล้ว แต่ผลงานของเขากับทีมปิศาจแดงในซีซั่นที่ผ่านมา ยังจัดว่าเชื่อถือได้อยู่ ไม่ใช่แค่พาแมนฯยูไนเต็ดคว้าแชมป์ลีกได้สำเร็จแล้ว เฟอร์ดินานด์ ยังติดทีมออลสตาร์ของพรีเมียร์ลีกอีกต่างหาก โดยคว้าตัวจริงในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็ก ซึ่งแสดงให้เห็นว่า เขายังคงเป็นที่พึ่งของทีมได้เสมอ
ในซีซั่นหน้า ถึงแม้แมนฯยูไนเต็ดจะมีกองหลังหลายรายทั้ง ฟิล โจนส์,คริส สมอลลิ่ง หรือจอนนี่ อีแวนส์ แต่ก็เชื่อว่าริโอ น่าจะยังคงเป็นเสาหลักของทีมต่อไปอีกระยะหนึ่ง
8. แยน แฟร์ทองเก้น (สเปอร์ส)
|
แยน แฟร์ทองเก้น |
ในขวบปีที่ผ่านมา ชื่อเสียงของแยน แฟร์ทองเก้น โด่งดังไปทั่วยุโรป จากการเล่นอันโดดเด่นของเขากับทอตแน่ม ฮอตสเปอร์ส
แฟร์ทองเก้นมีความยืดหยุ่นได้ดีมาก เพราะเล่นได้ดีทั้งแบ็กซ้าย และเซ็นเตอร์แบ็ก การซื้อตัวมาจากอาแจ๊กซ์ในราคาแค่ 10 ล้านปอนด์ กลายเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าเหลือเชื่อ
จนถึงเวลานี้ ผลงานมาสเตอร์พีซของอันเดร วิลลาส-โบอาส นอกเหนือจากการรั้งแกเร็ธ เบลไว้ได้ ก็คือการรั้งนักเตะอย่างแฟร์ทองเก้นต่อไปในซีซั่นหน้าได้อีกรายนี่ล่ะ
7. มัทส์ ฮุมเมิลส์ (โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์)
|
มัทส์ ฮุมเมิลส์ |
มัทส์ ฮุมเมิลส์ กลายเป็นนักเตะที่เนื้อหอมสุดๆทันที หลังจากช่วยพาโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์คว้าแชมป์บุนเดสลีกาได้สำเร็จในซีซั่นก่อน นอกจากนั้นยังสามารถยึดตำแหน่งตัวจริงทีมชาติเยอรมันได้อย่างสง่างาม ซึ่งจากฝีเท้าของเขาก็ไม่แปลกใจเลยว่าทำไม่โยอาคิม เลิฟถึงไว้ใจให้เป็นตัวจริงทั้งๆที่อายุยังน้อย
ฮุมเมิลส์ เป็นผุ้เล่นที่เล่นได้อย่างชาญฉลาดมาก จุดเด่นของเขาคือเหนียวแน่นมากๆในการดวลกับคู่แข่งแบบตัวต่อตัว สังเกตดีๆว่าต่อให้คู่แข่งเร็วแค่ไหน ก็เลี้ยงไม่ผ่านเขา
นี่คืออนาคตอีกยาวไกลของทีมชาติเยอรมัน รวมทั้งของดอร์ทมุนด์ด้วยที่ต้องทำทุกอย่างเพื่อรั้งฮุมเมิลส์ให้อยู่กับทีมต่อไปให้ได้
6. เซร์คิโอ รามอส (เรอัล มาดริด)
|
เซร์คิโอ รามอส |
เซร์คิโอ รามอส อาจมีชื่อเสียงไม่ค่อยดีนักนอกสนาม ทุกคนรู้ว่าเขาชอบใช้อิทธิพลในการกดดันผู้เล่น หรือสตาฟฟ์ที่เขาไม่ค่อยชอบใจ
แต่ถ้าวัดกันที่ฝีเท้าเพียวๆ เขาแทบไม่เป็นรองใครทั้งนั้นบนโลกใบนี้ ช่วงแรกๆเขาเริ่มต้นด้วยการเล่นในตำแหน่งแบ็กขวาก่อนตั้งแต่อยู่กับเซบีย่า แต่ในช่วงหลังเจ้าตัวเล่นเป็นเซ็นเตอร์แบ็กเป็นหลัก
ทำให้ศักยภาพของรามอส สามารถเล่นได้ทุกตำแหน่งในแนวรับ เขาอาจไม่ประสบความสำเร็จนักในซีซั่นที่ผ่านมา แต่ถ้าวัดกันที่เรื่องฝีเท้า ยังไงก็ต้องติดท็อปเท็นของโลกแน่นอน
5. ดาวิด ลุยซ์ (เชลซี)
|
ดาวิด ลุยซ์ |
ดาวิด ลุยซ์ เป็นกองหลังที่มีพัฒนาการก้าวกระโดดมากๆในซีซั่นที่ผ่านมา ย้อนกลับไปสมัยเบนฟิก้า เขาเป็นแค่แนวรับบ้าบุกธรรมดาคนหนึ่ง แต่ซีซั่นที่ผ่านมาภายใต้การคุมทีมของราฟาเอล เบนิเตซ
ลุยซ์ ยกระดับเป็นแนวรับที่จัดจ้านมาก ทั้งเกมรับและเกมรุก นอกจากนั้นยังมีบางเกมที่เขาโดดดันไปเล่นเป็นกองกลางตัวรับอีกด้วย ซึ่งทีเด็ดของลุยซ์ อยู่ทีการเติมเกมอย่างฉลาด แถมมีทีเด็ดที่การยิงไกล และฟรีคิกอีกด้วย ซึ่งถ้าเขายังก้าวกระโดดแบบนี้ต่อไป หนทางเป็นเซ็นเตอร์แบ็กเบอร์ 1 ของโลกก็ไม่ไกลเกินเอื้อม
นอกจากผลงานในระดับสโมสรจะเยี่ยมแล้ว ในระดับชาติก็เป็นตัวหลักให้บราซิลคว้าแชมป์คอนเฟดเดเรชั่นส์คัพอย่างสวยงามอีกด้วย
4. เคราร์ด ปิเก้ (บาร์เซโลน่า)
|
เคราร์ด ปิเก้ |
หลังจากหมดยุคของการ์เลส ปูโยล ก็กลายเป็นเคราร์ด ปิเก้ ที่ขึ้นมาแทนที่ทั้งในระดับทีมชาติ และระดับสโมสร
ผลงานในซีซั่นที่แล้ว ดูเผินๆจะไม่มีอะไร แต่อย่าลืมว่าปิเก้ พาบาร์ซ่าคว้าแชมป์ลาลีกาได้แบบแต้มทิ้งขาด ขณะที่ ในคอนเฟดเดเรชั่นส์คัพก็ไปไกลถึงรอบชิงชนะเลิศ เรียกได้ว่าผลงานโดยรวมโอเค
ปิเก้ เป็นกองหลังที่มีส่วนผสมของความดุดันแบบอังกฤษ จากประสบการณ์ที่เขาเคยเล่นให้กับแมนฯยูไนเต็ดอยู่ช่วงหนึ่ง รวมกับชั้นเชิงในสไตล์ลาลีกา ทำให้ฝีเท้าของเขาไม่เหมือนใคร
กล่าวคือปิเก้ ไม่ใช่กองหลังประเภทบู๊ชน แต่เป็นแนวมันสมองคิดอ่านได้เด็ดขาด ซ้อนรองแถวสองได้ดี แต่ถึงคราวต้องปะทะ ด้วยร่างกายที่ใหญ่โตก็ทำให้เขาไม่แพ้ใครเช่นกัน
3. แวงซ็องต์ กอมปานี (แมนเชสเตอร์ ซิตี้)
|
แวงซ็องต์ กอมปานี |
แวงซ็องต์ กอมปานี เป็นกัปตันของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ และทำสถิติทีมที่เสียประตูน้อยที่สุดในพรีเมียร์ลีก เมื่อซีซั่นที่แล้ว กอมปานี คือหนึ่งในผู้เล่นที่ครบเครื่องที่สุดในตำแหน่งแนวรับ กับทีมชาติเบลเยี่ยมปัจจุบันเขาถูกดันไปเล่นกองกลางตัวรับ ขณะที่กับแมนฯซิตี้ เขาคือเซ็นเตอร์แบ็ก ซึ่งก็เล่นได้ดีทั้งสองตำแหน่ง
ที่เหนืออื่นใด คือกอมปานี เป็นคนที่มีความเป็นผู้นำสูงมาก จริงๆในซีซั่นที่ผ่านมา ถ้ากอมปานีไม่เจ็บไประยะหนึ่งเชื่อกันว่า แมนฯซิตี้จะไล่บดกับแมนฯยูไนเต็ดได้อย่างสนุกกว่านี้
สิ่งที่กอมปานียังขาดอยู่คือความสำเร็จระดับชาติ ถ้าอย่างน้อยพาเบลเยี่ยมไปแข่งฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายได้ เขาอาจจะก้าวมาเป็นกองหลังเบอร์ 1 ของโลกก็ได้ใครจะรู้
2. จอร์โจ้ คิเอลลินี่ (ยูเวนตุส)
|
จอร์โจ้ คิเอลลินี่ |
กองหลังจากอิตาลีทุกยุคทุกสมัยได้รับการขนานนามว่า เป็นพันธุ์แกร่งอยู่แล้ว และประเทศแห่งนี้ไม่เคยขาดแคลนเซ็นเตอร์ชั้นดี จากบาเรซี่ ถึงคอสตาร์คูต้า มัลดินี่ คันนาวาโร่ และ มาเตรัซซี่ ในยุคปัจจุบันถ้าพูดถึงเซ็นเตอร์แบ็กสักคน ก็ต้องเป็นคิเอลลินี่แน่นอน เขาช่วยให้ยูเวนตุสคว้าแชมป์กัลโช่ เซเรียอาได้ 2 สมัยติดกันอย่างน่าทึ่ง
นอกจากนั้นยังเป็นแกนหลักของทีมชาติอิตาลีชุดปัจจุบันด้วย โดยคิเอลลินี่ เป็นคนที่ยืดหยุ่นในการเล่นอย่างมาก เขาปรับตัวได้ดีกับระบบ เซ็นเตอร์ 2 คน หรือ เซ็นเตอร์ 3 คน
แถมในบางสถานการณ์ยังขยับตัวเองไปเล่นแบ็กซ้ายได้ด้วย นี่คือหนึ่งในกองหลังที่ดีที่สุดในยุคปัจจุบันอย่างไม่ต้องสงสัย
1. ติอาโก้ ซิลวา (ปารีส แซงต์ แชร์กแมง)
|
ติอาโก้ ซิลวา |
นี่คือเซ็นเตอร์แบ็ก เจ้าของสถิติค่าตัวแพงที่สุดในโลก มหาศาลถึง 42 ล้านยูโร แถมยังได้รับค่าเหนื่อยประมาณ 12 ล้านยูโรต่อปี ซึ่งไม่มีเซ็นเตอร์แบ็กคนไหนจะได้รับสูงมากขนาดนี้ในโลกฟุตบอล
แน่นอน ฝีเท้าของเขาไม่ใช่ของปลอม ราคานั้นพิสูจน์ฝีเท้าได้เป็นอย่างดี ซีซั่นที่ผ่านมา เขาพาเปแอสเชคว้าแชมป์ลีกเอิง พร้อมด้วยสถิติเสียประตูน้อยที่สุดในลีก นอกจากนั้นยังช่วยบราซิลคว้าแชมป์คอนเฟดเดเรชั้นส์คัพอย่างยิ่งใหญ่ โดยนัดชิงถล่มสเปน 3-0 แบบไม่เสียประตู
จุดเด่นของติอาโก้ ซิลวา คือทั้งแกร่งและเร็วมาก ในทีมชาติบราซิลชุดปัจจุบัน มีคำกล่าวว่า ติอาโก้ มีความเร็วที่สุดติดอันดับท็อปทรีของทีม สูสีกับเนย์มาร์เลยทีเดียว ทั้งๆที่เขาเล่นตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็ก
ในตอนนี้เจ้าตัวมีอายุ 28 ปี ถือว่าเป็นจุดพีกของผู้เล่นในตำแหน่งนี้ ซึ่งถ้ายังรักษาฟอร์มได้ต่อไปล่ะก็ เขาก็น่าจะครองตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็กเบอร์ 1 ของโลกไปได้อีกนาน